| ที่มา | คอลัมน์ ชิมชิล-ชิล มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | สุรนันทน์ เวชชาชีวะ |
| เผยแพร่ |
เจ้า “เฟซบุ๊ก” กลายเป็นเครื่องมือโฆษณาที่ดีอย่างหนึ่ง ร้านผมก็ใช้ มีโปรโมชั่นอะไรพิเศษ โพสต์ขึ้นไปลอยๆ หรือถ้าจะให้ได้วงกว้างเกินเพื่อนฝูงของเรา ก็อัดค่าโฆษณานิดหน่อย จะทำให้คนเห็นจำนวนมาก และเชื่อว่าไม่มากก็น้อยต้องตามมาชิม
วันก่อน ผบ.ทบ. (ผู้บัญชาการสูงสุดที่บ้าน) กดเฟซอยู่เพลินๆ ให้ดูโฆษณา “โปรโมชั่น” ของห้องอาหารจีน “แชงพาเลซ” โรงแรมแชงกรี-ลา ริมแม่น้ำเจ้าพระยา โชว์ภาพ “ปู” ตัวเบ้อเริ่มในถาดใหญ่ บอกว่าเป็น “ปูนึ่งไข่ขาว” แล้วบอกว่า “อยากทาน” ครับเมื่อ ผบ.สั่ง เราเป็นใคร ไม่ต้องถาม ปฏิบัติตามซิครับ อย่ารอช้า
ผมเองไม่ใช่คนที่ชอบทานปูเท่าไหร่ ที่ไม่ชอบเพราะไม่ชอบตอนต้อง “แกะ” บางทียากแสนยาก ต้องใช้ที่หนีบพิเศษหรือค้อนเล็กๆ ทุบ ขนาด “ล็อบสเตอร์” ซึ่งผมชอบมากกว่า เวลาทุบและแกะ ยังเบื่อเลยครับ แต่สำหรับคนที่ชอบ ความเหนื่อยนั้นคุ้มค่า เพราะหากปูหรือกุ้งใหญ่นั้น หาก “เนื้อดี” “สด” จะ “หวาน” ทานเท่าไหร่ก็หยุดไม่ได้
เอาเป็นว่า สำหรับผม ถ้ามีคนแกะให้ก็จะดี (ฮา)
กะ “ชิล” เต็มที่ ไม่ได้ไปมานาน โรงแรมระดับ 5 ดาว อย่างแชงกรี-ล่า ไปเมื่อไหร่ไม่เคย “ผิดหวัง” ขึ้นทางด่วนทันใดหลังปิดร้าน ปรากฏว่า “ติด” ครับพี่น้อง ที่ติดทราบภายหลัง คือช่วงที่ผ่าน มีอุบัติเหตุก่อนทางลงพระราม 4 กว่าจะขยับได้ใช้เวลานาน
เรื่องอุบัติเหตุเป็นเรื่อง “สุดวิสัย” ฝนตกพรำๆ ถนนลื่น รถชนกันได้ กรณีนี้สามคันซ้อน แต่ข้อเสียของ “ไทยแลนด์แดนสยาม” คือ ไม่มีการบอกกล่าว ไม่มีการเตือนว่าข้างหน้ามีอุบัติเหตุ ไม่มีการวาง “กรวย” กั้น เพื่อเบี่ยงทางรถ ทุกคน “แซง” ไปเผชิญกันข้างหน้า รวมทั้ง “รถพยาบาล”
ภายหลังเพื่อนโพสต์บอกที่เยอรมนี หากมีอุบัติเหตุ จะมีสัญญาณแจ้งบอก และทุกคนจะรู้ “หน้าที่” หลบซ้ายขวาให้รถ “บรรเทาสาธารณภัย” หรือ “รถพยาบาล” วิ่งเลนกลางไปช่วยได้ หากเป็นพี่ไทยไม่เกิดขึ้นแน่ ทั้งหมดอยู่ที่การ “บริหารจัดการ” และสร้าง “ประเพณีปฏิบัติ” หรือ “มารยาท” บนท้องถนน ไม่รู้ “ท่านผู้นำ” จะมีเวลามาดูเรื่องย่อยๆ อย่างนี้หรือเปล่า
คงไม่ต้องถึงกับใช้ “มาตรา 44” นะครับ!!
