| ที่มา | มติชนรายวันหน้า 18 |
|---|---|
| ผู้เขียน | คอลัมน์ Hello เซเลบ |
| เผยแพร่ |
ย้อนไปเมื่อ 17 ปีที่แล้ว สองข้างทางถนนเส้นเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา เป็นเพียงทุ่งหญ้าว่างเปล่า แต่เมื่อ “อาณาจักร เดอะ คริสตัล” เข้ามาบุกเบิก ถนนเส้นนี้ก็กลายเป็น “ทำเลทอง” เป็นแลนด์มาร์กอันดับต้นๆ ของเมืองไทยที่ไม่มีใครไม่รู้จัก
ผู้อยู่เบื้องหลังปลุกปั้นให้ที่ดินย่านประดิษฐ์มนูธรรม นอกจาก “กวีพันธ์ เอี่ยมสกุลรัตน์” เจ้าสัวหมื่นล้านผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและเฉียบคมแล้ว อีกหนึ่งคนที่ร่วมกุมบังเหียน เห็นจะเป็นใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ “ศรีภรรยา” มาดามหมื่นล้าน “มาดามตุ๋ม-ศุภานวิต เอี่ยมสกุลรัตน์” ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เค.อี.กรุ๊ป
และไม่บ่อยนักที่ “มาดามตุ๋ม” จะปลีกเวลาจากการทำงานมาเปิด “คฤหาสน์หรู” ที่ตกแต่งในสไตล์คอนเทมโพรารี่ ลักชัวรี่ บนพื้นที่ 2 ไร่ ในโครงการบ้านหรูคริสตัล พาร์ค ให้ “มติชน” ได้พูดคุยแบบเอ็กซ์คลูซีฟ พร้อมกับทายาทหมื่นล้าน “วิน-กวินทร์ เอี่ยมสกุลรัตน์” รองกรรมการผู้จัดการ เค.อี.กรุ๊ป ลูกชายคนโต หนุ่มหล่อไฟแรง ที่หลังจากเรียนจบปริญญาโท จากสหรัฐอเมริกาก็กลับมาสานต่อกิจการของที่บ้านทันที
จากสาวบัญชีสู่ “เวิร์กกิ้ง วูแมน”
ก่อนที่จะมาจับธุรกิจอย่างจริงจัง มาดามตุ๋มจบการศึกษาปริญญาตรีจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ จากแฟร์เลห์ ดิคกินสัน สหรัฐ เข้าทำงานวาณิชธนกิจ ด้านการลงทุนที่ บล.เมอร์ริล ลินช์ ภัทรฯ
กระทั่งสามี คุณกวีพันธ์เห็นโอกาสทางธุรกิจบนถนนสายเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา ชีวิตจึงพลิกผันมาเดินบนเส้นทางสาย “อสังหาริมทรัพย์” ช่วยกันสร้างอาณาจักรเดอะ คริสตัล จนกลายเป็นทำเลที่นักลงทุนรายใหญ่ๆ แห่เข้ามาผุดโครงการในระดับไฮเอนด์
“คุณพ่อของคุณกวีพันธ์สะสมที่ดินบริเวณนี้อยู่พอสมควร เมื่อถนนเส้นนี้มีความเจริญแล้ว เราจึงเริ่มเข้ามาพัฒนา” มาดามตุ๋มย้อนเล่าถึงวันก่อร่างสร้างอาณาจักร
เริ่มต้นด้วยการทำโครงการทาวน์เฮาส์คริสตัล วิลล์ ในซอยโยธินพัฒนา ก่อนเขยิบมาเป็นเจ้าแรกที่บุกเบิกโครงการหมู่บ้านหรูระดับไฮเอนด์ “คริสตัล พาร์ค” ราคา 18-80 ล้านบาทในย่านนี้
“เราคิดว่าตลาดนี้น่าสนใจ และอาจด้วยได้ไปดูโครงการบ้านหรูๆ เมืองหรูๆ ในต่างประเทศเยอะ เป็น 100 หลัง ดูจนเข้าใจว่า เขาพรีเซนต์
อะไร จุดขายของบ้านแต่ละโครงการคืออะไร และเราจะนำมาใช้อย่างไร ซึ่งเราคิดว่าเมืองไทยมีศักยภาพทำได้ บวกกับเรามีความตั้งใจที่จะทำบ้านให้สมบูรณ์แบบที่สุด ทั้งใช้วัสดุอย่างดี การสร้างสังคมและบรรยากาศที่ดี”
ซึ่งโครงการได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม
