เปิดโรงรถ รู้จักชีวิตเร็ว แรง ไฮโซสาวสวย ‘วารีนิธิ กันท์ไพบูลย์’

เร็ว แรง เผ็ด

เรียกได้ว่าเป็น คำจำกัดความง่ายๆ ของสาวไฮโซร่างเล็ก “บูบี” วารีนิธิ กันท์ไพบูลย์ คงไม่ผิดนัก

นั่นเพราะนอกจากเธอจะเป็น “เวิร์กกิ้ง วูแมน” ที่สนใจเรื่องแฟชั่น เรื่องสังคมเหมือนผู้หญิงทั่วไปแล้ว อีกภาคหนึ่งของเธอยังชื่นชอบความเร็วและแรงของสปอร์ตคาร์ จนผันมาเป็นความรักในที่สุด

ความรักความชอบของบูบีที่มีต่อรถนั้น เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วัยเยาว์ ในอู่รถเบนซ์ของคุณปู่ ก่อนจะซึมซับเข้าสู่สายเลือดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคุณพ่อก็เป็นคนรักรถชนิดหาตัวจับยากคนหนึ่ง ทำให้บูบีได้สัมผัสกับรถรุ่นต่างๆ ได้ฝึกหัดขับรถยนต์ด้วยตัวเองตั้งแต่เล็ก

แต่ธุรกิจแรกของเธอกลับไม่ใช่เรื่องรถ บูบีเล่าว่า เพราะอยากให้คุณพ่อภูมิใจ เธอจึงเริ่มขายขนมเล็กๆ น้อยๆ อย่างวาฟเฟิลที่โรงเรียน จนเริ่มขยับขยายมาทำธุรกิจแบรนด์เสื้อผ้า “วริธร บูทีค” (VARITHORN BOUTIQUE) ร่วมกับพี่สาว ซึ่งตอนนี้แบรนด์มีอายุ 6 ปีแล้ว ประสบความสำเร็จ ส่งออกทั้งสิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย จีน จนเมื่อเรียนจบด้านบริหารธุรกิจ University of Exeter จากประเทศอังกฤษ เธอก็เริ่มคิดว่านอกจากเรื่องเสื้อผ้า เรื่องแฟชั่นแล้ว คนเราสามารถสนใจอะไรได้หลายอย่าง และความผูกพันที่มีกับเรื่องรถไม่เคยเลือนหายไป

Advertisement

ทำให้เธอหันมาจับธุรกิจด้านรถอย่างจริงจัง

“ตั้งแต่โตมาคุณพ่อจะเปลี่ยนรถใหม่เสมอ เพราะท่านขี้เบื่อ ทำให้เราได้สัมผัสกับรถเยอะมาก เวลาคุณพ่อไปส่งที่โรงเรียน (บางกอกพัฒนา) เพื่อนก็จะคอยมองว่าวันนี้พ่อบีเอาอะไรมาส่ง ตอนที่ฟาสต์แอนด์ฟิวเรียสดัง คุณพ่อก็ขับ นิสสัน แฟร์เลดี้ 350Z สีส้ม ไปส่ง เพื่อนก็จะมองๆกัน

เด็กๆ ก็หัดขับรถในซอยบ้าน ศึกษาข้อมูลรถจากโบรชัวร์ตามศูนย์ และซื้อหนังสือรถมาอ่านบ้าง จนกระทั่งคุณพ่อซื้อรถปอร์เช่ บ็อกซ์เตอร์ เปิดประทุนคันเล็กๆ น่ารักๆ ให้ตอนเรียนจบปริญญาตรีเกียรตินิยม นั่นเป็นรถคันแรกที่ไม่คิดจะขาย”

Advertisement

จากรถคันแรกที่คุณพ่อซื้อให้ หลังจากนั้นเธอก็เริ่มซื้อซุปเปอร์คาร์เป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น เฟอร์รารี F430 สคูเดอเรีย ความพิเศษคือเป็นรุ่นไลท์เวท มีเพียงไม่กี่คันในโลก, เฟอร์รารี F350 ซึ่งทุกวันนี้ราคาพุ่งขึ้นไปแตะ 10 กว่าล้านบาท ที่เธอทุ่มทุนทำใหม่เป็นคลาสสิกคาร์ เพิ่มมูลค่าให้สูงขึ้นไปอีก ไม่รวมรถรุ่นอื่นๆ อย่างปอร์เช่ ลัมโบร์กีนี ที่เธอเก็บไว้จนต้องขยายโรงรถจากบ้านย่านเอกมัย ไปจอดที่คอนโดมิเนียมแถวทองหล่อแทน ความพิเศษคือแต่ละคันจะมีเลขทะเบียนเลขเดียวกับรุ่นของรถ ที่หาได้ยากพอๆกับรถเลยทีเดียว

