โค้งสุดท้าย มิสยูนิเวิร์สไทยฯ 2018 รู้จัก ‘ตัวเก็ง’ 6 สาวฮอต!!

ลุ้นกันมาตั้งแต่วันรับสมัคร จนอีกไม่กี่วันก็จะทราบผลว่า ใครจะ “มงลง” คว้ามงกุฎอันทรงเกียรติ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2018 เป็นตัวแทนประเทศไทยไปสู่ “จักรวาล” กันแล้ว

ปีนี้ กรรมการคงต้อง “กุมขมับ” เพราะสาวงามแต่ละคน นอกจาก “สวย” แล้ว โปรไฟล์ยังเริ่ด ส่วนศักยภาพนั้น ไม่ต้องพูดถึง แต่ละคนนั้นเรียกว่า “ไม่ธรรมดา” โดยเฉพาะผู้เข้าประกวดที่ไม่เคยผ่านเวทีใดมาก่อน และมาสมัครที่เวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์เป็นครั้งแรก แต่มีคุณสมบัติ และฉายแววว่า “มงจะลง”

เริ่มด้วย หมายเลข 20 โศภิตา กาณจนรินทร์ หรือ “นิ้ง” อายุ 23 ปี สูง 169 ซม. จบปริญญาตรีคณะ Business administration สาขา Finance จากมหาวิทยาลัยเนวาด้า ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา สาวสวยตาเฉี่ยว ที่มาพร้อมกับมาดนิ่งๆ ในเอเซียนลุค ดีกรีผู้จัดการฝ่ายวาณิชธนกิจ หรือที่ปรึกษาทางการเงิน

เล่าว่า เป็นครั้งแรกที่มาประกวดนางงาม อาจจะยังขาดประสบการณ์ด้านนี้บ้าง แต่เธอเชื่อว่าความสามารถพัฒนาได้ เช่นเดียวกับที่ในสมัยก่อน เธอเป็นเด็กเรียนไม่เก่ง เมื่อไปเรียนที่ลาสเวกัสก็ถูกเชิญออกเพราะสื่อสารภาษาอังกฤษไม่ได้ นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้ลงมือศึกษาภาษาอังกฤษด้วยตนเอง และสามารถเรียนไฮสกูลจนจบภายใน 1 ปีครึ่ง และจบปริญญาตรีภายใน 3 ปีครึ่งพร้อมรางวัลเกียรตินิยม

“นิ้งเป็นคนที่มีความอุตสาหะในทุกๆเรื่อง นิ้งเรียนจบมาด้วยความอุตสาหะและพากเพียร การเข้ามาประกวดนางงามคือความฝัน นิ้งตั้งใจเรียนเพราะอยากให้พ่อแม่ภูมิใจ ซึ่งทำสำเร็จแล้ว ตอนนี้จึงอยากสานฝันของตัวเอง”

Advertisement

“หากได้เป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ นิ้งอยากเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆที่เรียนไม่เก่ง ว่าอย่าท้อ ให้สู้ต่อไปเพื่อตัวเอง และเพื่ออนาคต ระบบการศึกษาไทยควรเน้นเรื่องการให้โอกาสเด็กได้แสดงออกในความสามารถที่แตกต่างกัน ส่วนอีกเรื่องที่นิ้งอยากทำคือการรณรงค์ให้บริษัทต่างๆ เปิดโอกาสให้ผู้พิการได้มีพื้นที่ในสังคม มองว่าเป็นคนที่มีคุณค่า และควรได้รับการส่งเสริม” สาวสวยผู้จัดการกล่าว

มาต่อที่สาวสวยสดใส หมายเลข 11 วาเลนตินา จาร์ดุลโล หรือ “พลอย” อายุ 24 ปี สูง 165 ซม. กำลังศึกษาปริญญาโท ปีที่ 2 คณะ Letters สาขา Lauguages for International Cooperations มหาวิทยาลัย Suor Orsola Benincasa สาวสวยคนนี้เคยประกวดร้องเพลง “เดอะวอยซ์ไทยแลนด์” มาก่อน นอกจากแก้วเสียงที่ไพเราะแล้ว สาวลูกครึ่งไทย-อิตาลี ยังสื่อสารได้ถึง 5 ภาษา ทั้งไทย อิตาลี อังกฤษ สเปน และฝรั่งเศส ซึ่งมาจากการชอบท่องเที่ยวของเธอ ที่เมื่อว่างเมื่อไหร่ก็สะพายเป้ออกเดินทางตลอด

