บูชา’เทพนพเคราะห์’ เสริมมงคล รับปีใหม่ไทย

เทศกาลสงกรานต์ ปี 2559 กรมศิลปากร โดยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ชวนประชาชนร่วมกิจกรรมสรงน้ำพระบรมธาตุ และเทพนพเคราะห์ เพื่อเสริมสิริมงคลให้แก่ชีวิตและครอบครัว

สำหรับการบูชาเทพนพเคราะห์ หรือพะเคราะห์ ผู้บูชามักมีความประสงค์ให้เทพประจำกายช่วยปกปักรักษาจากภัยพิบัติต่างๆ พร้อมเสริมบารมีให้ประสบแต่ความสุขความเจริญ แต่เมื่อใดที่เทพนพเคราะห์เข้าเสวยอายุ หลายคนคงเกิดความหวาดหวั่น เพราะการเสวยอายุของพะเคราะห์มีทั้งให้คุณและให้โทษ

ดังนั้น เพื่อความสบายใจ ควรทำพิธีรับพะเคราะห์ไว้ เพราะการเสวยอายุถ้าดี จะได้ดียิ่งขึ้น ถ้าไม่ดีจะได้ผ่อนหนักเป็นเบา

การทำพิธีรับพะเคราะห์ ปัจจุบันหากจะทำพิธีกรรมใหญ่โต หลายคนคงจะไม่สะดวก เพราะมีข้อจำกัดในหลายๆ ด้าน อาทิ งบประมาณ สถานที่ เวลา เป็นต้น ซึ่งจริงๆ แล้ว การแก้เคราะห์กรรมที่ดี ก็ทำได้ไม่ยากเพียงแค่หมั่นทำบุญทำทาน ปล่อยนกปล่อยปลา แผ่เมตตาอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลบ้าง หรืออีกวิธีหนึ่งคือการบูชาเทพนพเคราะห์ประจำวันเกิด ซึ่งกรมศิลปากรได้จัดเตรียมงานไว้แล้วสำหรับช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลวันสงกรานต์

Advertisement

*นายอนันต์ ชูโชติ* อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลปากรได้อัญเชิญพระบรมธาตุ ที่พบในพระกรัณฑ์ (ผอบ) ก้านพระรัศมีพระพุทธสิหิงค์ และเทพนพเคราะห์ 9 องค์ มาให้ประชาชนได้สรงน้ำและกราบไหว้บูชาขอพรจากเทพนพเคราะห์ ซึ่งแต่ละคนเมื่อเกิดมาจะมีเทพนพเคราะห์ประจำวันเกิด และในแต่ละช่วงชีวิตเทพนพเคราะห์จะหมุนเวียนเข้าเสวยอายุ กำหนดปีการเสวยอายุตามกำลังของเทพแต่ละองค์ ซึ่งจะส่งผลร้ายหรือดีต่อมนุษย์ขึ้นอยู่กับประเภทของเทพนพเคราะห์ว่าเป็นฝ่ายบาปเคราะห์หรือศุภเคราะห์ หรือความเข้ากันได้หรือไม่กับเทพประจำวันเกิด ดังนั้น ในวันสงกรานต์ซึ่งถือเป็นวันดี จึงเป็นโอกาสที่จะได้เริ่มต้นปีใหม่ไทยด้วยสิริมงคลตามแบบแผนประเพณีที่ดีงามต่อไป

เทพนพเคราะห์มีต้นกำเนิดมาจากโหราศาสตร์ฮินดูที่นับถือพระสุริยเทพ (พระอาทิตย์) ซึ่งมีเทพบริวารอีก 8 องค์ รวมเป็น 9 องค์ ถือว่าเป็นเทพที่ปกปักรักษาชีวิตของประชาชนตั้งแต่เกิดจนตาย ประกอบด้วย พระอาทิตย์ พระจันทร์ พระอังคาร พระพุธ พระพฤหัสบดี พระศุกร์ พระเสาร์ พระราหู ทรงพญาครุฑ และพระเกตุ

สำหรับประติมากรรมเทพนพเคราะห์ชุดนี้ หล่อขึ้นตามแบบเทพนพเคราะห์ของไทย มีลักษณะการแต่งกายคล้ายคลึงกับภาพเทวรูปในสมุดไทยหมวดตำราภาพเทวรูปไสยาศาสตร์ เล่มที่ 70 สำนักหอสมุดแห่งชาติ ที่สันนิษฐานว่าเป็นรูปแบบของเจ้าฟ้าอิศราพงศ์ และคล้ายคลึงกับภาพจิตรกรรมเทพบนบานประตูหน้าต่างด้านในของพระอุโบสถวัดบวรสถานสุทธาวาส (วัดพระแก้ววังหน้า) ที่เจ้าฟ้าอิศราพงศ์ทรงร่วมในการควบคุมการก่อสร้างเช่นกัน

