ตามคำพยากรณ์ของ โสรัจจะ นวลอยู่ มือวางอันดับต้นๆของวงการ ดวงประเทศไทยปีนี้ไม่สดใสนัก
เจ้าของฉายา “นอสตราดามุสเมืองไทย” ชี้ว่าไม่อาจคิดถึงเรื่องบรรเจิดใดๆ ได้เลย แค่หวังว่าไม่เลวร้ายมากไปกว่าเดิมก็พอแล้ว
เช่น ด้านการเมืองก็ถือว่าน่าเป็นห่วง หากผู้นำหรือนักการเมืองระดับสูงยังดื้อดึง ไม่ยอมลดศักดิ์ศรีมาสู่ระดับสามัญสำนึกเฉกเช่นประชาชนทั่วไป ก็จะต้องฟันฝ่าอุปสรรคด้วยตัวเอง
ผู้มีอำนาจวาสนาก็อย่าได้นิ่งนอนใจ ต้องระวังสุขภาพและความยุ่งยาก จะประมาทไม่ได้ เพราะประวัติศาสตร์ที่ผ่านมานับศตวรรษ ย่อมสอนได้ว่าโลกนี้หามีความเที่ยงแท้ใดๆ
ส่วนด้านเศรษฐกิจนั้นจำกัดความได้สั้นๆ ว่า “ฝืดเคือง” ข้าวของขายไม่ออก เงินทองไม่สะพัด ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำแต่ค่าครองชีพสูงลิ่ว
เดือนหน้าวันที่ 7 สิงหาคม ที่จะมีการลงประชามติ ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของสังคมไทยที่อยู่ในสภาวะแช่แข็งมากว่า 2 ปี ในทางโหราศาสตร์ก็ตรงกับวันที่พระพฤหัสบดีย้ายจากราศีสิงห์เข้าสู่ราศีกันย์ มาอยู่ในภพอริกับลัคนาราศีเมษ พอดิบพอดี
โสรัจจะ ทำนายว่า การบริหารราชการแผ่นดินมีอุปสรรคยุ่งยาก เศรษฐกิจซบเซา หุ้นตก มิจฉาชีพคุกคามสวัสดิภาพของสุจริตชน
เรื่องภัยธรรมชาติ โหรโสรัจจะ บอกว่าเป็นเดือนที่ “เปราะบางและอ่อนไหว” อาจเกิดเหตุที่สร้างความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองอาจต้องหาทางแก้ไขความปั่นป่วนของฝูงชน
ส่วน ฟองสนาน จามรจันทร์ อดีตผู้สื่อข่าวอาวุโสผู้ชำนาญการอ่านดวงเมือง ผู้จำกัดความพ.ศ.2559 ว่าเป็น “ปีจริงของการพลิกผันและฟันฝ่าในด้านเศรษฐกิจและการเมือง” ให้ความหวังว่าอะไรๆ จะดีขึ้น โดยทำนายว่า
“ตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม 2559 เป็นต้นไป ความปั่นป่วนไม่แน่นอนในเมืองอันเนื่องมาจากดาวหลายดวงเดินผิดปกติหรือวิกลคติ จบลง ประเทศชาติจะนิ่งขึ้น การแก้ไขปัญหาต่างๆ จะทำได้ง่ายกว่าเดิมเพื่อเดินหน้าประเทศชาติ”
“7 กันยายน เป็นต้นไป เริ่มส่อแววหรือเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์เรื่องการเลือกตั้ง ”
แม้ช่วงหลังจาก 7 สิงหาคม ฟองสนานทำนายว่าจะเกิดเรื่องแย่ๆ อาทิเดือนตุลาคมอยู่ในเกณฑ์มีพายุเข้า ให้ระวังอุบัติเหตุ มีโอกาสเกิดพายุทางใต้ ปริมาณน้ำมากไปถึงสิ้นปี มีความขัดแย้งระหว่างฝ่ายการเมืองกับทหารหรือคนในเครื่องแบบ และยังเตือนว่าให้ระวังการปะทะกันในเมือง
ทว่าหลังจากวันที่ 9 ธันวาคม เป็นต้นไป ดวงเมืองมีความก้าวหน้า ประสบความสำเร็จเกี่ยวกับองค์กรนิติบัญญัติ การเลือกตั้งท้องถิ่นเริ่มเห็นผลจากการต่อสู้ดิ้นรนให้พ้นจากแรงกดดันต่างๆ
ถ้าเป็นชะตาของคนเรียกได้ว่า “แคล้วคลาด” ใครทำอะไรไม่ได้ มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญในเมือง ฝ่ายหญิงจะมีคดี การค้าฟื้นตัว แต่ยังต้องระวังเรื่องพายุกับไฟไปจนถึงสิ้นปี
ฟองสนาน ยังบอกใบ้คนที่เข้าข่ายเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่อีกว่า
