| ผู้เขียน | ติสตู [email protected] |
|---|---|
| เผยแพร่ |
เขาไม่ชอบคำว่าทะเยอทะยาน แต่เขามีมันอยู่มากมาย “สัญชาตญาณของการเอาชนะ” และมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองทำเสมอ เป็นความมั่นใจที่ “มากกว่า” และ “เหนือกว่า” ที่คนทั่วไปจะคิดได้
หนึ่งในความเห็นของพิธีกรหญิงยุค 80 ที่เคยนั่งสัมภาษณ์พูดคุยกับ “โดนัลด์ ทรัมป์” ช่วงวัยหนุ่มที่กำลังสร้างชื่อเสียงและสร้างอัตลักษณ์ให้ตัวเอง ให้พ้นจาก “เงา” ความสำเร็จของ “เฟรด ทรัมป์” ผู้เป็นพ่อที่ปูทางธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้ลูกชาย
พิธีกรหญิงถามว่า ถ้ามีคนอยากสร้างภาพยนตร์ชีวิตคุณ คุณอยากให้ใครมารับบท กล้องจับภาพนิ่งไปที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ในช่วงยังเป็นหนุ่มหน้ามน ผมสีทอง “อาจจะเป็นผมเอง” ทรัมป์ตอบหน้านิ่งอย่างไม่ลังเล
เราได้เห็นความมั่นใจในตัวเองสูงปรี๊ดมาตลอด ตั้งแต่หนุ่มยันสูงวัยของเขาผ่านหนังสารคดี 4 ตอนจบ เรื่อง “หนังสารคดีเจาะลึกตัวตน “โดนัลด์ ทรัมป์”
คนดูจะได้เห็นฟุตเทจเก่าสมัยที่ “ทรัมป์” ยังหนุ่มหน้าละอ่อน ในฐานะเป็น “นักธุรกิจดาวรุ่ง”
สลับด้วยการที่หนังสารคดีสัมภาษณ์บรรดาบุคคลที่เกี่ยวข้องกับชีวิต “ทรัมป์” ตลอด 40 ปี ทั้ง “มิตรและศัตรู” มาพูดคุยเปิดเปลือยความรู้สึกและมุมมองที่มี
Trump : An American Dream ไม่ใช่หนังสารคดีสืบสวนสอบสวนการบริหารประเทศของ “ทรัมป์” แต่พูดถึงที่มาของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ซึ่งทีมงานของ “72 Films” ผู้สร้างสารคดีชุดนี้พยายามดำรงสถานภาพ “ผู้สังเกตการณ์” ส่งต่อเรื่องราวให้คนดู “พินิจกันเอง”
สารคดีพาไปสำรวจวิธีทำธุรกิจของทรัมป์ว่า “เขี้ยวลากดิน” แค่ไหน ด้วยสไตล์ “ควักเงินตัวเองให้น้อยที่สุด” แต่ยัง “ได้หน้า” และ “ชื่อเสียง” ว่าช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้นิวยอร์ก!?!
พอๆ กับที่เขาเป็น “นักขายตัวเอง” อย่างหาตัวจับยาก
ช่วงชีวิตที่ไม่เคย “โลว์โปรไฟล์” และวิ่งหา “สปอตไลต์” ส่องมาที่ตัวเองเสมอ
หรือแม้แต่ฉากตลกร้าย ด้วยเรื่องเล่าจาก “แม่” ของทรัมป์ ถึงวิธีการ “เล่นของเล่น” ของลูกชายเมื่อครั้งยังเด็ก ที่ทำให้เราเข้าใจ “ทรัมป์” แจ่มแจ้งใน 1 นาที!!
หนังสารคดีแบ่งช่วงชีวิตของทรัมป์เป็น 4 ทศวรรษ
เริ่มจากยุค 70 ทำงานในบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของพ่อ ก่อนที่ต่อมาสร้างชื่อเสียงในแมนฮัตตัน นิวยอร์ก จากการสร้างตึกชื่อตัวเอง “ทรัมป์ ทาวเวอร์”
เข้ายุค 80 เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวรวดเร็ว การกู้เงินที่ง่ายขึ้น ทรัมป์ขยายธุรกิจสร้าง “กาสิโน” ระดับอภิอลังการย่านสถานบันเทิงในแอตแลนติกซิตี้ นิวเจอร์ซีย์
สู่ยุค 90 ที่เป็นช่วง “ขาลง” ทั้งชีวิตคู่ร้าวฉาน ปัญหาการเงินสั่นคลอนอย่างหนัก ก่อนจะฟื้นกลับมาด้วยตลาดหุ้นวอลล์สตรีท
ปิดท้ายยุคมิลเลนเนียล ทรัมป์กลับมาแจ้งเกิดในรายการเรียลิตี้โชว์ “The Apprentice” เขามีชื่อเสียงโด่งดังมากขึ้นอีก ได้ฐานคะแนนนิยมสะสมก่อตัว จนแนวคิดลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐชัดขึ้นเรื่อยๆ
ในทางการเมืองสำหรับ “ทรัมป์” ทำอะไรก็ได้ให้ชนะ?
“การพูดแรงๆ แม้ผู้คนอาจคิดว่าเป็นการกระทำโง่ๆ แต่อาจส่งผลดีต่อตัวคุณ ด้วยการท้าทายสื่อ และเรียกพวกเขาว่าเป็นพวกกินซาก?เห็นได้ชัดว่าทรัมป์ทำตามวิธีของเจสซี่ เว็นทูร่า” หนึ่งในความคิดเห็นที่ปรากฏในหนังสารคดีกล่าว
เจสซี่ เว็นทูร่า คืออดีตนักมวยปล้ำผู้สร้างตำนานลงเล่นการเมืองในนามผู้สมัครอิสระ มีเอกลักษณ์พูดจาโผงผางดุดัน มีเรื่องกับสื่อทุกวันในช่วงหาเสียง แต่กลับชนะเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐมินเนโซตาในปี 1998 ซึ่ง “ทรัมป์” มามินเนโซตาเพื่อค้นหากลยุทธ์จากทีมหาเสียง
“เขาไม่ได้สนใจอะไรเป็นพิเศษ เขาแค่สนใจให้ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี” ทีมงานของเว็นทูร่าสรุป
สอดคล้องกับในสารคดีฉายให้เห็นทุกย่างก้าวของทรัมป์ ตัดสินใจอะไรก็ตามอยู่บนคติ “ทำแล้วต้องชนะ”
กระทั่งเบื้องหลังนโยบายหาเสียง “สร้างกำแพง” กั้นชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก ที่ “ทรัมป์” สร้างกระแสท้าทายโลกล้วนเป็นไปตามกลยุทธ์ “ทำอะไรก็ได้ ที่ทำแล้วดัง”
เมื่อมันกลายเป็นประเด็นร้อน ชื่อของทรัมป์เป็นข่าวทั่วโลกทุกวัน
“คนทั้งโลกหัวเราะเยาะเรา พวกเขาหัวเราะไม่ออกหรอก ถ้าผมได้เป็นประธานาธิบดี” เสียงพูดของทรัมป์ ตัดกับภาพจบลงของสารคดี