Advertisement

ความพิเศษของประติมากรรมชุดนี้ คือ สามารถถ่ายทอดรูปแบบของเทพนพเคราะห์ให้ออกมาเป็นประติมากรรมแบบลอยตัว แสดงท่าทาง และลักษณะของเทพนพเคราะห์ได้อย่างสมจริงและมีชีวิตชีวา โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์ และลักษณะของเทพแต่ละองค์ไว้ได้อย่างสมบูรณ์

สำหรับคุณลักษณะของเทพนพเคราะห์แต่ละองค์นั้น มีดังนี้

พระอาทิตย์ เป็นเทพนพเคราะห์ที่มีอำนาจเหนือกว่าเทพนพเคราะห์ทั้งปวง พระอิศวรทรงใช้ราชสีห์ 6 ตัว ป่นเป็นผง ห่อด้วยผ้าสีแดง พรมด้วยน้ำอมฤต ลักษณะเป็นบุรุษมีผิวกายสีแดง ทรงราชสีห์เป็นพาหนะ ประจำอยู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นเทพนพเคราะห์ประเภทบาปเคราะห์ มักมีอารมณ์รุนแรง ตัดสินใจไว เฉียบขาด รักอิสระ แต่ซื่อสัตย์ เป็นมิตรกับพระพฤหัสบดี และเป็นศัตรูกับพระอังคาร สัญลักษณ์เลข 1 มีกำลังพระเคราะห์เป็น 6

พระจันทร์ พระอิศวรทรงสร้างจากเทพธิดา 15 นาง บดป่นเป็นผง ห่อผ้าสีขาวนวล พรมด้วยน้ำอมฤตได้บุรุษรูปงาม มีสีผิวกายขาวนวล ทรงอาชา (ม้า) เป็นพาหนะ ประจำอยู่ทิศตะวันออก เป็นเทพนพเคราะห์ประเภทศุภเคราะห์ มีอารมณ์อ่อนโยน เพ้อฝัน รวนเร และอาจมีเล่ห์เหลี่ยมมาก พระจันทร์เป็นมิตรกับพระพุธ และเป็นศัตรูกับพระพฤหัสบดี สัญลักษณ์เลข 2 มีกำลังพระเคราะห์เป็น 15

พระอังคาร พระอิศวรทรงสร้างจากกระบือ 8 ตัว บดป่นเป็นผง ห่อด้วยผ้าสีชมพูหม่น พรมด้วยน้ำอมฤตได้บุรุษผิวสีทองแดง ทรงกระบือเป็นพาหนะ ประจำอยู่ทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเทพนพเคราะห์ประเภทบาปเคราะห์ มีอารมณ์มุทะลุ ตึงตัง ชอบใช้กำลัง ใจร้อน เป็นมิตรกับพระศุกร์ และเป็นศัตรูกับพระอาทิตย์ สัญลักษณ์เลข 3 มีกำลังพระเคราะห์เป็น 8

พระพุธ พระอิศวรทรงใช้ช้าง 17 เชือก บดป่นเป็นผง ห่อผ้าสีเขียวใบไม้ พรมด้วยน้ำอมฤตได้บุรุษมีผิวกายสีเขียว ทรงช้างเป็นพาหนะ ประจำอยู่ทิศใต้ เป็นเทพนพเคราะห์ประเภทศุภเคราะห์ ชอบพูดชอบเจรจา สุขุม รอบคอบ แต่ตื่นกลัวง่าย เป็นมิตรกับพระจันทร์ และเป็นศัตรูกับพระราหู สัญลักษณ์เลข 4 มีกำลังพระเคราะห์เป็น 17

