สรรหา มาเล่า…ถูกแกล้งบนโลกออนไลน์เป็น ‘ปัญหา’ สำหรับวัยรุ่นอเมริกันจำนวนมาก

สมัยก่อน ใครจะแกล้งใคร ใครจะด่าใคร ก็รับรู้กันได้ในวงแคบๆ แค่ในกลุ่มเพื่อน กลุ่มคนรู้จัก แต่ในสังคมออนไลน์ทุกอย่างสามารถแพร่ขยาย เป็นที่รับรู้กันได้ไวมากและในวงกว้างขึ้น และทำให้คนที่ถูกกลั่นแกล้งรังแกได้รับผลกระทบต่อชีวิตมากมายตามมาเช่นกัน

ล่าสุดที่สหรัฐอเมริกา มีผลสำรวจจาก สำนักวิจัยพิว (The Pew Research Center) ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยที่ไม่ฝักใฝ่ทางการเมืองของสหรัฐ พบว่าทุกวันนี้มีเด็กวัยรุ่นอเมริกันจำนวนมากรู้สึกว่า การกลั่นแกล้งรังแกกันในสังคมออนไลน์คือ “ปัญหา” และรู้สึกว่าทั้งผู้ใหญ่ระดับนักการเมือง ครู และบริษัทด้านโซเชียลมีเดีย ยังไม่ทำอะไรที่มากพอที่จะแก้ปัญหานี้

ในรายงานของสำนักวิจัยพิวที่เผยแพร่เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ระบุว่า มีวัยรุ่นอเมริกัน 59% ที่ ตกเป็นเหยื่อถูกกลั่นแกล้ง รังแกในสังคมออนไลน์ และมีวัยรุ่นอยู่ 63% ที่บอกว่า นี่คือ “ปัญหาใหญ่” สำหรับคนรุ่นพวกเขา

สำหรับรูปแบบการกลั่นแกล้ง รังแกที่ถูกพบมากที่สุดก็คือ “การตั้งฉายา” หรือ “เรียกชื่อ” ด้วยสรรพนามที่ฟังแล้วไม่ชอบใจ รู้สึกว่าเป็นการไม่ให้เกียรติ โดยมีวัยรุ่นราว 42% ที่เล่าว่าประสบกับปัญหาอันน่าอึดอัดใจนี้ ขณะที่ปัญหาการตกเป็นเหยื่อถูก “ปล่อยข่าว” ที่ไม่เป็นความจริงเกี่ยวกับตัวพวกเขาในสื่อโซเชียลตามมาเป็นอันดับ 2 ราว 32% และปัญหาถูกข่มขู่ คุกคามจะทำร้ายร่างกายผ่านทางออนไลน์ มีอยู่ราว 16%

Advertisement

นอกจากนั้น ยังมีวัยรุ่นราว 1 ใน 4 ที่เล่าว่าได้รับรูปถ่ายที่พวกเขาไม่ต้องการอยากเห็น แล้วยังได้รับคำถามเกี่ยวกับสถานที่อยู่ของพวกเขา จากคนแปลกหน้า ที่ไม่ใช่พ่อแม่ หรือผู้ปกครองของพวกเขา หรือการถูกนำรูปถ่ายของพวกเขาไปแชร์ในโลกออนไลน์ โดยพวกเขาไม่เต็มใจ หรืออนุญาต

ทั้งนี้ โมนิกา แอนเดอร์สัน ผู้นำทีมวิจัยที่สำรวจความเห็นในเรื่องนี้ กล่าวว่า “การถูกตั้งฉายา ถูกเรียกชื่อด้วยสรรพนามต่างๆ นานา และถูกข่าวลือที่ไม่มีมูลความจริงล้วนเป็นเรื่องน่าอึดอัดใจและท้าทายในชีวิตวัยรุ่น แต่การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของสมาร์ทโฟน และสื่อสังคมออนไลน์ ได้แปรเปลี่ยนรูปแบบของการกลั่นแกล้ง วันเวลา และสถานที่ที่เกิดการรังแกกันให้ออกมาเป็นอย่างที่เห็นกันทุกวันนี้”

วัยรุ่นทั้งชายและหญิง ต่างให้ข้อมูลกับสำนักวิจัยพิวว่า พวกเขาต่างถูกกลั่นแกล้ง รังแกในรูปแบบคล้ายๆ กันดังกล่าวข้างต้น แต่วัยรุ่นหญิงมักจะตกเป็นเหยื่อ ถูกข่าวลือที่ไม่เป็นจริง หรือได้รับข้อความที่ไม่สุภาพ ไม่เหมาะสมมากกว่าวัยรุ่นชาย ขณะที่วัยรุ่นที่มาจากครอบครัวยากจนหรือมีรายได้ต่ำ มีแนวโน้มที่จะตกเป็นเหยื่อถูกรังแกในโลกโซเชียล มากกว่าวัยรุ่นที่มาจากครอบครัวที่มีรายได้สูง

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม วัยรุ่นที่ตกเป็นเหยื่อต่างรู้สึกว่าทั้งครู บริษัทด้านโซเชียลมีเดีย และบรรดานักการเมืองต่างยังไม่ลงมือทำอะไรมากพอที่จะจัดการกับปัญหาการกลั่นแกล้งในโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นปัญหาหนึ่งได้รับความสนใจจาก เมลาเนีย ทรัมป์ สตรีหมายเลข 1 แห่งสหรัฐ และเจ้าชายวิลเลียมแห่งอังกฤษ แต่รู้สึกว่า พ่อแม่ ผู้ปกครอง ต่างให้ความสนใจและจัดการกับปัญหานี้ได้ดีขึ้น โดยมีวัยรุ่นราว 59% ที่บอกว่าพ่อแม่พวกเขาจัดการกับปัญหานี้ได้ดีแล้ว

ในรายงานระบุว่า ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ปัญหากลั่นแกล้ง คุกคามในโลกออนไลน์ยิ่งเพิ่มขึ้น ก็เพราะวัยรุ่นจำนวนมากเล่นโทรศัพท์แทบไม่วาง หรือท่องโลกออนไลน์แทบจะตลอดเวลา ซึ่งในผลสำรวจครั้งก่อนของสำนักวิจัยพิวระบุว่า มีวัยรุ่นอเมริกันถึง 95% ที่มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟน และเกือบครึ่งที่ออนไลน์แทบตลอดเวลา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image