“สถานการณ์จะหมุนไป จนคาดว่าจะได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ช่วง 14 กุมภาพันธ์ – 16 มีนาคม 2560 หากนักการเมืองคนมีดวงชะตาได้โชคเทวฤทธิ์ข้อที่ 1 หรือได้เกณฑ์ เช่น นระเอกเกณฑ์ อัมพุเกณฑ์ ปัศวเกณฑ์ หรือกีฏะเกณฑ์ มีดาวจรมาเป็นคู่มิตรหลายๆ คู่ประกอบ เขาหรือเธอนั่นแหละคือนายกรัฐมนตรี”
ส่วน อรรถวิโรจน์ ศรีตุลา– นักพยากรณ์ชื่อดัง ให้ความเห็นว่า ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงตุลาคมนั้น เป็นช่วงที่ดวงโลกมีการเปลี่ยนแปลงพอดี ดังนั้น ไม่แปลกที่ดวงเมืองของประเทศไทยจะเปลี่ยนตามไปด้วย
ในภาพรวมของโลก ประเทศจีน, ไต้หวันอาจเกิดน้ำท่วม แผ่นดินไหวหรือพายุพัดเข้าประเทศได้ ขณะที่ไทยเองอาจได้รับผลกระทบด้วย แต่อาจจะเกิดที่ต่างจังหวัดโดยไม่รุนแรงมากนัก
“ที่ประเทศอังกฤษจะมีการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เช่น นายกรัฐมนตรีคนใหม่ เงินยูโร ประเทศอเมริกาก็จะมีประเด็นเรื่องสีผิวเกิดขึ้น ซึ่งคงต้องบอกว่าเป็นระยะที่อันตรายทีเดียว เป็นช่วงที่ดวงโลกรุนแรง”
หมอดูดังยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ในประเทศไทยเองอยู่ใต้ลักขณาราศีเมษ ถึงอย่างไรเสียก็ยังจะต้องบริหารบ้านเมือง บริหารประเทศต่อไปเป็นหลัก โดยทหารจะมีอำนาจสูง ไม่ว่าจะเป็นทหารที่ปัจจุบันยังประกอบอาชีพเป็นทหารอยู่ หรือทหารที่เกษียณไปแล้ว
“ภายในเดือนสิงหาคม กันยายนและตุลาคม คณะรัฐมนตรียังต้องมีทหารคุมอยู่ เพราะตามดวงเมืองแล้ว ทหารสามารถควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ได้ เรื่องต่างๆ ถ้าไม่มีทหารก็จะมีปัญหาปั่นป่วนเหมือนเดิม”
โหรอรรถวิโรจน์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากเรื่องการเมืองแล้ว ประเด็นเศรษฐกิจในบ้านเมืองก็ยังน่าเป็นห่วงเช่นกัน
“เพราะเศรษฐกิจยังมีปัญหาวุ่นวายใจ และยังอยู่ในสถานการณ์ ภาวะที่ไม่ค่อยดีนัก ถ้าเราปล่อยปละละเลยก็จะไม่ดี เพราะนี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับประชาชน แล้วถ้าเทียบกับต่างประเทศแล้วประเทศเรายังด้อยอยู่ ถ้ามองเรื่องการศึกษาก็ยังไม่ถึงขั้น เราจะทำอะไรก้าวกระโดดไปไม่ได้ ต้องมีขั้นตอน แต่ละขั้นตอนที่จะทำได้อย่างรวดเร็วคือให้การศึกษา ต้องให้ประชาชนรู้เรื่องว่าประชาธิปไตยคืออะไร”
“ในฐานะหมอดูก็ได้แต่บอกเตือนประชาชนล่วงหน้าเช่นนี้ แต่จะสั่งประชาชนว่าจะให้เตรียมตัวอย่างไรนั้นทำไม่ได้ ได้แต่แนะแนวทาง” หมอดูดังกล่าว และว่า ในเรื่องการเมือง ถ้าจะให้ดีขึ้นก็ให้ทหารดูแลไปก่อน เนื่องจากดวงเมืองอยู่ในราศีเมษซึ่งเป็นดวงของทหารด้วย”
“ตอนนี้ดาวอังคาร ดาวเสาร์พักอยู่ ประเทศไทยก็อาจจะวุ่นวายไปอีกสักปีหนึ่ง ส่วนตัวไม่ได้เข้าข้างทหารแต่พูดตามดวงเมือง แต่ถ้าทหารไม่มาบริหารก็ต้องใช้ความเด็ดขาด เด็ดเดี่ยวตามอิทธิพลของดาวอังคาร”
“อย่างไรก็ดี ดวงเมืองจะดีขึ้นตอนเดือนธันวาคมถึงมกราคม มีดวงเปลี่ยนแปลง โดยจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ตอนนี้ใช้การตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวเป็นหลักและเน้นเอาความอยู่รอดไว้ก่อน” โหรดังสรุปในที่สุด
ถือเป็น “คำเตือน” จากพื้นฐานของสถิติศาสตร์ -โหราศาสตร์ ที่่ไม่น่ามองข้าม