พระพฤหัสบดี พระอิศวรสร้างจากฤษี 19 ตน บดป่นเป็นผง ห่อผ้าสีส้มแดง พรมน้ำอมฤตได้เป็นพระพฤหัสบดี มีผิวกายสีส้มแดง ทรงกวางเป็นพาหนะ ประจำอยู่ทิศตะวันตก เป็นเทพนพเคราะห์ประเภทศุภเคราะห์ มักทำอะไรด้วยความระมัดระวัง สุขุม รอบคอบ เมตตาปรานีต่อผู้อื่น เป็นมิตรกับพระอาทิตย์ และเป็นศัตรูกับพระจันทร์ สัญลักษณ์เลข 5 มีกำลังพระเคราะห์เป็น 19 เป็นครูของเทพทั้งหลาย จึงนิยมทำพิธีไหว้ครูในวันพฤหัสบดี

พระศุกร์ พระอิศวรทรงสร้างจากโค 21 ตัว บดป่นเป็นผง ห่อด้วยผ้าสีฟ้าอ่อน พรมด้วยน้ำอมฤตเป็นพระศุกร์ มีผิวกายสีฟ้า ทรงโคเป็นพาหนะ ประจำอยู่ทิศเหนือ เป็นเทพนพเคราะห์ประเภทศุภเคราะห์ กิริยาน่ารัก อ่อนหวาน ชอบงานศิลปะทุกประเภท เป็นมิตรกับพระอังคารและเป็นศัตรูกับพระเสาร์ สัญลักษณ์เลข 6 มีกำลังพระเคราะห์เป็น 21 พระศุกร์เป็นครูของเหล่ายักษ์

พระเสาร์ พระอิศวรทรงสร้างจากเสือ 10 ตัว บดป่นเป็นผง ห่อผ้าสีดำ พรมด้วยน้ำอมฤตได้พระเสาร์มีสีกายดำคล้ำ ทรงเสือเป็นพาหนะ ประจำอยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ เป็นเทพนพเคราะห์ประเภทบาปเคราะห์ มีกิริยาดุดัน แข็งแรง กล้าได้กล้าเสีย บุคลิกเคร่งขรึม เป็นมิตรกับพระราหูและเป็นศัตรูกับพระศุกร์ สัญลักษณ์เลข 7 มีกำลังพระเคราะห์เป็น 10

พระราหู พระอิศวรทรงสร้างจากหัวกะโหลก 12 หัว (บางตำราว่าผีโขมด 12 ตัว) บดป่นเป็นผง ห่อผ้าสีทอง พรมน้ำอมฤตได้เป็นพระราหู มีกายสีนิลออกไปทางทองแดง ทรงครุฑเป็นพาหนะ มีวิมานสีนิลอยู่ในอากาศ ประจำอยู่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นเทพนพเคราะห์ประเภทบาปเคราะห์ ให้ผลในทางลุ่มหลงมัวเมา เป็นมิตรกับพระเสาร์และเป็นศัตรูกับพระพุธ สัญลักษณ์เลข 8 มีกำลังพระเคราะห์เป็น 12

พระเกตุ พระอิศวรทรงสร้างจากพญานาค 9 ตัว กายสีทองคำ ทรงนาคเป็นพาหนะ มีวิมานสีดอกบุษบา (เปลวไฟ) ประจำอยู่ในทิศท่ามกลาง บ้างว่าพระเกตุเกิดจากหางของพระราหู ซึ่งขโมยดื่มน้ำอมฤต พระอินทร์โกรธจึงขว้างจักรตัดเอวขาด ด้วยอำนาจแห่งน้ำอมฤตทำให้พระราหูไม่ตาย หางที่ขาดนั้นกลายเป็นพระเกตุ ซึ่งจะไม่เสวยอายุโดยตรง แต่จะเข้าแทรกเพื่อบรรเทาเรื่องร้ายและส่งเสริมในเรื่องดี สัญลักษณ์คือเลข 9

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการสืบต่อองค์ความรู้อันเป็นรากฐานวัฒนธรรมดั้งเดิม และเพื่อถ่ายทอดความรู้มรดกทางวัฒนธรรมเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ จึงได้จัดกิจกรรมสรงน้ำเทพนพเคราะห์ เพื่อเริ่มต้นปีใหม่ไทยด้วยสิริมงคลตามแบบแผนประเพณีที่ดีงามระหว่างวันที่ 12-14 เมษายน 2559 เวลา 09.00-16.00 น. ณ ศาลาสำราญมุขมาตย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ

สงกรานต์ปีนี้ ใครที่ไม่ได้ออกต่างจังหวัด กิจกรรมสรงน้ำเทพนพเคราะห์ สร้างสิริมงคลให้ตัวเอง ก็ถือเป็นทางเลือกที่ดีในการเริ่มต้นปีใหม่แบบไทยๆ..

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image