นมแม่ดิลิเวอรี วิถีคุณแม่ยุค 4.0

แม้ว่าจะมีการรณรงค์ของหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและองค์กรระหว่างประเทศให้ลูกได้ดื่มนมแม่ในช่วง 6 เดือนของชีวิต แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ด้วยสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่บีบรัดให้คุณแม่คนใหม่ทั้งหลายต้องเร่งออกมาทำงานหาเลี้ยงครอบครัว จนไม่อาจทำได้สำเร็จอย่างที่ตั้งใจ จึงต้องอาศัยความมีส่วนร่วมขององค์กรไม่น้อย

ซึ่งก็มีหน่วยงานหลายแห่งที่ออกมาสนับสนุนการให้นมแม่กับพนักงานอย่างจริงจัง เช่น บริษัท ไทยซัมมิท ฮาร์เนส จำกัด (มหาชน) ที่ผุดโครงการ “ห้องนมแม่” ขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยเหตุว่าพนักงานของบริษัท 80% จาก 2,000 คนเป็นผู้หญิง ที่จะได้ประโยชน์จากโครงการนี้ไม่ใช่แค่สุขภาพลูก แต่ยังเป็นการลดรายจ่ายด้วย ซึ่ง พยัพ แจ้งสวัสดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปสำนักพัฒนาองค์กร ได้เป็นผู้ริเริ่มโครงการ

นิพนธ์ ประเสริฐผล รักษาการผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรมนุษย์และธุรกิจ เผยว่า เราส่งเจ้าหน้าที่ไปศึกษากับมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย และมาเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการตั้งครรภ์และการให้นมแม่กับพนักงาน รวมไปถึงจัดบริการห้องพร้อมตู้แช่ มีถุงเก็บน้ำนม โดยเปิดโอกาสให้ปั๊มนมแม่ได้ตลอดเวลา

อย่างไรก็ตาม มีพนักงานบางคนที่ส่งลูกไปให้ญาติที่ต่างจังหวัดเลี้ยง ทำให้เกิดระบบ “นมแม่ดิลิเวอรี” ขึ้น โดยนำถุงน้ำนมที่ปั๊มใส่กล่องแพคแช่แข็งส่งไป มีทั้งผ่านรถทัวร์ รถส่วนตัว และเครื่องบิน

Advertisement

“แม้ว่าบางคนบ้านจะไกลและ บขส.ไม่ถึง แต่เราเชื่อว่าขอเพียงรถขายไอติมไปถึง นมแม่ก็ต้องไปถึงได้”

ผลสัมฤทธิ์จากความพยายามนี้ นิพนธ์ระบุว่า แม่ที่ปั๊มนมส่งให้กับครอบครัวมากที่สุดอยู่ที่ 3 ปี และมีแต่ข้อดี

“จากสถิติพบว่าหญิงให้นมแม่ขาดลามาสายน้อยกว่าแม่ให้นมผง ทั้งยังมีมิติสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนพนักงานและผู้บังคับบัญชาได้ดี แม่ไม่ต้องกังวลเรื่องทำโอทีหาเงินค่านมลูก ไม่ต้องลาไปดูแลลูกบ่อยๆ เพราะไม่ได้ป่วย ผลผลิตของเราก็ดีขึ้นไปด้วย เรียกว่าภาพรวมดีขึ้นทั้งงานและใจพนักงาน” นิพนธ์กล่าว

Advertisement

ก้าวใหม่ของคุณแม่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image