ถอดบทเรียน คดีประวัติศาสตร์ “รุมโทรมเกาะแรด” ก้าวสำคัญงานยุติธรรมไม่อคติทางเพศ

คดีรุมโทรมเกาะแรด
คดีรุมโทรมเกาะแรด

ถอดบทเรียน คดีประวัติศาสตร์ ‘รุมโทรมเกาะแรด’ ก้าวสำคัญงานยุติธรรมไม่อคติทางเพศ

 

เป็นอีกหนึ่งคดีทางเพศที่ต้องบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ ภายหลังเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2560 แม่คนหนึ่งพาลูกสาววัย 15 ปี เข้าแจ้งความกับตำรวจ ว่าลูกสาวถูกชายในชุมชนถึง 40 คน ร่วมกันรุมโทรมนานนับปี ในบ้านเกาะแรด หมู่ 6 ตำบลหล่อยูง อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา จนนำมาสู่การสืบสวนสอบสวนเป็นคดีความในชั้นศาล

รุมโทรมเกาะแรด – ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ศาลจังหวัดพังงาได้พิจารณาคดีให้จำเลยซึ่งเป็นผู้ชาย 11 คน ต้องโทษจำคุกตั้งแต่ 15 ปีจนถึงตลอดชีวิต พร้อมให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่แม่และเด็กผู้เสียหายรวม 18 ล้านบาท ถือเป็นโอกาสให้คนในสังคมร่วมเรียนรู้และเปลี่ยนแปลงมุมมอง

เริ่มต้นจากผู้เชี่ยวชาญด้านเด็ก เยาวชน และสตรี ซึ่งอาสาตัวเองเข้าไปช่วยเหลือแม่และเด็กผู้เสียหายตั้งแต่ช่วงแรกที่เป็นเรื่องเป็นราว และเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้เข้าฟังคำพิพากษาดังกล่าวด้วย

ป้ามล-นางทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนบ้านกาญจนาภิเษก เปิดเผยว่า ตอนแรกยอมรับว่ารู้สึกไม่อุ่นใจกับคดีนี้ เพราะเป็นคดีที่มีผู้ต้องหาจำนวนมาก ช่วงแรกยังมีข่าวชี้นำว่าเรื่องนี้ไม่เป็นเรื่อง อีกทั้งผู้อยู่ในกระบวนการยุติธรรมที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย ซึ่งอาจยังมีทัศนคติชายเป็นใหญ่อยู่ จึงกลัวว่าผู้เสียหายจะไม่ได้รับความยุติธรรม แต่หลังจากที่ได้นั่งฟังคำพิพากษานาน 3 ชั่วโมง ต้องถือว่าเป็นคำพิพากษาที่เยียวยาจิตใจคนทำงานด้านสิทธิมนุษยชนและความรุนแรงจริงๆ เพราะเป็นคำพิพากษาที่เข้าใจผู้เสียหายที่เป็นผู้หญิงอย่างมาก แม้ไม่ได้ปรากฏออกมาเป็นถ้อยคำที่แสดงถึงความเห็นอกเห็นใจ แต่ปรากฏผ่านชุดความคิดและมุมมองที่ค่อนข้างชัดเจน

Advertisement

“อย่างคดีทางเพศทั่วไปอาจมีคำถามที่วกกลับมายังผู้เสียหาย ว่าทำไมไม่ขัดขืน ทำไมไม่ร้องขอความช่วยเหลือ แต่คดีนี้ซึ่งผู้พิพากษาเป็นผู้ชายทั้งหมด ไม่มีคำถามเหล่านี้เลย ตั้งแต่กระบวนการสืบพยานเมื่อเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมที่ผ่านมา ตรงนี้เหมือนว่าท่านผู้พิพากษาได้ยินเสียงแห่งความเจ็บปวด ความอับอายของเด็กผู้หญิงผู้เสียหายทุกนาที ถือเป็นคำพิพากษาที่ก้าวข้ามอคติทางเพศ ถือเป็นพัฒนาการของกระบวนการยุติธรรมที่จะเป็นบรรทัดฐาน ที่มองผู้เสียหายด้วยความเป็นมนุษย์ ซึ่งดิฉันรู้สึกชื่นชม” นางทิชากล่าว

นางทิชายังชื่นชมกระบวนคุ้มครองพยานของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ที่ทำให้แม่และเด็กผู้เสียหายได้รับการดูแลปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง จากสารพัดคำขู่ของชาวชุมชน และขอบคุณองค์กรภาคเอกชน ที่มาร่วมสนับสนุนให้ผู้เสียหายได้กลับไปเรียนหนังสืออีกครั้ง

