เพราะเชื่อว่าความหลากหลายของสังคมเป็นสิ่งสวยงาม และในโอกาสที่เพิ่งผ่านพ้นเดือนแห่งการเฉลิมฉลองความหลากหลายทางเพศหรือ LGBT ที่ผ่านมา เจย์ และ เปิ้ล-จริยดี สเปนเซอร์ จึงถือโอกาสเปิดพื้นที่ วูฟ แพค แบงคอก ครีเอทีฟ คอมมิวนิตี้ ณ ศาลาแดงซอย 1 จัดงานนิทรรศการ คาไลโดสโคป ทรู มาย เลนส์ ดึงช่างภาพชั้นนำของไทยมาถ่ายทอดมุมมองเรื่องแอลจีบีทีให้ผู้ชมได้สัมผัส
เจย์ และเปิ้ล สเปนเซอร์ เผยว่า เราทั้งคู่มองว่าภาพถ่ายจะเป็นเรื่องที่สะท้อนความคิด สื่อสารความหมายให้กับผู้ชมได้เพียงแค่การมอง ซึ่งคนเราจะตีความอะไรออกไปได้หลากหลาย เช่นเดียวกับกลุ่ม LGBT ซึ่งถือเป็นความหลากหลายของสังคม มีความสวยงามตามธรรมชาติของเขา จึงชวนช่างภาพชั้นนำทั้ง 25 คน ของเมืองไทยมาถ่ายภาพจัดนิทรรศการเคไลโดสโคป หรือกล้องสลับลาย ที่จะส่องประกายสีแสงที่แตกต่างออกไป เหมือนกับสังคมเราที่มีหลายแง่มุมเช่นกัน เพื่อเป็นการกระตุ้นให้สังคมเห็นถึงความเท่าเทียมผ่านเลนส์ โดยได้เหล่าศิลปินชื่อดังอย่าง ใหญ่-อมาตย์ นิมิตภาคย์, คณชัย เบญจรงคกุล, โจ ชุง, น้ำค้าง ปริวุฒิพงศ์, ณัฐ ประกอบสันติสุข, ธาดา วาริช, วสัตน์ ผึ่งประเสริฐ และ พีรพัฒน์ วิมลรังครัตน์
ผลงานในครั้งนี้ได้รวบรวมภาพถ่ายหลากรูปแบบมารวมกัน เริ่มจากภาพสีสันจัดจ้านของ ทอม-ธีระฉัตร โพธิสิทธิ์ ที่มองว่า ความรักจริงๆ ควรมาจากครอบครัว ซึ่งความหลากหลายนั้นมีวิจัยไว้ว่า ที่จริงแล้วเลือกไม่ได้ แต่คนเราจะมีโครโมโซม เอ็กซ์ซี 28 อยู่ ที่บ่งบอกความเป็น LGBT และเราอยากเผยแพร่เรื่องนี้ จึงนำแดร็กควีนและคุณพ่อมาถ่ายแบบร่วมกัน ภายในภาพยังมีตาที่บ่งบอกว่าคนเราไม่ควรมองคนจากภายนอก รวมไปถึงสีแม่สีที่จะผสมออกมาเป็นเฉดไหนก็ได้ เลือกใส่ลงในกรอบหลุยส์ที่คนไทยชอบเพราะดูหรู ดูแพง
หรือจะเป็นผลงานรูปมือสีขาวดำของ กนก สุริยสัตย์ ที่ตีความว่าผู้ชายทุกคนย่อมมีความเป็นหญิง และหญิงย่อมมีความเป็นชาย เท่าเทียมกัน ภาพจึงออกมาอย่างอ่อนช้อย สื่อถึงตัวตนอีกคนที่อยู่ภายในมือ เช่นเดียวกับภาพของ ใหญ่-อมาตย์ นิมิตภาคย์ ที่นำความอ่อนโยนมารวมกับความแข็งแกร่งที่อยู่ในทุกเพศ สะท้อนภาพของเรือนร่างผู้ชายที่มีความพลิ้วไหวของผืนผ้าพาดอยู่ ซึ่งอมาตย์อยากให้รูปสะท้อนออกไปไม่เพียงแต่กลุ่ม LGBT แต่รวมถึงคนทุกสถานะด้วย
นิทรรศการนี้จะจัดแสดงตั้งแต่วันนี้-22 กรกฎาคมนี้ รายได้จะมอบให้กับมูลนิธิบ้านพระพร คาเรน ฮิลล์ไทรบ์ ทรัสต์ และองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากลต่อไป