“คนสนใจมาก เราไม่คิดว่าหลังใหญ่จะขายดี แต่กลายเป็นว่าที่นี่เจอแต่หลังใหญ่ และใหญ่ไปเรื่อยๆ ของเราเป็นบ้านหรูอย่างแท้จริง สร้างตามความต้องการของลูกค้า อย่างถ้ามีรถ 10 คัน เราก็เพิ่มโรงรถให้ หรืออยากได้ห้องโฮมเธียเตอร์ เราก็เนรมิตให้ วัสดุต่างๆ ใช้จากเมืองนอกมีมาตรฐานสูงสุด การทำบ้านสำหรับเรา เราใส่ใจเหมือนเราอยู่เอง”
มุ่งมั่นพัฒนา “วงการดีไซน์” เมืองไทย
แม้จะไม่ได้เรียนด้านอสังหาริมทรัพย์ ด้านดีไซน์มาโดยตรง หากเธอว่าทุกอย่างเป็นไปได้ หากเราศึกษาเรียนรู้
“ดิฉันเป็นคนชอบเปิดหูเปิดตา ชอบเดินทาง ทุกครั้งที่เดินทางไปต่างประเทศมักจะใช้เวลาเยี่ยมชมโครงการต่างๆ ไปสัมผัสโรงแรมที่มีคาแร็กเตอร์ที่แตกต่างกันจากทั่วโลก เพื่อดูสไตล์การตกแต่งสถานที่ รวมถึงไปดูพิพิธภัณฑ์ งานแฟร์ที่เกี่ยวกับการตกแต่ง ดีไซน์เซ็นเตอร์ต่างๆ รวมถึงติดตามข่าวสารวงการนี้”
จากที่ได้ไปเห็นว่าเมืองใหญ่ๆ จากทั่วทุกมุมโลกมี “ดีไซน์เซ็นเตอร์” มาดามตุ๋ม
จึงผุด “คริสตัล ดีไซน์เซ็นเตอร์ หรือ CDC” ขึ้น เพื่อเป็นศูนย์รวมข้อมูลและคลังความรู้ด้านการดีไซน์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในเอเชีย
“อยากให้ซีดีซีเป็นมากกว่าดีไซน์เซ็นเตอร์ทั่วไป โดยสิ่งที่เราทำ เราจะเป็นศูนย์รวมงานดีไซน์ที่ให้ความรู้ และการแนะนำวัสดุ ผลิตภัณฑ์ใหม่”
หนึ่งในการผลักดันวงการดีไซน์บ้านเรา คือ การจัดงาน “ซีดีซี อิตาเลียน เฟสติวัล” งานแสดงนวัตกรรมการออกแบบเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านดีไซน์ระดับโลกจากอิตาลี เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ใหม่ๆ ให้กับประชาชน ให้ได้เรียนรู้ไปพร้อมๆ กันกับการพัฒนางานดีไซน์ใหม่ๆ ในระดับสากล
“เกือบทุกปีดิฉันจะไปดูงานมิลาน แฟร์ ซึ่งเป็นงานเฟอร์นิเจอร์และตกแต่งอันดับ 1 ของโลก ก็ได้เห็นการออกแบบ ความก้าวหน้าด้านอินโนเวชั่น และครีเอทีฟ ดีไซน์ต่างๆ ทำให้มีความคิดว่า เราก็มีแบรนด์ดังๆ ของโลกอยู่ที่ซีดีซีเยอะ ก็น่าจะจัดแสดงได้ จึงเกิดเป็นงานซีดีซี อิตาเลียน เฟสติวัล ซึ่งก็จัดมาเป็นปีที่ 9 แล้ว”
จากการจัดงานอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลอิตาลีได้มอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นอัศวิน “Cavaliere dell”Ordine della Stella d”Italia” (Knight of the Order of the Star of Italy) ให้กับ “มาดามตุ๋ม” ในฐานะบุคคลที่ช่วยสนับสนุนและส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐอิตาลี
“ไม่คิดว่าจะได้รับเกียรตินี้ เพราะที่ทำก็ทำด้วยใจ และเราอยากเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้วงการนี้มีความแข็งแรง อะไรที่ทำได้เราก็พร้อมสนับสนุน”
เดินทางอัพเดตเทรนด์ดีไซน์ทั่วโลกอยู่เสมอ มาดามตุ๋มจึงอัพเดต
