โหรดัง ‘ภิญโญ’ ไขรหัสดวงเมืองหลังสงกรานต์

ตั้งแต่ดาวมฤตยู หรือดาวแห่งความตายทับดวงเมือง ตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา กินระยะเวลายาวนาน 7 ปี ทำให้หลายคนโดยเฉพาะคนที่เชื่อในวิชาโหราศาสตร์ รู้สึก “ประหวั่นพรั่นพรึง” หลายคนจึงต้องยึดหลัก “ไม่ประมาท” ในการดำเนินชีวิต

เพราะ “ดวงดาว” นั้นอาจมีอิทธิพลต่อสรรพสิ่งอย่างคาดไม่ถึง

สงกรานต์ปีนี้ก็เช่นกัน…

วันมหาสงกรานต์ตรงกับวันพุธที่ 13 เมษายน *นายภิญโญ พงศ์เจริญ* นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ กล่าวว่า เนื่องจากตรงกับวันพุธและดาวพุธเป็นเทพแห่งการสื่อสาร การแสดงออกทางความคิด สมอง สื่อมวลชน พยากรณ์ว่ากิจกรรมการสื่อสารจะตื่นตัว คนจะออกมาแสดงความคิดเห็นกันมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องต่างประเทศจะมีคนออกมาแสดงความคิดเห็นกันมากขึ้น มีการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพมากขึ้น

Advertisement

วันเนาหรือวันเน่า ตรงกับวันพฤหัสบดี เมื่อนำดาวพฤหัสมาพยากรณ์ ดาวดวงนี้หมายถึงผู้หลักผู้ใหญ่ ครูบาอาจารย์ นักบวช ศาสนา ฉะนั้นคนจำพวกนี้จะใจร้อน วุ่นวาย ส่วนวันเถลิงศกตรงกับวันศุกร์ ดาวศุกร์เป็นดาวการเงิน ความรัก พยากรณ์ว่าการค้าขายจะประสบความสำเร็จ มีกำไร เจริญรุ่งเรืองดี

“ส่วนเรื่องอุบัติเหตุ อุบัติภัย ก็ต้องระวังเป็นอย่างยิ่ง เพราะตอนนี้ดาวอังคารกุมดาวเสาร์ตรงราศีพิจิก เดินภพมรณะของดวงเมือง ฉะนั้นอุบัติเหตุความรุนแรงอาจจะเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงนี้ซึ่งเป็นเทศกาลสงกรานต์ แต่มีอีกช่วงที่ต้องระวังให้มากคือ ตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน อาจเกิดเรื่องของอุบัติภัย อุบัติเหตุที่รุนแรง จะเกิดความเสียหายต่างๆ มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งภัยธรรมชาติและภัยที่เกิดจากมนุษย์กระทำ เพราะช่วงนั้นดาวอังคารจะโคจรใกล้โลกและดาวอังคารเพ็ญ เพราะฉะนั้นดาวอังคารและดาวเสาร์ก็ค่อนข้างมีอิทธิพล มองเห็นเป็นดวงใหญ่ มีพละกำลังมาก ดาวพวกนี้เป็นดาวคู่อุบัติเหตุ อุบัติภัย ความรุนแรงมันจะเกิดขึ้น

“พยากรณ์ไว้ 2 เรื่อง คือ 1.อุบัติเหตุ อุบัติภัยที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ดิน น้ำ ลม ไฟ ที่ทำให้ผู้คนเสียชีวิตหรือสูญทรัพย์สินครั้งละมากๆ 2.อุบัติเหตุ อุบัติภัยที่เกิดจากมนุษย์ อย่างเช่น ความขัดแย้ง การแย่งชิงอำนาจ แย่งชิงผลประโยชน์กัน ความรุนแรงเกิดขึ้น”

Advertisement

ทั้งนี้ ภิญโญย้ำว่าต้องระวัง ดวงดาวบอกอย่างไรก็แล้วแต่ ทั้งนี้ต้องอยู่ที่คนด้วย ถ้าคนสามารถที่จะควบคุมจิตใจ อารมณ์ ควบคุมสถานการณ์ได้ สิ่งที่จะรุนแรงมากก็จะเบาบางลง ความสูญเสียที่อาจมากก็เป็นสูญเสียน้อย

ส่วนเรื่องทางการเมือง ยังเป็นการดึงดันกันระหว่างการเมือง 2-3 ฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่พฤหัสกับราหูกุมกันตรงราศีสิงห์ ราหูเป็นดาวพระเคราะห์ที่ให้ผลไปในทางไม่ค่อยดี ส่วนพระพฤหัสก็เป็นดาวประธานฝ่ายศุภเคราะห์ แล้วมากุมกัน ก็เป็นการถ่วงดุลระหว่างดาวฝ่ายดีกับฝ่ายเสียนั่นเอง ตอนนี้กุมกันอยู่ พอสูสีกัน พฤหัสที่ว่าดีก็โคจรถอยหลัง ราหูที่ว่าร้ายก็โคจรไปตามวัฏฏะของเขา การถ่วงดุลกันอาจจะนำไปสู่เรื่องทางการเมือง เรื่องการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ก็ยังเป็นปัญหาอยู่ต่อไป ทั้งๆ ที่กำหนดวันลงประชามติแล้วตรงกับวันที่ 7 สิงหาคม 2559

นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติอธิบายอีกว่า วันที่ 7 สิงหาคม ดังกล่าวนั้นเป็นวันที่ดาวพฤหัสย้ายราศีออกจากพระราหู ออกจากราศีสิงห์ ออกจากร่มเงาของพระราหู อย่างไรก็ตาม ดาวพฤหัสยังโคจรอยู่ในภพอริ ที่แปลว่าศัตรู ปัญหา อุปสรรคที่ต้องแก้ไข แล้วพฤหัสตรงราศีกันย์นั้นเป็นมาตรฐานไม่มั่นคง ไม่แน่นอน แปรปรวน ฉะนั้นเรื่องการเมืองยังมีปัญหาอยู่ต่อไป จะเข้าที่เข้าทางก็น่าจะตอนที่พระพฤหัสย้ายเข้าราศีตุลย์ ประมาณอีก 1 ปี การเมืองไทยคงจะเรียบร้อยขึ้น ราบรื่นขึ้น

มีดาวอีกดวงคือดาวมฤตยู ตอนย้ายทับดวงเมืองเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ดาวดวงนี้จะนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งใหม่ๆ มีสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้น แต่ต้องระมัดระวังไว้คือ 1.การเปลี่ยนแปลงนั้น การปฏิรูปประเทศหรือการปฏิวัติ บางครั้งทำให้สิ่งเก่าๆ ที่ดีนั้นเกิดความเสียหาย และ 2.ให้ระมัดระวังเรื่องปัญหาสุขภาพอนามัยของประชาชนโดยส่วนรวม คนจะเจ็บป่วยกันมาก มีโรคภัยไข้เจ็บกันทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคแปลกๆ

“อย่างไรก็ตาม อนาคตข้างหน้าย่อมมาถึง ขับเคลื่อน เปลี่ยนแปลงไป” นายภิญโญกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image