ซึ่งพบว่าน้องสามารถกลับสู่วงรอบการเรียนที่ดีได้เหมือนเดิม โดยในภาคการศึกษาล่าสุด ยังได้รางวัลนักเรียนดีเด่นเพราะผลเล่าเรียนดี แต่เธอก็ห่วงว่าเมื่อกระบวนการคุ้มครองทางกฎหมายจบ ครอบครัวผู้เสียหายจะอยู่กันอย่างไร ทั้งถิ่นฐานที่อยู่อาศัยใหม่ อาชีพ การศึกษาจากนี้ ซึ่งเธออยากให้กระบวนการคุ้มครองพยานใส่ใจถึงความละเอียดอ่อนนี้

ป้ามล-นางทิชา ณ นคร
ป้ามล-นางทิชา ณ นคร

นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่มีคำพิพากษาดังกล่าวออกมา เพราะจากที่ติดตามมาตลอดพบว่าคดีนี้มีการคุกคามข่มขู่มากจนผู้เสียหายและครอบครัวไม่สามารถอยู่ในพื้นที่ได้ เพราะชาวชุมชนปกป้องกันเองมากกว่าปกป้องผู้เสียหาย ซึ่งต้องชื่นชมกระบวนการยุติธรรมที่มีหลักดีมาก ชื่นชมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพังงา ที่ถูกข่มขู่และถูกอ้างผู้ใหญ่สารพัด เพื่อจะเข้าพบผู้เสียหาย เพราะที่ผ่านมาคดีทางเพศที่มีการฟ้องร้อง ผู้เสียหายมักถูกคุกคามข่มขู่จากผู้กระทำจนต้องตัดสินใจถอนฟ้อง ไม่สามารถเอาผิดผู้กระทำได้ แต่คดีนี้มีการปกป้องคุ้มครองเด็กผู้เสียหายอย่างเต็มที่ ในขั้นตอนการสืบพยานก็ไม่เห็นหน้า และไม่ถูกกระทำซ้ำ

Advertisement

“เชื่อว่าคดีนี้จะเป็นคดีประวัติศาสตร์ ที่จะเป็นแบบอย่างคดีทางเพศในกระบวนการยุติธรรมต่อไป”

นางอังคณากล่าวทิ้งท้ายว่า อยากให้สังคมยืนเคียงข้างผู้เสียหาย เพราะบทเรียนจากกรณีนี้ผู้เสียหายถูกมองว่าโกหกหรือเปล่า ให้การไม่จริง ถูกมองว่าพอใจไปมีเพศสัมพันธ์เองหรือเปล่า ทั้งที่ตามกฎหมายเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีลงไป ไม่ว่าจะสมัครใจหรือไม่ สังคมต้องคุ้มครอง

“ที่ผ่านมาพอมีคดีข่มขืนและฆ่า เรามักจะรุมประณามและออกมาเรียกร้องต่างๆ แต่กรณีผู้หญิงถูกข่มขืน กลับถูกถามว่าแต่งตัวอย่างไร ไปเดินกลางคืนทำไม ไปกับเขาทำไม จนกลายเป็นความผิดผู้หญิง ฉะนั้น อยากให้สังคมเข้าใจเรื่องนี้ ช่วยกันปกป้องผู้เสียหาย เชื่อว่าจะช่วยนำคนผิดมาลงโทษตามกฎหมายได้” นางอังคณากล่าว

ความก้าวหน้าคดีทางเพศ

 

นางอังคณา นีละไพจิตร
นางอังคณา นีละไพจิตร

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

– ชาวเกาะแรด นับร้อยรวมตัวเรียกร้องขอความเป็นธรรมเหตุหมู่บ้านเสียชื่อเสียง กรณีคดีเด็ก 15 โดนรุมโทรม

– ปิดคดีดังรุมโทรมเด็กหญิง ‘เกาะแรด’ คืนความยุติธรรม เขย่าระบบคิด ‘ชายเป็นใหญ่’

– สุดหดหู่! ‘ป้ามล’ เผยเบื้องหลังพิพากษา คดีรุมโทรมเกาะแรด

– คดีรุมโทรมพังงานำด.ญ.ชี้ตัวผู้ต้องหา ห้ามบุคคลไม่เกี่ยวข้องเข้า

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image