เทรนด์วงการเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านว่า ยุคนี้คนให้ความสำคัญกับนวัตกรรม เทคโนโลยี ฟังก์ชั่น เช่น โต๊ะปรับระดับได้ หรือครัวอาจแค่ไปแตะแล้วเครื่องปรุงก็ลอยออกมา เป็นโฮมออโตเมติกเพิ่มขึ้น แต่ถ้าในแง่เฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ ไม่มีอะไรเปลี่ยนมาก คนยังชอบอะไรใกล้เคียงจากเดิม อาจจะปรับปรุงให้ดูทันสมัยขึ้น สะดวกสบายเพิ่มขึ้น
ขยายอาณาจักร “คริสตัล โซลานา”
ปัจจุบันอาณาจักรเดอะ คริสตัล มีหลากหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นโครงการบ้านหรูคริสตัล พาร์ค, แกรนด์ คริสตัล รวมถึงคอมมูนิตี้มอลล์เดอะ คริสตัล เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา, เดอะ คริสตัล พีทีที ชัยพฤกษ์, เดอะ คริสตัล เอส บี ราชพฤกษ์, อาณาจักรของแต่งบ้านและงานดีไซน์ระดับโลก คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (ซีดีซี)
ล่าสุดกับการเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวอัลตราลักชัวรี่ระดับ 6 ดาว “คริสตัล โซลานา” มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท มาพร้อมดีไซน์และสถาปัตยกรรมหรูหรา ครบครันด้วยฟังก์ชั่นที่เป็นเอกลักษณ์วัสดุเวิลด์คลาส บนทำเลที่ดีที่สุดติดถนนประดิษฐ์มนูธรรม ราคา 60-300 ล้านบาท/หลัง
ซึ่งได้ลูกชายคนโต “วิน-กวินทร์” มานั่งเก้าอี้ “รองกรรมการผู้จัดการ เค.อี.กรุ๊ป” ช่วยบริหารงานทั้งหมด
คุณแม่ยังสาว ลูกสามยังปิ๊ง
เป็นคุณแม่ลูกสามที่เป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกๆ อย่าง “ลูกชายคนโต” วิน-กวินทร์ ที่ตอนนี้มาช่วยงานคุณแม่เต็มตัว
กวินทร์ ในวัย 24 ปี จบปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย สหรัฐอเมริกา จบปริญญาโท คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ด้านเรียลเอสเตท GSAPP จากมหาวิทยาลัยเดียวกัน
“ตอนนี้เป็นโปรเจ็กต์เมเนเจอร์ของคริสตัล โซลานา ก็ช่วยดูทุกเรื่อง ตั้งแต่งบประมาณ มาร์เก็ตติ้ง การก่อสร้าง ก็มีความตั้งใจหลายอย่างที่อยากจะทำ อยากขยายบริษัท โดยเน้นด้านการลงทุนมากขึ้น อยากทำให้บริษัทเป็นที่ชื่นชมทั้งจากลูกค้า ผู้ร่วมลงทุน และพนักงาน” หนุ่มหล่อไฟแรงเล่าถึงการทำงานและความตั้งใจในอนาคต
ทุ่มเททำงานขนาดนี้ เจ้าตัวยอมรับว่า “เหนื่อย” แต่ก็ “สนุก”
“งานหนักดีครับ” ว่าแล้วก็หัวเราะ
ซึ่ง “คุณแม่” ยังสาวในวัย 49 ปีก็เสริมว่า ลูกชายมาทำงานตั้งแต่ 8 โมงถึง 2 ทุ่ม แอคทีฟและช่วยงานได้หลายเรื่อง
“เขาเป็นคนรุ่นใหม่ ก็จะนำเสนอแนวคิดใหม่ๆ ที่ดี เราก็ต้องเปิดกว้างรับสิ่งใหม่ๆ”
ด้านลูกชายก็สำทับว่า คุณแม่เป็นไอดอลด้านการทำงาน ในเรื่องของการทำอะไรต้องรู้ลึก รู้จริง และใส่ใจในรายละเอียด
สำหรับลูกคนรอง “กฤษฎิ์ เอี่ยมสกุลรัตน์” กำลังศึกษาระดับปริญญาตรี คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.โคลัมเบีย ขณะที่คนเล็ก “กษิต เอี่ยมสกุลรัตน์” กำลังศึกษาระดับไฮสกูล ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