แม้ว่าบางคันจะไม่ได้ขับทุกวัน แต่ก็เพราะรถแต่ละคันตอบโจทย์การใช้งานแต่ละวันไม่เหมือนกัน

“แม้ว่าหลายคนจะมองว่าบีขับเก๋ๆ ถ่ายรูปสวยๆ แต่ว่ากับเรื่องรถบีรู้ลึกรู้จริงมาก บีจริงจังถึงขนาดเคยนำออกไปขับแข่งกับพี่ๆ ผู้ชายที่ชมรมเฟอร์รารี หรือมองดูแล้วรู้ว่ารถคันนี้นำไปแต่งอะไรมา ถูกชนไหม ปัญหาของคนที่ขับซุปเปอร์คาร์คืออะไร ทำให้มั่นใจว่าเรารู้เรื่องนี้ดี บวกกับพ่อบีเป็นคนเปลี่ยนรถบ่อย เราไปแอบรู้มาว่าเราขาดทุนมากเกินไป นายหน้ากดราคาเราแต่ขายให้คนอื่นได้กำไรเป็นล้าน บีจึงคิดว่าหากเรารู้เรื่องรถดีขนาดนี้ ทำไมไม่ทำเอง”

ซึ่งเมื่อคิดแล้วก็ต้องทำ

บูบีเผยว่า คนใช้ซุปเปอร์คาร์ ไม่ใช่ว่าขับคันเดียว แต่ส่วนใหญ่มักจะเปลี่ยนบ่อยๆ คันแรกที่หลายคนจะเริ่มสนใจคงไม่พ้นปอร์เช่ เนื่องจากราคาไม่สูงมาก ขับได้ทั้งชายและหญิง อีกทั้งมีรุ่นต่างๆ ให้เลือกตามไลฟ์สไตล์เยอะ หากอยากขับหล่อๆ ให้สาวกรี๊ดก็อาจจะเลือกลัมโบร์กีนี คนมีอายุหน่อยก็เลือกขับออดี้ อาร์ 8 แบบสบายๆ ส่วนรถในฝันของทุกคนคงไม่พ้นเฟอร์รารี ที่ตั้งแต่เล็กก็จะเริ่มเก็บโมเดลรถบ้าง จนมีเงินซื้อของตัวเอง ซึ่งหลายคนที่สะสมรถไว้เยอะ

นอกจากความฝันแล้ว การซื้อรถยังเป็นการลงทุน เพราะรถยนต์ราคาเพิ่มสูงขึ้นตลอด ยิ่งคันที่หายากๆ ยิ่งขึ้นกว่านาฬิกา หรือกระเป๋า อย่างเฟอร์รารี หากเป็นรุ่นเก่าๆ ที่เป็นคลาสสิกคาร์ ที่ดูแลรักษาดี ทำใหม่ให้ดี ก็ไปขอการันตีกับทางอิตาลีได้ เขาก็จะส่งคนมาตรวจ หากได้ตราบอกว่าเลขรถนี้ ถังนี้ ได้รับการรับรองแล้ว ราคาก็ขึ้นไปอีกเยอะมาก

“คนอาจจะงงว่าทำไมรถแพงขนาดนี้ถึงเปลี่ยนกันง่าย ส่วนหนึ่งก็เพราะว่ารถซุปเปอร์คาร์ไม่ได้เป็นแบบที่คิดไว้ บางรุ่นเป็นลิมิเต็ด อิดิชั่น ต้องสั่งไว้ก่อน จองกันข้ามปี พอได้รถมาก็อาจจะรู้สึกว่านั่งไม่สบาย ขับไม่ถนัด ไม่เข้ากับไลฟ์สไตล์ ก็อยากเปลี่ยนขึ้นมา หรือแม้แต่เรื่องการจอด ที่ไม่ใช่แค่กลัวว่าจอดตามถนนแล้วจะถูกเฉี่ยวชนได้ง่าย แต่สปอร์ตคาร์ส่วนใหญ่เตี้ย จอดลำบาก ต้องไปเฉพาะห้างสรรพสินค้าที่มีลานจอดเฉพาะ อย่างพารากอน เอ็ม ควอเทียร์ เซ็นทรัลเอ็มบาสซี ความต้องการเปลี่ยนรถมันมีเสมอ ยังไม่รวมเรื่องการซ่อม ที่จะต้องเชี่ยวชาญเท่านั้น”

