| ที่มา | มติชนรายวัน หน้า 18 |
|---|---|
| เผยแพร่ |
“เพราะการมองโลกในแง่ดีเป็นอีกหนึ่งวิธีในการสร้างความมั่นใจให้กับตนเอง”
คือหลักคิดในการดำเนินชีวิตของ น.ส.จุฑาทิพย์ ศรีธำรงวัชร์ หรือน้องเพลง สาวงามวัย 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาและการออกกำลังกาย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
เจ้าของตำแหน่ง “Miss Deaf Thailand 2018” หรือ “นางงามหูหนวกไทยแลนด์ 2018” ที่ล่าสุดเป็นตัวแทนสาวงามประเทศไทยเข้าร่วมการประกวด Miss & Mister Deaf World and Europe and Asia 2018 ณ กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก
ซึ่งมีหนุ่มหล่อและสาวงามเข้าร่วมชิงตำแหน่งกว่า 20 ประเทศทั่วโลก
และก็ไม่ทำให้คนไทยต้องผิดหวัง เธอคว้ารางวัลรองอันดับ 1 “1st Runner up Miss Deaf World 2018” ติดไม้ติดมือมาฝากคนไทยได้สำเร็จ ท่ามกลางบรรยากาศอันอบอุ่น จากบรรดาเพื่อนๆ และครอบครัวที่มารอรับและแสดงความยินดีกับความสำเร็จนี้
จุฑาทิพย์เป็นนางงามหูหนวกไทยแลนด์ คนที่ 2 ที่คว้ารางวัลจากเวทีระดับโลกได้สำเร็จ ต่อจาก น้ำหวาน-ชุติมา เนตรสุริวงค์ ตัวแทนของไทยที่คว้ามงกุฎ MISS DEAF WORLD 2017 มาครองเมื่อปีที่แล้ว
จุฑาทิพย์เล่าถึงเรื่องราวชีวิตของเธอผ่านภาษามือว่า เธอมีความบกพร่องทางการได้ยินมาตั้งแต่แรกเกิด เช่นเดียวกับพี่ชายที่มีอาการเหมือนกัน เธอและเขาจึงเข้าเรียนในโรงเรียนสำหรับผู้บกพร่องทางการได้ยินมาโดยตลอด ขณะนั้นไม่รู้สึกว่าชีวิตลำบากอะไร เพราะครอบครัวและสังคมรอบข้างต่างโอบอุ้มและเข้าใจ ไม่ปฏิบัติกับเธอด้วยความแปลกแยก
ส่งผลให้เธอมีความมั่นใจในตนเอง เชื่อมั่น และไม่สนใจกับความคิดเห็นด้านลบ
แต่กระนั้นเมื่อโตขึ้น การก้าวออกจากสังคมที่คุ้นเคยสู่สังคมใหญ่ ก็ทำให้เกิดความท้อแท้ เพราะการสื่อสารที่ลำบากมากขึ้น บ่อยครั้งเกิดการสื่อสารที่ไม่ตรงกัน เธอจึงรู้สึกเหนื่อยและท้อ แต่ด้วยกำลังใจจากครอบครัวและเพื่อนๆ ที่หลั่งไหลมาไม่ขาด เป็นเสมือนแรงผลักดันให้ยืนหยัดในการทำตามความฝันและความชื่นชอบ
นั่นคือ “การเดินแบบ การแสดง และการเต้นรำ” ซึ่งสอดคล้องกับคุณสมบัติของการเป็นนางงามและเมื่อได้ทำในสิ่งที่ชอบจึงทำได้ดี
จุฑาทิพย์เล่าต่อไปอีกว่า ด้วยขึ้นชื่อว่าเป็นตัวแทนของประเทศ ระหว่างการประกวดในเวทีโลก เธอจึงมุมานะและพยายามเป็นอย่างมาก ประกอบกับรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เจอเพื่อนใหม่ แต่ถึงอย่างนั้นไม่มีความรู้สึกกลัวเลย เพราะงานนี้เธอไปด้วย “ใจที่พร้อมจะสู้”
แม้ว่าจะมีอุปสรรคบ้าง เช่นในเรื่องการสื่อสารที่ต้องเรียนรู้เพิ่มเติม นั่นคือ “ภาษามือสากล” และ “การอ่านปาก” ที่แต่ละชาติมีความแตกต่างกันออกไปตามภาษาที่ใช้ ตลอดจนการแต่งหน้าที่ตลอดการเข้าประกวด เธอต้องแต่งด้วยตัวเอง
เรียกได้ว่าฝีไม้ลายมือไม่ธรรมดา
ส่วนไม้เด็ดที่เธอคิดว่าเป็นเรียกคะแนนจากคณะกรรมการได้ดี คือ “ชุดประจำชาติ” ที่เธอนำเสนอพร้อมกับการแสดง “ระบำลพบุรี” ระบำโบราณคดีของไทย เรียกเสียงชื่นชมจากทั้งเพื่อนผู้เข้าประกวดและคณะกรรมการ
เพราะศิลปะวัฒนธรรมไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก
ทั้งนี้ สาวสวยที่มีรอยยิ้มพิมพ์ใจยังฝากทิ้งท้ายถึงน้องๆ ผู้บกพร่องทางการได้ยินว่า “หากทุกคนมีความตั้งใจ ขยัน และเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเอง ก็สามารถทำได้ทุกอย่างที่อยากทำ เพราะเรื่องของความพร้อมหรือไม่พร้อม อยู่ที่ใจเป็นสำคัญ เหมือนคติประจำใจที่ทุกคนต่างเคยได้ยินมา ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น แต่ต้องลงมือทำด้วย”
