เปิดใจ ‘มารีญา’ 1 ปี ประสบการณ์สุดล้ำค่า ‘มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์’

นับเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าที่มีผู้หญิงเพียงไม่กี่คนที่จะก้าวมายืน ณ จุดสูงสุดที่ได้ครอบครอง “มงกุฎมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์” และได้เป็นตัวแทนประเทศไปประกวดบนเวทีระดับโลก “มิสยูนิเวิร์ส”

เฉกเช่นเดียวกับ “มารีญา พูลเลิศลาภ” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 ที่ตลอด 1 ปีที่ดำรงตำแหน่งอันทรงเกียรติ และยังสามารถคว้าท็อป 5 การประกวดมิสยูนิเวิร์ส ที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา

มารีญาเปิดใจว่า ตลอด 1 ปีที่ดำรงตำแหน่งเป็นความทรงจำอันแสนงดงามที่เธอจะจดจำไปตลอดชีวิต

เมื่อย้อนกลับไปในวันแรกที่มาสมัคร มารีญาเล่าว่า เธอมาพร้อมความฝัน จำได้เลยว่า “รู้สึกหนาวมาก เพราะตื่นเต้นมาก แต่ก็สนุกด้วย”

Advertisement

ขณะที่ในรอบคัดเลือกสาวงามเข้ารอบ 40 คน มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ มารีญาก็มีรายชื่อเป็นคนสุดท้ายที่คณะกรรมการประกาศ เสี้ยววินาทีนั้น…

เจ้าตัวว่า “ลุ้นแทบตาย!!”

แต่กระนั้น “ก็เป็นวันที่สำคัญมาก เพราะเป็นวันที่เริ่มต้นทุกสิ่งทุกอย่าง” มารีญาเล่าด้วยรอยยิ้ม และเล่าถึงวินาทีที่สวมสายสะพายไทยแลนด์ พร้อมมงกุฎ เดินออกไปทำหน้าที่เป็นตัวแทนประเทศไทยบนเวทีประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2017 ว่า ตอนแรกคิดว่าตัวเองจะกลัวและเกร็ง แต่พอยืนอยู่ ณ จุดนั้นความรู้สึกภาคภูมิใจได้กลบทุกอย่าง เพราะชุดที่ใส่ทุกคนตั้งใจทำ เป็นฝีมือคนไทย และรู้สึกได้ถึงความรักและกำลังใจจากคนไทยทุกคน อบอุ่นหัวใจมากๆ อยากทำทุกอย่างเพื่อให้ทุกคนภูมิใจ

“มารีญามีคำถามกับตัวเองมาตลอดว่า เราสามารถทำอะไรเพื่อสังคมได้บ้าง ซึ่งตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สก็ได้สอนให้มารีญาได้เรียนรู้ อย่างแรกคือเกี่ยวกับตัวเอง ด้วยเป็นคนที่มักจะประหม่าเวลาเดินอยู่บนเวที แม้ว่าจะเดินแบบมานานแล้ว แต่การเดินแบบคือการนำเสนอเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับที่สวมใส่ ขณะที่การเป็นนางงามคือต้องเผยตัวตน นำเสนอความเป็นตัวเองผ่านทัศนคติ และมุมมองต่างๆ ทำให้รู้สึกเหมือนเดินออกไปข้างนอกแบบไม่ใส่เสื้อผ้า ทุกคนสามารถมาจิ้มตัวเราได้หมด แสดงความคิดเห็นอย่างไรกับเราก็ได้ เพราะทุกคนรู้จักเรา และอ่านเราออก ซึ่งมันอาจเป็นทั้งข้อดีและไม่ดี แต่มารีญาคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะหากเราไม่เคยเจอก็จะไม่รู้ว่าจะต้องรับมือยังไง” สาวลูกครึ่งไทยสวีเดนกล่าว และว่า