“เราเป็นครอบครัวที่สนิทสนมกัน ปีหนึ่งเราจะมีเที่ยวทริปครอบครัวใหญ่ๆ ปีละไม่น้อยกว่า 2-3 ครั้ง ดิฉันเลี้ยงลูกง่ายๆ สบายๆ ให้ความรักความเข้าใจ ชอบอยู่กับลูกและคุยกับลูก อยากฟังว่าเขาคิดยังไง
มีเพื่อนยังไง โดยหลักในการสอนลูกจะเน้นเรื่องความมีสาระในชีวิต หนึ่งวันผ่านไปได้ทำอะไรที่เป็นประโยชน์กับชีวิตเรา กับคนอื่นบ้าง และจะปลูกฝังให้เขารู้จักคิดด้วยตัวเอง เพราะเราคงอยู่กับเขาไปไม่ได้ตลอดชีวิต ฉะนั้นถ้าเขาคิดเป็น วางแผนเป็น และบริหารจัดการหลายสิ่งหลายอย่างด้วยความรับผิดชอบ ก็จะเป็นประโยชน์ทั้งต่อตัวเองและสังคม”
เคล็ดลับบริหาร “ธุรกิจหมื่นล้าน”
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะบริหารธุรกิจหมื่นล้าน หากผู้หญิงคนนี้ก็สามารถก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ มาได้เสมอ เธอเผยเคล็ดลับว่า ก่อนอื่นเราต้องมีกลยุทธ์ในการวางแผนอนาคต จากนั้นก็เป็นนักบริหารจัดการสิ่งต่างๆ ให้เดินไปสู่เป้าหมายได้ และที่สำคัญ ระหว่างที่เรากำลังเดินไปสู่เป้าหมาย เราจะทำยังไงที่จะสร้างความสุขในระหว่างทางด้วย
“ส่วนหนึ่งของความสุข คือ สุขภาพดี คือ การออกกำลังกาย เพราะจะทำให้เราอารมณ์ดี สมองปลอดโปร่ง และไม่มีปัญหาในการทำงาน” เรียกว่าเป็นเคล็ดลับที่ผู้หญิงเก่งคนนี้ให้ความสำคัญ โดยทุกเช้าจะตื่นขึ้นมาออกกำลังกายก่อนไปทำงาน ไม่ว่าจะเป็นวิ่ง ตีกอล์ฟ เล่นเทนนิส และถ้าไปต่างประเทศก็จะเล่นสกี ซึ่งเป็นอีกกีฬาที่โปรดปราน
และอีกหนึ่งความสุขคือ “ไม่บ่น” เวลางานมีปัญหา
“ชีวิตคนเรา ทำเยอะก็ยิ่งเจออุปสรรคเยอะ เป็นเรื่องธรรมดา เพราะฉะนั้น เราต้องคิดบวก ดิฉันไม่เคยท้อแท้ และที่สำคัญไม่บ่น แค่นี้คนรอบข้างก็จะมีความสุข หลักๆ มองปัญหาแล้ว แก้ปัญหา คิดบวกเสมอ และทำให้คนรอบข้างมีความสุข”
อย่างการทำงานในทุกวันนี้ ทุกโปรเจ็กต์ที่คิดทำขึ้นมา เธอจะนึกถึงประโยชน์ส่วนรวมด้วย
“งานที่เราทำคือ เราพยายามสร้างคุณค่าให้กับถนนเส้นนี้ ทุกโปรเจ็กต์
ที่เราดีเวลลอป เราคิดแล้วว่าเป็นประโยชน์กับส่วนรวม จากแต่ก่อน ถนนเส้นนี้ยังไม่มีอะไรมาก แต่ตอนนี้มีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดี ก็รู้สึกยินดีและมีความสุข ยิ่งถ้ามีรถไฟสายสีเทาและสีน้ำตาล ก็จะทำให้การเดินทางครบลูปขึ้น กรุงเทพฯก็จะพัฒนายิ่งขึ้นไปอีก และทำให้เรามีโอกาสที่จะทำสิ่งแปลกใหม่ได้ไม่ต่างจากเมืองใหญ่ๆ ทั่วโลก”
ถามว่า ฝันอยากเห็นกรุงเทพฯพัฒนาไปอย่างไร
มาดามตุ๋มกล่าวว่า กรุงเทพฯยังมีได้อีกหลายอย่าง แต่เราอาจจะไม่ต้องรีบร้อนสร้างสรรค์ทำอะไรที่เร็วเกินไป การพัฒนากรุงเทพฯ
โปรเจ็กต์ใหม่ๆ บางครั้งเราก็ต้องให้ความสำคัญกับการเตรียมฐานข้อมูลว่าจะทำอย่างไร คุ้มค่าต่อการลงทุนหรือไม่
“เป็นการบ้านว่าเราจะทำอะไรก็ต้องทำด้วยความรอบคอบและมั่นใจ”
แต่สำหรับ เดอะ คริสตัล ยังคงเดินหน้าทำโปรเจ็กต์อีกหลายอย่าง โดยยึดหลักให้มีคุณค่ากับสังคม
ภายใต้การทำงานที่ “ออกมาจากใจ” มาดามตุ๋มทิ้งท้าย
