เพื่อร่วมสืบสานพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ในการอนุรักษ์งานช่างฝีมือไทย และเผยแพร่ผลงานจิตรกรรมชิ้นเอก และในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และศูนย์การค้าสยามพารากอน จึงร่วมกันจัดงานนิทรรศการ “ความหลากหลายทางจิตรกรรม ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ” ณ ไลฟ์สไตล์ ฮอลล์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน จัดแสดงงานฝีมือชิ้นเอกในแผนกต่างๆ อาทิ แผนกช่างเครื่องเคลือบดินเผา ช่างวาดภาพสีน้ำมัน จิตรกรรมประยุกต์ และเขียนลายไทย โดยมีท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ ราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เป็นประธานเปิดงาน
วิเวก อรุณรัตน์ ประธานคณะกรรมการจัดนิทรรศการ ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ เผยว่า ด้วยพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงมีพระราชประสงค์จะช่วยเกษตรกรที่ยากจนให้มีอาชีพเสริม แบ่งเบาภาระของครอบครัว ในหลายปีที่ผ่านมา กิจการของเราไม่ได้แค่เป็นอาชีพเสริม แต่กลายเป็นอาชีพหลักของใครหลายคน เรามีครูช่างที่คอยสอนงานให้กับผู้ที่สนใจ เน้นเสมอว่าชิ้นงานต้องแตกต่างจากที่อื่น เห็นได้ว่างานศิลปะแต่ละชิ้น มองก็จะรู้ว่าเป็นของบางไทร อย่างงานจิตรกรรม ก็ไม่ใช่จำกัดแค่ผ้าใบ แต่ยังมีการเขียนลงเซรามิก เครื่องประดับ สร้างความแตกต่าง รวมไปถึงสอนการทำการตลาด ที่เน้นทำสิ่งใหม่ไม่เหมือนใคร หรือทำของชิ้นใหญ่ราคาสูง ดีกว่าชิ้นเล็กที่ต้องขายหลายชิ้น
“ที่ผ่านมา เรามีนักเรียนหลายคนที่เข้ามาเรียน 6 เดือน หรือ 1 ปี แล้วกลับออกไปสร้างแบรนด์เป็นของตัวเองได้ นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัลทั้งในระดับไทยและต่างชาติ เช่น แผนกเซรามิก เรามักได้รางวัลยอดเยี่ยมแห่งชาติ บ่อยที่สุด เรามักจะได้รางวัลยอดเยี่ยมทางด้านศิลปกรรม ดีเด่นทางหัตถกรรม อุตสาหกรรม สามารถสู้กับโรงงานได้ ขณะที่จิตรกรรมประยุกต์ ก็ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมจากสหรัฐ และหลายๆ ประเทศ ส่วนแผนกวาดเขียนแม้จะยังไม่ได้ร่วมแข่งขัน แต่ผู้สอนก็ได้รับรางวัลมานับไม่ถ้วน” วิเวกเผย
ขณะที่ หิรัณย์ ชัยชนะ เจ้าของแบรนด์เซรามิกที่ได้วิชาจากศูนย์ศิลปาชีพฯ เผยว่า ก่อนหน้านี้ทำงานออร์แกไนซ์อยู่บริษัทแห่งหนึ่ง และจำเป็นต้องออกมาดูแลแม่ จึงไปหาวิชาติดตัว เมื่อเรียนได้ 4 เดือน ก็รู้สึกว่าชอบ จึงไปขอสูตรกับคนที่เรียนเทอม 2 จะได้รู้ทั้งหมดเร็วๆ และออกมาทำเอง เริ่มจากทำชิ้นงานที่เป็นศิลปะก่อน เมื่อได้รับความนิยมก็ขยายมาทำชิ้นงานเชิงพาณิชย์เพิ่ม เอกลักษณ์คืองานดีไซน์ ให้ดูพลิ้วไหว โดดเด่นจากสีของดิน แต่ละใบมีใบเดียว ลูกค้าที่มาซื้อส่วนใหญ่จะพูดว่าเขามาซื้อสุนทรียะของเรา โดยตั้งแต่เปิดร้านเราก็คิดว่านี่คือความสุขในชีวิตเราแล้ว ชีวิตสมบูรณ์ขึ้น มีเวลาดูแลครอบครัว สามารถขายงานได้ที่บ้าน และได้พบกับสังคมที่คนมีความสามารถมารวมกัน สามารถต่อยอดสิ่งต่างๆ ออกไปได้ไม่หยุด
นิทรรศการ “ความหลากหลายทางจิตรกรรม ศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ” จัดแสดงถึงวันที่ 12 สิงหาคมนี้ พร้อมให้เลือกชมผลงานศิลปะหมุนเวียนกันนับหมื่นชิ้น และการสาธิตงานประเภทต่างๆ รายได้จากการจำหน่ายส่วนหนึ่งทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยเสด็จพระราชกุศลเพื่อบำรุงโครงการศูนย์ศิลปาชีพ บางไทรฯ