ซึ่งประสบการณ์ตรงของเธอ ทำให้เข้าถึงธุรกิจนี้ลึกขึ้น

วารีนิธิเผยว่า เมื่อบีมาเริ่มขายรถ บีรู้แล้วว่าเราไม่จำเป็นที่ต้องเอากำไรเยอะขนาดนั้น คนซื้อก็ต้องแฮปปี้ คนขายก็ต้องแฮปปี้ไปด้วย โชคดีคือบีเป็นคนใช้รถจริง ลองมาจริงเกือบหมดทุกรุ่น จึงค่อนข้างมีข้อมูลว่าคันไหนควรเป็นอย่างไร ก่อนจะซื้อทุกคันบีต้องไปดูเอง ให้รู้แน่ชัดว่าเคยชนมาไหม เสียงเป็นอย่างไร วิ่งมาแล้วเท่าไหร่ ปรับแต่งอะไรไปบ้าง และโอนจองเลยทุกคันเพราะบางคนที่ขาย เขาก็ร้อนเงิน บางคันติดไฟแนนซ์เราก็ต้องใช้ความรู้เก่าของเราตอนเรียนมหาวิทยาลัยมาจัดการตรงนี้ ทุกคันบีเทสต์ บีลงอินสตาแกรม เราอยู่ในที่สว่าง คนมั่นใจได้ว่าบีไม่โกง

“อีกเรื่องหนึ่งที่หลายคนคิดไม่ถึงคือเรื่องซ่อม หากเป็นรถบ้านอื่นๆ คุณจะนำเข้าไปซ่อมที่ไหนก็คงซ่อมได้ไม่แปลก แต่กับสปอร์ตคาร์ ใช่ว่าทุกคันจะผ่านศูนย์ การซ่อมไม่ใช่ที่ไหนก็ได้ แต่ต้องเป็นศูนย์ซ่อมที่มีเครื่องจูนเท่านั้น ซึ่งแฟนบีเองเป็นหุ้นส่วนร้านสไปเดอร์ ซึ่งเป็นศูนย์ซ่อมออฟฟิเชียล ซ่อมกับเราไม่ต้องกังวล นี่คือสิ่งที่บีตอบโจทย์ บีรับประกันหลังการขาย อย่างลูกค้าบางคนเขาไม่เลือกซื้อรถกับเราเพราะแพงกว่าเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ต้องมาซ่อมกับเรา ซึ่งการซ่อมรถพวกนี้มีค่าเปิดใช้เครื่องเป็นแสน เพราะเขาซื้อเครื่องมาเป็นล้าน กลายเป็นว่าลูกค้าก็ต้องจ่ายแพงกว่าอยู่ดี”

และจากประสบการณ์ปีกว่าๆ ที่เธอได้เริ่มทำงานมา ทุกวันนี้ธุรกิจของเธอก็ไปได้สวย มีลูกค้าทั้งเหล่าเซเลบ ไฮโซ ดารา แวะเวียนกันมาใช้บริการบ่อยครั้ง โดยเฉพาะกับลูกค้าสาวๆ ที่มีมากไม่แพ้ผู้ชายเช่นกัน ไม่เพียงแค่สร้างรายได้ แต่บูบีมองว่าการได้ขับรถแต่ละคันด้วยตัวเอง ก็ยิ่งเป็นการเพิ่มความรู้ไปในตัวด้วยว่าระบบเป็นอย่างไร ขับสบายไหม สุดท้ายแล้วยังทำให้เธอได้ระลึกถึงความทรงจำล้ำค่าของครอบครัวด้วย

“บีคิดเสมอว่า เราเติบโตมากับการเป็นอู่รถยนต์เบนซ์แห่งแรกในไทย ซึ่งคุณตาเองมีโอกาสได้ซ่อมรถยนต์พระที่นั่งของในหลวงรัชกาลที่ 9 จากคนที่อ่านภาษาเยอรมันไม่เป็นก็ค่อยๆ แกะคู่มือจนซ่อมได้ ทุกวันนี้ที่บ้านก็ยังเก็บพวงมาลัยเบนซ์เอาไว้ การทำงานตรงนี้ก็เหมือนมีสิ่งที่ทำให้ระลึกได้เสมอว่า เราเติบโตมาจากอะไร”

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image