“ชอบเดินทางเพราะได้เรียนรู้วัฒนธรรมของแต่ละประเทศที่ได้ไปเยือน และพลอยชอบภาษามาก ภาษาเป็นเหมือนพาสปอร์ต ที่เวลาไปไหนก็สามารถสื่อสารได้ ทั้งยังเป็นการทำความรู้จักตัวเองในอีกทางหนึ่ง ส่วนการประกวดนางงามต้องบอกว่าเป็นจังหวะชีวิต เพราะพลอยติดตามการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์มาตั้งแต่สมัยของพี่แนท และชอบมาก ตั้งใจไว้นานแล้ว”

“พลอยอาจจะไม่ใช่สเป็กของนางงาม คือพลอยไม่ได้สูงหรือสวยที่สุด  เพราะฉะนั้นพลอยจึงอยากเป็นแรงบันดาลใจให้สาวๆทุกคนเห็นว่า พลอยมาสมัครได้ทุกคนก็ทำได้” สาวสวยเสียงดีกล่าวด้วยรอยยิ้ม และทิ้งท้ายว่า

“หากได้เป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ พลอยอยากสานต่อกิจกรรมจิตอาสาเกี่ยวกับการสร้างพัฒนาเมืองสำหรับคนไร้บ้าน ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งได้แนวคิดจากการไปทำกิจกรรมจิตอาสาที่เนปาล”

ขณะที่ หมายเลข 10 ฐิตารีย์ เกษร หรือ “นุ๊ก” อายุ 22 ปี สูง 173 ซม. ว่าที่บัณฑิตคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาออกแบบแฟชั่น มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สาวเมืองกรุงที่เรียกกระแสชื่นชมในความสวยตั้งแต่วันแรกที่มาเข้าสมัคร เผยว่า วันแรกที่มาสมัคร ตื่นเต้นมากเพราะเป็นครั้งแรก แล้วพอได้รับกระแสตอบรับที่ดีก็คิดว่าต้องพัฒนาตัวเองและโชว์ศักยภาพให้ทุกคนที่เชียร์เรา และคณะกรรมการได้เห็น

“วันแรกที่มาสมัคร ตื่นเต้นมากเพราะเป็นครั้งแรก แล้วพอได้รับกระแสตอบรับที่ดีเราก็คิดว่าต้องพัฒนาตัวเองและโชว์ศักยภาพให้ทุกคนที่เชียร์เรา และคณะกรรมการได้เห็น เพราะนุ๊กมองว่าทุกคนที่มาเข้าประกวดมีดีหมดเลยเรายิ่งต้องเร่งพัฒนาตัวเอง”

“หากได้เป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ นุ๊กอยากสานต่อเรื่องพัฒนาภูมิปัญญาไทยในรูปแบบเสื้อผ้า เช่น เสื่อกระจูดพัทลุง ที่นุ๊กพัฒนาออกแบบให้กลายเป็นเสื้อผ้าเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าซึ่งเป็นวิทยานุพนธ์ตัวจบของนุ๊ก คนชอบมองว่าประเทศไทยเป็นประเทศแรงงาน แต่ถ้ามองให้ดีจะพบว่าประเทศไทยมีของดีเยอะ และนุ๊กมองว่าเรามีศักยภาพ แต่ต้องเริ่มจากการพัฒนาภูมิปัญญาของไทย เพราะเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว และใกล้ชิดกับคนไทยมากที่สุด” ว่าที่ดีไซเนอร์สาวกล่าว

ด้านสาวสวยที่เคยมีผลงานการเล่นละครมาก่อน หมายเลข 12 พลิตา พุทธวัสสุ หรือ “จุ๊บจิ๊บ” อายุ 25 ปี สูง 170 ปี จบการศึกษาปริญญาโทคณะ Business Management in Creative Industries มหาวิทยาลัย De Monfort University ประเดิมรางวัลแรกในการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ปีนี้ไปครอง ทั้งยังมีดีกรีเป็นดรัมเมเยอร์ ม.ธรรมศาสตร์ เผยว่า จุดเริ่มต้นที่มาสมัครเพราะการประกวดนางงามคือความใฝ่ฝันตั้งแต่เด็ก ที่อยากจะสวมมงกุฎ ในขณะที่ยังเป็นเด็กอาจจะยังไม่คิดอะไรมาก แต่พอโตขึ้นจึงเริ่มมั่นใจว่าอยากจะเป็นนางงาม ซึ่งถ้าได้เป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ แน่นอนว่าความฝันเล็กๆของเธอจะกลายเป็นความหวังของประเทศด้วยจึงอยากจะทำให้ดีที่สุดตั้งแต่วันนี้