ถ่ายภาพกับเดมี-ลีห์ เนล-ปีเตอร์ส มิสยูนิเวิร์ส 2017

“ต่อมามารีญาก็ได้เรียนรู้ว่าความมั่นใจนั้นมีขึ้นและมีลง ในตอนแรกคิดว่าความมั่นใจ เมื่อมั่นใจแล้วก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในความเป็นจริงไม่ใช่เลย เพราะฉะนั้นก็จะมีช่วงเวลาที่ไม่มั่นใจและรู้สึกนอยด์ จึงต้องมีวิธีฟื้นฟูตัวเอง ให้ปัญหาที่เจอเปลี่ยนเป็นกล้ามเนื้อเส้นนั้น เส้นที่จะเสริมให้เราแข็งแกร่งขึ้น”

และสิ่งหนึ่งที่ทำให้เจ้าของส่วนสูง 184 ซม. คนนี้ยิ้มไม่หุบ และเล่าด้วยความตื่นเต้น คือ “แฟนคลับ” ที่สาวเจ้าบอกเลยว่า เป็นเหมือนแรงผลักดัน และแรงบันดาลใจตลอดมา

“แฟนคลับน่ารักมากๆ ให้กำลังใจเสมอ และทุกครั้งที่รู้สึกท้อ พอเห็นกำลังใจที่แฟนๆ ส่งมา รู้สึกเหมือนได้รับพลังงาน และพร้อมที่จะลุกขึ้นสู้อีกครั้ง”

อย่างไรก็ตาม เวลาที่จะต้องอำลาตำแหน่งก็ใกล้เข้ามาแล้ว มารีญาเผยว่า เวลาใหม่มาถึงแล้วสำหรับคนต่อไปที่จะต้องไปสู้เพื่อประเทศไทย ส่วนเธอก็พร้อมที่จะส่งต่อมงกุฎแล้ว โดยอยากฝากถึงตัวแทนสาวงามคนต่อไปว่า

“ถ้าได้รับมงกุฎแล้ว นั่นหมายความว่าคุณคือผู้ถูกเลือก ที่ได้ผ่านทุกจุดของกองประกวดมาแล้ว มารีญาจึงเชื่อมั่นว่าจะต้องทำได้ ให้เรียนรู้เยอะๆ และที่สำคัญเมื่ออยู่บนเวทีจะมีหลายคนมาบอกให้ทำแบบนั้นแบบนี้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ อย่าหลงลืมการเป็นตัวของตัวเอง ว่าเราเป็นยังไง มาเพื่ออะไร ให้คิดถึงเป้าหมายนั้นไว้ และเดินหน้าต่อไป” มารีญาย้ำ ก่อนทิ้งท้ายถึงแพลนที่วางไว้หลังอำลาตำแหน่งว่า

 

“ตอนนี้ทำงานในวงการบันเทิงเยอะมาก ถ้างานที่รับไว้ทุกอย่างสำเร็จครบหมดแล้ว อาจจะขอพักก่อน เพราะอยากโฟกัสในโครงการเพื่อสังคม 100% โดยเบื้องต้นมี 2 โครงการ คือโครงการเกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อม อยากกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น และอีกหนึ่งโครงการได้พูดไว้ตั้งแต่แรกๆ คือการรณรงค์เรื่องท้องไม่พร้อม” มารีญากล่าว

ทั้งนี้ มารีญาได้เล่าถึงโครงการที่ตั้งใจจะทำในอนาคตอันใกล้นี้ว่า เมื่อปีที่แล้วเธอได้เข้ามาพูดคุยกับน้องๆ ที่บ้านพักฉุกเฉิน เพื่อให้ได้ข้อมูลมากขึ้นเกี่ยวกับ “คุณแม่วัยใส” และมองว่าเรื่องการท้องไม่พร้อมยังคงเป็นเรื่องที่อ่อนไหวในสังคมไทย อาจจะต้องมีการรณรงค์หรือทำกิจกรรมอีกมากเพื่อให้ คุณแม่วัยใส หรือผู้หญิงทุกคนที่ประสบปัญหาการถูกคุกคามทางเพศ และอื่นๆ ได้มีพื้นที่ที่กล้าจะแสดงออกและสามารถออกมาพูดถึงเรื่องราวของตัวเอง อย่างไม่ต้องรู้สึกผิดหรืออับอาย เพราะผู้ถูกกระทำไม่ใช่คนผิด

