โหด มันส์ ฮา สงกรานต์สุดซี้ด “เซเลบ”

ไพพรรณี

หากจะพูดกันแล้ว คงไม่แปลกหากจะบอกว่า เทศกาลสงกรานต์ นี่เป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่คนไทยหลายคนเฝ้ารอคอย อาจเป็นเพราะนี่คือหนึ่งช่วงเวลาที่หลายคนจะได้หยุดยาว ออกเดินทางท่องเที่ยว หรือออกไปสัมผัสกับบรรยากาศการเล่นน้ำตามสถานที่ต่างๆ เพื่อสร้างความทรงจำร่วมกับคนที่รัก ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนฝูงหรือครอบครัวก็ตาม

ความทรงจำแต่ละครั้ง ก็อาจจะทั้งโหด มันส์ ฮา ปะปนกันไป

เช่นเดียวกับเหล่าเซเลบริตี้คนดังทั้งหลายที่ต่างมีประสบการณ์ “สงกรานต์” หลากหลายรูปแบบผสมกันไปเป็นรสชาติชีวิต

ไพพรรณี
ไพพรรณีและเพื่อนๆ

ประเดิมด้วยสงกรานต์แบบ “ไม่โอ” ของ เมย์-ไพพรรณี เตชะณรงค์ ที่แม้จะยุ่งกับกิจการโรงแรมทำให้ไม่ค่อยได้ออกมาเล่นน้ำเท่าไหร่นัก สงกรานต์ที่ผ่านมาเลยไม่ค่อยจะได้ออกไปเปียกเท่าไหร่ ได้แต่เล่นน้ำเบาๆในรั้วโรงแรม รั้วบ้าน เท่านั้น จะมีก็ปีที่แล้วที่ได้ไปเล่นน้ำเบาๆย่านอาร์ซีเอบ้าง แต่ก็ยังมีประสบการณ์ที่จดจำได้ไม่ลืมเลือน อย่างสงกรานต์เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว

Advertisement

ไพพรรณีเล่าว่า ปกติครอบครัวจะไม่ค่อยได้ออกไปเล่นน้ำสงกรานต์ข้างนอก หากจะเล่นน้ำก็จะเล่นในบริเวณบ้านหรือโรงแรมเป็นหลัก แต่มีอยู่ปีหนึ่ง ญาติๆ มารวมตัวกันเยอะ แล้วญาติผู้ชายก็เยอะ เลยอยากซ้อนกระบะออกไปเล่นน้ำข้างนอกบ้าน แต่กลับผ่านไปทางที่มีคนเขาตีกันแล้วกำลังขว้างปาข้าวของ แม้จะพยายามขับหนี แต่น้องสาว (แจน-พัทธมน เตชะณรงค์) ที่อยู่ด้านท้ายกระบะหลบไม่ทันก็โดนลูกหลงถูกปาของเข้าที่จมูก หลังจากนั้นจึงถูกห้าม ไม่ได้ออกมาเล่นสงกรานต์อีกเลย

“ตอนนั้นมันวุ่นวายมาก จำได้ว่าต้องรีบพาน้องไปส่งโรงพยาบาล แม้คุณหมอจะบอกว่าไม่เป็นไรมาก แต่เราไม่วางใจ ต้องรีบกลับมาเช็กที่โรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ ตัวก็เปียก นั่งหนาวสั่นกันอยู่บนรถ รีบขับเข้ามากรุงเทพฯ ปรากฏว่าแจนจมูกหัก ต้องรักษาอยู่หลายเดือน ตั้งแต่นั้นก็เข็ดมาก ไม่เคยออกมาเล่นข้างนอกอีกเลย และก็ไม่ได้เล่นอีกเลยเป็นสิบปี (หัวเราะ)” เมย์เผย

ม.ล.รังษิอาภา, วรางคณา จิ
ม.ล.รังษิอาภา, วรางคณา จิ

แต่กับสาว โม-ม.ล.รังษิอาภา ภาณุพันธุ์ เทศกาลสงกรานต์แต่ละปีนับได้ว่าเป็นช่วงเวลาสนุกสนานและประทับใจ คิดว่าการสาดน้ำใส่กันในช่วงสงกรานต์มีเสน่ห์มาก เพราะแต่ละคนจะได้สาดน้ำใส่กันอย่างไม่ถือโทษ ได้ทำอะไรที่ปกติแล้วไม่มีโอกาสได้ทำ ได้รดน้ำ ประแป้งด้วยรอยยิ้ม

Advertisement

“ปกติโมจะเล่นสงกรานต์เกือบทุกปี ข้าวสารบ้าง สีลมบ้าง แต่ที่จำได้ว่าสนุกสุดๆ คือไปวันไหลที่พัทยา ย่านวอล์กกิ้งสตรีทเมื่อ 3 ปีที่แล้ว คือมันแตกต่างจากในเมืองที่มีแต่ตึก ที่นั่นเราเล่นกันเกือบทั้งคืน น้ำหมดคนก็ไปเอาน้ำทะเลมาเล่น เหนื่อยก็ไปพักริมชายหาด นั่งคุย นั่งมองวิว เป็นบรรยากาศสงกรานต์ที่ชิลด์มาก และจำได้ว่าประทับใจสุดๆ”

ส่วน “จริง” วรางคณา จิตศักดานนท์ แม้ว่าประสบการณ์เล่นสงกรานต์ครั้งสุดท้ายจะไม่ถึงกับเลือดตกยางออก แต่ก็ทำให้รู้สึกเข็ด จนเลิกเล่นน้ำสงกรานต์ไปเลย แม้ผ่านมา 10 กว่าปีก็ยังไม่เคยกลับไปเล่นอีก

