ภาษาพาแซ่บ…Desperado แด่ “เกลนน์ ฟราย” ผู้จากไป

สวัสดีด้วยความเศร้าอีกครั้ง

นักร้องดังระดับโลก ที่ฉันแอบโปรดอยู่ในใจสิ้นลมไปซะแล้ว

ไม่ใช่ David Bowie หรอกย่ะ แต่เป็น Glenn Frey (ออกเสียงว่า เกลนน์ ฟราย) แห่ง Eagles ต่างหากล่ะ

ฟรายมีความสามารถหลายอย่างนะ เป็นทั้งนักร้อง “singer” เป็นนักดนตรี “musician” (กีตาร์) แล้วที่สำคัญคือเป็นนักแต่งเพลง “songwriter”

Advertisement

เพลงที่เขาแต่งดังๆ อยู่หลายเพลง อาทิ Hotel California, Take It Easy หรือ Heartache Tonight และ Lyin” Eyes แต่ละเพลงมีหลายๆ ประโยคที่กินใจอยู่นะ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “Desperado” ที่เป็นเพลงฮิตในใจฉันมานานเป็นสิบๆ ปี ฟังได้ไม่รู้เบื่อ

อย่าว่าฉันบ้าไปเองนะ เพลงนี้ถือเป็น 1 ใน 100 เพลง “Western songs of all time” ของสหรัฐอเมริกาทีเดียวนะเออ

Advertisement

ฟรายเขียนเพลงนี้เมื่อปี 1973 ร่วมกับ Don Henley ดอน เฮนลีย์ ที่ร่วมกันก่อตั้ง Eagles มาตั้งแต่เป็นวงแบ๊กอัพให้กับนักร้องดังอย่าง Linda Ronstadt ก่อนที่จะโด่งดังกล่าว เป็นวงอมตะวงหนึ่งของสหรัฐและของโลกในเวลาต่อมา ในเมืองไทยแฟนเพลง Eagles ก็มีไม่น้อยนะ

“Desperado” เป็นเพลงในแนวเล่าเรื่องอย่างที่ฝรั่งเรียกว่า บัลลาด-ballad คนร้องนำ lead vocals คือ เฮนลีย์ ส่วนฟรายเป็นคนร้องประสานเสียง backing vocals

เนื้อหาเป็นการเตือนคนเราว่า อย่าเอาแต่ก่อกำแพงปิดกั้นตัวเอง เลือกอยู่นั่นแหละ (เหมือนยัยกากของเรา 555) อ้างเหตุผลโน่นนี่นั่น เพื่อให้บรรลุถึงความพึงพอใจสูงสุดของตัวเอง โดยไม่คำนึงถึงสิ่งดีอื่นๆ รอบตัว

Desperado, why don”t you come to your senses?

You been out ridin” fences for so long now

Oh, you”re a hard one

I know that you got your reasons

These things that are pleasin” you

Can hurt you somehow

ประโยคท้ายนั่นแหละจับใจนักนะ These things that are pleasin” you, Can hurt you somehow อะไรก็ตามที่ทำให้เราพอใจ อิ่มอกอิ่มใจ ก็สร้างความเจ็บปวดให้เราได้เหมือนกัน

เนื้อเพลงบอกต่อเอาไว้ว่า การก่อกำแพง ปิดกั้นตัวเองก็เหมือนกับติดอยู่ในคุกที่เราสร้างขึ้นมาเอง สุดท้ายก็ได้แต่อยู่เพียงลำพัง Your prison is walking through this world all alone

สุดท้ายก็คือ สูญเสียสัมผัสรู้ถึงทุกสิ่งทุกอย่างไป ไม่ว่าจะเป็นความเย็นของหน้าหนาวที่ฝ่าเท้า หิมะ หรือแดดเจิดจรัส

You”re losin” all your highs and lows, Ain”t it funny how the feeling goes away? ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร highs and lows ในที่นี้คือความรู้สึกดีหรือแย่ในใจเราจ้ะ เพราะเขาต่อด้วยประโยคที่ว่า รู้สึกตลกไหมที่ไม่รู้สึกอะไรอีกต่อไปแล้ว?

สิ่งที่เพลงนี้บอกต่อไปก็คือ ให้ใช้ “สามัญสำนึก” เป็นเครื่องมือ ก้าวลงจากกำแพงนั่นซะ มันอาจไม่สบายอย่างที่คิด It may be raining ฝนอาจตกด้วยซ้ำไป แต่อย่างน้อยก็มีสายรุ้งอยู่เหนือหัวล่ะ It may be rainin”, but there”s a rainbow above you

จากนั้นก็ You better let somebody love you before it”s too late เปิดรับความรักจากใครๆ เสียบ้างดีกว่า ก่อนที่จะสายเกินไป

ใช่…ปิดตัวเองมากเกิน บางทีก็สายไปได้เหมือนกันเนอะ ฝากบอกยัยกากด้วยนะ อิอิ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image