“มารีญาอยากจะทำโครงการในรูปแบบของแคมป์ ที่สอนให้เด็กๆ ได้เรียนรู้เรื่องทีมเวิร์ก สอนให้กล้าที่จะพูดและแสดงออก เพราะจากการสังเกตหลายครั้ง พบว่า บางคนจะรู้สึกว่าเขาไม่มีเสียง ไม่กล้าที่จะพูด และไม่กล้าที่จะปฏิเสธ และหลายคนต้องเจอเรื่องแบบนี้ในชีวิต ซึ่งไม่ได้ช่วยเฉพาะคุณแม่วัยใส แต่ช่วยผู้หญิงทุกคนทั้งในชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว มารีญาคิดว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญและเราต้องผลักดัน” มารีญากล่าว และว่า

สำหรับบทบาทของการเป็น ‘แม่’ ที่ไม่ใช่เฉพาะคุณแม่วัยใส ส่วนใหญ่จะต้องทิ้งงานเพื่อมาดูแลลูกๆ หรือหากไม่ทิ้งงาน ก็ต้องจ้างพี่เลี้ยงมาดูแลลูกให้ การเลี้ยงดูลูกคือต้องมีคนช่วยตลอด ขณะที่น้องๆ ที่เป็นแม่วัยใส ส่วนใหญ่มักจะไม่มีคนช่วย ด้วยหลายๆ เหตุ เช่น ถูกกีดกันจากสังคม สังคมไม่ยอมรับ หรือแม้กระทั่งตัวของคุณแม่วัยใสเองที่รู้สึกผิด จึงรู้สึกว่าการมีสถานที่ดีๆ อย่าง บ้านพักฉุกเฉินดอนเมือง ที่คอยให้ความช่วยเหลือ น้องๆ ก็สามารถกลับไปเรียน หรือออกไปหางานทำได้ ชีวิตก็ดำเนินต่อไปได้”

นอกจากนี้มารีญายังได้หยิบยกแนวทางการแก้ปัญหามาบอกเล่าให้ฟังว่า “ขณะนี้ที่อเมริกากำลังอินมาก กับการมีเนิร์สเซอรี่ในที่ทำงาน เพื่อไม่ให้คุณแม่ต้องเลือกระหว่างลูกหรืองาน และในขณะเดียวกันยังมีการรณรงค์ให้เรื่องการเลี้ยงลูกควรเป็นกิจกรรมที่ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ต้องช่วยกัน ไม่ใช่บทบาทของผู้หญิงอย่างเดียวเท่านั้น จุดนี้มารีญาเลยมองว่าในประเทศไทยก็อาจจะสามารถทำแบบนี้ได้”

ทั้งนี้ เธอยังได้ทิ้งท้ายถึงอีก 1 โครงการที่สาวเก่งตั้งใจจะทำร่วมด้วย คือ “การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม” โดยเธอเล่าว่า เมืองไทยสวยมาก โดยเฉพาะทะเลไทยที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวย และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว

“แต่สิ่งที่น่ากลัวมากในปัจจุบัน คือเมืองไทยเป็นเมืองต้นๆ ที่มีการนำขยะพลาสติกลงสู่ทะเล ซึ่งทุกคนอาจจะเห็นในข่าวเมื่อไม่นานมานี้ มารีญารู้สึกว่าเราควรจะต้องเปลี่ยนอะไรบางอย่างในชีวิตประจำวัน เช่น การเปลี่ยนจากใช้หลอดดูดพลาสติก เป็นใช้หลอดอะลูมิเนียมแทน ซึ่งตอนนี้ก็เป็นเทรนด์มาบ้างแล้ว เป็นเรื่องที่ดีมาก ยิ่งถ้าเทรนด์กำลังมา เราต้องรีบรณรงค์ เพราะกำลังอยู่ในกระแส ด้วยส่วนหนึ่งมารีญามองว่า กลุ่มเด็กและคนรุ่นใหม่มักจะเรียนรู้หลายๆ อย่างผ่านทางโลกโซเชียล ยกตัวอย่างเช่น เทรนด์รักสุขภาพ ออกกำลังกาย และเรื่องการกินอาหาร ซึ่งหมายความว่าทุกคนสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันเพื่อช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้เช่นกัน”

แม้จะต้องอำลาตำแหน่งในไม่กี่วันหลังจากนี้ แต่เชื่อว่า “มารีญา” จะยังคงอยู่ในใจคนไทยตลอดไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image