เรื่องนี้ สาวจริงเล่าว่า ด้วยความที่เป็นเด็กเชียงใหม่ ตั้งแต่เล็กก็สามารถเล่นน้ำรอบคูเมืองตลอด 3 วันไม่หยุดพัก ขึ้นรถกระบะเล่นอย่างสนุกสนาน แต่เมื่อโตเป็นสาวก็รู้สึกไม่ชอบที่คนไม่รู้จักจะเอาแป้งมาประมาลูบตามตัว ทำให้ห่างๆ ไป จนกระทั่งครั้งสุดท้ายที่ขอเปลี่ยนไปเป็นคนขับรถกระบะให้เพื่อนๆ เล่นที่ข้าวสารแทน ทั้งๆ ที่ขับเกียร์กระปุกไม่ได้ ก็เริ่มเรียนวันนั้น ใช้เวลาฝึกหัดแค่จากจุฬาฯ ถึงคอกวัว ก่อนที่จะต้องขับรถดับๆ ติดๆ ตลอดถนนข้าวสาร

“ความพีกอยู่ตรงที่ ตลอดทางเราคิดว่าไม่โดนแป้งก็ไม่ใช่ แต่ละคนต่างเอาแป้งมาประ เต็มกระจก เต็มหน้ารถ นอกจากกระจกจะมองไม่เห็นแล้วก็ยังเอามือมาปิดกระจกข้างเราอีก เพื่อให้เราเปิดกระจกออกไปจับกระจกแล้วก็สาดน้ำเข้ามา ประแป้งเข้ามา เราเข้าใจว่าอยากให้เขาสนุก แต่เราต้องรับผิดชอบชีวิตเพื่อนข้างหลังเยอะ ตอนนั้นใจกลัวมาก ไม่รู้ว่าจะทำให้ใครเป็นอะไรไหม กลัวคันหลังมาชน และก็กลัวจะไปชนคันหน้า เพราะมองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น เลยคิดว่าพอเถิด หากเราไม่อินก็หยุดเล่นเองดีกว่า ทุกวันนี้ก็ยังชอบสงกรานต์อยู่ เพียงแค่เปลี่ยนจากชอบเล่นน้ำ มาพักผ่อนแทน”

แพรพรรณ (กลาง)
แพรพรรณ (กลาง)

ส่วนขาประจำสงกรานต์อย่าง แพรพรรณ ธรรมวัฒนะ ก็เล่าเรื่องความประทับใจสุดมันส์ว่า สิ่งที่เป็นที่สุดของสงกรานต์ก็คงไม่พ้นความสนุกที่ได้ออกไปเล่นน้ำกับเพื่อนๆ ญาติๆ โดยเฉพาะปีก่อนที่ได้ยกพลกว่า 80 คน ขึ้นรถบรรทุก 5 คัน นำเอาน้ำเต็มรถ พร้อมเครื่องเสียง ดนตรีสเตอริโอ เข้าไปสร้างความสนุกให้กับเหล่าผู้คนที่ไปเล่นน้ำบนถนนสีลม สยาม พระราม 3 เกือบทั้งเส้น

“ที่ประทับใจก็คือ พวกเราขับไปถึงถนนสีลมแล้ว ก็พบว่าเขาปิดถนนไม่ให้รถเข้า แต่ด้วยความที่เรามีทั้งเครื่องเสียง นักเต้น ที่ไปสร้างความสนุก ก็เลยขอเจ้าหน้าที่ตรงนั้นว่าเราอยากให้ทุกคนสนุกจริงๆ แล้วก็ได้เข้าไป กว่าจะผ่านถนนแค่กิโลเมตรกว่าๆ ใช้เวลาเป็นชั่วโมง แต่ทุกคนแถบนั้นเต้นกัน สนุกกับเรา ทำให้เราประทับใจมาก”

สามสรา
สามสรา

ปิดท้ายด้วย แก้ม-สามสรา เอี่ยมเอกดุลย์ ที่เป็นอีกคนหนึ่งที่ได้ออกไปเล่นน้ำสงกรานต์เป็นประจำ ไปเล่นมาหมดทั้งหัวหิน อาร์ซีเอ สีลม ขึ้นรถกระบะตระเวนเล่นน้ำเกือบทุกปี และที่จดจำได้ไม่ลืมก็คงเป็นปีหนึ่งที่พาเพื่อนๆ โรงเรียนหญิงล้วนขึ้นกระบะไปเล่นน้ำกัน แม้จะกลุ่มใหญ่ แต่อยู่ดีๆ ก็มีชาวบ้านปีนขึ้นมาจะไปเล่นน้ำด้วย และจะมาขอน้ำ ทำเอาตกอกตกใจกันไปทั่วทุกคน ก่อนที่จะมีคนช่วยและสถานการณ์ก็คลี่คลายได้ทัน

“นอกจากจะประทับใจที่คนไทยยังรักษาประเพณีรดน้ำดำหัวเอาไว้แล้ว นี่ยังเป็นเทศกาลแห่งการแบ่งปัน อย่างเวลาไปเล่นน้ำหากน้ำหมดไปขอน้ำ เขาก็ให้ หรือเราเองมีน้ำเย็นก็แบ่งให้เขา มันหายากในเทศกาลอื่น”

ส่วนประสบการณ์ปีนี้ของแต่ละคนนั้น บอกว่าคงจะไม่มาก เพราะคงไม่ได้เล่นน้ำมากมายนัก ขอช่วยชาติประหยัดน้ำกันไว้ก่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image