“ส่วนการได้รางวัลเบสท์ สวิมซูทถือว่าเป็นก้าวแรกที่ทำให้ดีใจมาก การได้รางวัลเหมือนเครื่องดื่มชูกำลังที่ช่วยบูสท์ให้เราฮึดสู้ขึ้นมาได้อีก ขณะที่การเป็นดารากับนางงาม มีความคล้ายตรงที่ว่าอยู่ในจุดที่ทุกคนมองเห็น ทุกคนสามารถวิจารณ์เราได้ แต่ความต่างคือการเป็นดาราเราสามารถเป็นตัวของตัวเองได้เลย ส่วนการเป็นนางงามเราต้องพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นตลอดเวลาเพื่อให้เหมาะสมกับการเป็นนางงาม คือต้องมีความพร้อมในหลายๆ ด้าน” จุ๊บจิ๊บกล่าว

อีกหนึ่งสาวหมายเลข 9 อนิพรรณ เฉลิมบูณะวงศ์ หรือ “นิต้า” อายุ 25 ปี สูง 174 ซม. ปริญญาตรีคณะวิทยาศาสตร์ สาขาเทคโนโลยีทางภาพและการพิมพ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยผ่านผลงานด้านการแสดงมาก่อน ตลอดจนเป็นที่รู้จักในฐานะพี่สาวของ “แนท-อนิพรณ์” มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2015

นิต้าเล่าว่า หากมองผิวเผินเธออาจจะดูเหมือนนิ่งขรึม แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นคนที่มีพลังงานเยอะมาก และร่าเริงแจ่มใส ส่วนจุดเริ่มต้นที่ทำให้มาสมัครคือนิต้าโตมากับตายาย เธอจึงเป็นคนที่ชอบอยู่ในกรอบ เช่น ไม่นอนดึกไม่ตื่นสาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่พอมาถึงจุดหนึ่งที่รู้สึกว่าวงจรชีวิตวนอยู่แต่แบบเดิม จึงอยากได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ และในการมาประกวดครั้งนี้เธอทำใจมาแล้วว่าต้องมีทั้งคนที่ชอบและคนที่ไม่ชอบ

“ความแตกต่างของการเป็นดารากับนางงามคือ การเป็นดาราเราต้องสวมบทแสดงเป็นคนอื่น แต่การเป็นนางงามคือเราสามารถเป็นตัวของตัวเอง ได้ใช้ความรู้ทุกอย่างที่เราเคยเรียนมา ตลอดจนการพัฒนาความคิดที่เราสามารถใช้ไปพัฒนาสังคม” นิต้ากล่าว

ปิดท้ายที่ หมายเลข 14 ปวีนา ซิงห์ หรือ “วีนา” อายุ 22 ปี สูง 178 ซม. สาวอินเดียตาคมแต่เกิดและโตที่เมืองไทย จบการศึกษาปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์ สาขาภาษารัสเซีย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้มีเสียงเชียร์ล้นหลามตั้งแต่ต้นไม่มีแผ่ว เผยว่า เป็นครั้งแรกที่มาสมัครในเวทีนางงาม เพราะเป็นความฝันตั้งแต่เด็ก การเป็นนางงามไม่เพียงต้องสวย แต่ต้องมีทัศนคติ และแนวคิดที่ดี

“ดีใจมากที่ผ่านเข้ารอบ 40 คน เพราะคิดว่ากรรมการคงเห็นอะไรในตัวเรา หากได้เป็นมิสยูนิเวิร์ส อยากรณรงค์เรื่องการคุกคามทางเพศในสังคมไทย เพราะมันคือความไม่เท่าเทียม โดยในช่วงที่ผ่านมาสถานการณ์การคุกคามทางเพศวิกฤตขึ้นเรื่อยๆ จึงคิดว่าเป็นปัญหาที่ควรได้รับการแก้ไข” วีนากล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง

จริงๆ ทั้ง 40 คนต่างมีความสวยและความสามารถทุกคน แต่ใครจะเข้าตากรรมการที่สุด ในการประกวดรอบตัดสิน วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน รู้กัน!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image