กลับมาถึง “แชงกรี-ล่า” โรงแรมปรับปรุงใหม่นิดหน่อย ห้องอาหารอิตาเลียนเปลี่ยนชื่อ ห้องอาหารจีนเปลี่ยนทางเข้าออก เข้าล็อบบี้โรงแรมเลี้ยวซ้าย เงยหน้าเห็นเลย เมื่อก่อนต้อง “เดิน” ทางยาวกว่าจะถึง ในห้องเปลี่ยนโฉมมีห้อง “ไพรเวท” มากขึ้น พนักงานบอก “แชนเดอเลีย” หรือ “โคมไฟ” ยังร้อยใหม่ ผมนะจำไม่ค่อยได้ แต่ห้องโอ่โถงนั่งสบายเป็นพอ
เมื่อถามพนักงานถึง “โปรโมชั่น” ก็ได้ความ “ปูนึ่งไข่ขาว” ตัวเกือบกิโล ทานได้สองคน เป็น “จานพิเศษ” ของเชฟห้องจีน “เชา ไว แมน” (ใครเปิดเว็บดูจะเห็นรูปเชฟ) มีเหล้าจีน “เส้าชิง” แถมสองแก้ว สนนราคาพอประมาณ 2,188++ บาท แต่เมื่อมาถึงแล้ว “ผีถึงป่าช้า” ไม่ลองก็ไม่รู้
ผมสองคนสั่ง แต่ด้วยความไม่แน่ใจว่าจะพอ เลยพลอยสั่งผัก “ปวยเล้งผัดกระเทียม” และ “ไก่แช่เหล้า” มาประกอบด้วย สองจานนี้ไม่ผิดหวัง ปวยเล้งผัดได้รสชาติ หวานมันครบ ส่วนไก่แช่เหล้า รสเหล้าออกชัด
ไก่ไม่จืด ชุ่มฉ่ำ ฝีมือไม่ตก แนะนำครับ แนะนำ
สำหรับ “พระเอก” นั้น เป็นปูทั้งตัวนึ่งบนไข่ขาว ไข่ขาวเป็นแผ่นหนารองปู เวลา “ตัก” เหมือนตักลงไปในไข่ตุ๋น ส่วนปู “กะเทาะ” เปลือกมาให้เรียบร้อย แกะง่าย ปูเนื้อหวานสด ส่วนไข่ไม่เค็มไม่หวานเกินไป ธรรมดาปูไข่ขาวหลายแห่งจะแกะเนื้อปูผสมกับไข่ แต่ที่นี่ “ปู” เป็น “ปู” และ “ไข่” เป็น “ไข่”
เกือบลืม ที่สำคัญ ขอ “น้ำจิ้ม” ซีฟู้ดแบบไทยๆ ทางร้านพร้อมเสิร์ฟ อร่อยเข้ากัน แซบซะใจครับ!!
ไปสองคนกำลังดีครับ แบ่งกันคนละครึ่งตัว แต่ที่ “ดื่ม” ไม่เป็นเห็นจะเป็นเหล้าจีนที่แถม ผมเคยดื่มมาก่อน เวลาไปงานที่ประเทศจีน แต่ด้วยความ “แรง” ในรสชาติ เวลาดื่มจึง “จิบ” เพียงเล็กน้อย งานนี้สองคนพร้อมใจ (หลังจิบ) สั่ง “ไวน์” ฝรั่งมาแทน โดยเลือกเป็น “Pinot Grigio” ของอิตาลี ซึ่งเหมาะกับอาหารทะเล เบาๆ ใสๆ รสชาติไม่ “กลบ” เนื้อปูที่หวาน แต่กลับเสริมรสชาติให้เด่นขึ้น
อย่าไปเห็นกับ “ของแถม” ยกเว้นเป็น “คอเหล้า” จีนที่คุ้นเคย อาจจะชอบครับ
ส่วนใครชอบทานปูน่าไปลอง เข้าใจว่า “โปรโมชั่น” นี้มีถึงปลายเดือน สอบถามกันก่อนไปนะครับ!!
