เรื่องที่ใครหลายคนไม่รู้ ของ ‘เนสตี้’ เน็ตไอดอลวัย 12 เจ้าของวลี ‘หรูหราหมาเห่า’

รู้จัก! ‘เนสตี้ สไปร์ทซี่’ เน็ตไอดอล ยอดกตัญญู วัย 12 ปี เจ้าของวลี ‘หรูหราหมาเห่า’

เน็ตไอดอล – หากย้อนกลับไปประมาณ 2-3 ปีที่แล้วชื่อของ “เนสตี้ สไปร์ทซี่” อาจจะยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่ ณ ขณะนี้เชื่อว่าเรื่องราวของเน็ตไอดอลกตัญญูที่สร้างบ้านให้พ่อแม่ได้สำเร็จด้วยวัยเพียง 12 ปี จากการไลฟ์สดผ่านทางเฟซบุ๊กจนโด่งดัง กำลังเป็นที่สนใจ และหลายคนอยากจะรู้จัก “เด็กน้อยมหัศจรรย์” คนนี้ให้มากยิ่งขึ้น

ด.ช.นิพิฐพงศ์ รักตน หรือน้องเนสตี้ เกิดและโตที่ จ.พังงา กำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนสตรีพังงา ครอบครัวของเนสตี้ประกอบอาชีพทำสวนปาล์มและยางพารามาอย่างยาวนาน และเขาเป็น “น้องเล็กของบ้าน” เพราะมีพี่น้องทั้งหมดถึง 5 คน

“ครอบครัวของเนสอบอุ่น พี่ๆ รักและเอ็นดูเนสตี้มาก แต่เดิมคุณแม่ตั้งชื่อว่าเนสเฉยๆ ส่วนคำลงท้ายว่า ‘ตี้’ ที่บ้านก็เป็นคนเติมให้ เพราะเห็นว่าเข้ากับบุคลิกของเรา ส่วนชื่อท้าย ‘สไปร์ทซี่’ หนูตั้งเอง เพราะต้องการให้ดู เผ็ดร้อน แซ่บๆ และจี๊ดจ๊าด” เน็ตไอดอลตัวเล็กกล่าวด้วยน้ำเสียงสดใส

“ครอบครัว” ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เริ่มสนใจในการแต่งหน้า

“หนูชอบดูเวลาที่พี่สาวซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกันแต่งหน้าก่อนออกไปทำงาน ชอบมองเวลาเขาแต่งหน้า และแอบจำเอาไว้มาหัดแต่งเอง จากนั้นก็ฝึกแต่งหน้ามาเรื่อยๆ ด้วยตัวเอง เปิดดูคลิปสอนแต่งหน้าของพี่ๆ บล็อกเกอร์ทั้งในยูทูบและเฟซบุ๊ก ซึ่งหนูมีไอดอลเป็นพี่ฉัตรและพี่นัท สะบัดแปรง

Advertisement
เนสตี้กับคุณแม่
เนสตี้กับคุณแม่
เนสตี้กับไอดอล น้องฉัตร
เนสตี้กับไอดอล น้องฉัตร
เนสตี้กับไอดอล นัท สะบัดแปรง
เนสตี้กับไอดอล นัท สะบัดแปรง

เรียกว่าเป็นเด็กน้อยที่รู้ใจตัวเอง เมื่อรู้ว่าชอบอะไรก็หาแหล่งข้อมูลเข้าเรียนรู้ทันที ซึ่งในปัจจุบันก็ไม่ได้มีขั้นตอนยุ่งยากเพราะโลกออนไลน์ได้ย่อโลกให้แคบลง สามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายเพียงแค่คลิ๊กนิ้วเช่นเดียวกับ “พื้นที่บนสังคมออนไลน์” ที่เชื่อมต่อผู้คนจากทั่วโลกเข้าหากัน

ด.ช.นิพิฐพงศ์มีชื่อเสียงบนโลกออนไลน์ในนาม “เนสตี้ สไปร์ทซี่” เพจเฟซบุ๊กที่มีผู้ติดตามมากกว่า 290,000 ราย

“จริงๆ หนูเป็นคนขี้อาย ตั้งแต่เริ่มจำความได้ก็มีนิสัยรักสวยรักงาม เป็นคนชอบเอนเตอร์เทนเพื่อนๆ ไม่ชอบอยู่นิ่ง เลยไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กตั้งแต่ตอนเรียนอยู่ ป.5 กับพี่สาว เพราะชอบที่ได้พูดคุยกับคนเยอะๆ จากหลายที่ และการไลฟ์สดก็ไม่มีใครเห็น มองเห็นแต่หน้าจอของตัวเองและคอมเมนต์จากแฟนๆ ที่คอยติดตาม จึงไม่ประหม่ามากนัก รู้สึกสนุกมาก” เนสตี้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของการไลฟ์สด

Advertisement

และดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีเพียงแค่ความรู้สึกชอบและรู้สึกสนุกเท่านั้น แต่การไลฟ์สดยังช่วยเสริมสร้าง “ความมั่นใจ” ให้กับเนสตี้อีกด้วย

โดยเนสตี้มักจะไลฟ์สดเพื่อพูดคุยกับแฟนๆ อยู่เสมอ พร้อมโชว์แต่งหน้าในลุคต่างๆ โชว์ร้องเพลง และโชว์เต้นน่ารักๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีการนำเสนอเนื้อหาซึ่งเข้ากับเทรนด์ฮิตในขณะนั้น ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์สาจ๋าจากวทานิกา หรือเทรนด์ฟอลลิ่งสตาร์ เป็นต้น

“หนูจะตามเทรนด์ตลอด แต่ว่าเวลาแต่งหน้า หนูจะไม่ค่อยแต่งตามใคร จะแต่งเป็นสไตล์ของหนู คือต้องไม่ขาดไฮไลต์ งานปาก ผิว ตา คือต้องแน่น ต้องครบทุกอย่างเพราะหนูชอบทุกส่วน”

ส่วนเอกลักษณ์ที่ทำให้แฟนคลับยังคอยติดตามและฝากตัวเป็นแฟนคลับตัวยงอยู่ตลอด ในจุดนี้เนสตี้ตอบทันทีว่า

“ต้องเป็นเพราะความบ้าและความน่ารักของหนู ที่บางทีหนูก็แสดงออกมาเองโดยที่หนูไม่รู้ตัว และทางแฟนคลับก็มีการตอบรับที่ดีมาก มาชื่นชมตลอดว่าน่ารักจัง ติดตามอยู่ตลอด น่ารักที่สุด เนสเห็นแบบนี้ก็รู้สึกดีใจและภูมิใจมากๆ”

สาจ๋า

เมื่อมีคนรักก็ต้องมีคนชังมาคู่กันเสมอ กับเรื่องนี้เนสตี้เล่าว่า “เคยเจอมาเรียกเนสว่าไอ้ตุ๊ด อีตุ๊ด ซึ่งจริงๆ ก็รู้สึกเหมือนกำลังโดนบูลลีอิ้ง แต่หนูคิดว่าให้เขาด่าไปเถอะ ถ้าเขาเหนื่อยเดี๋ยวเขาก็หยุดเอง หนูจะไม่โต้ตอบ” และทุกครั้งที่มีคนมาต่อว่า

“หนูไม่รู้สึกอะไรเลย เฉยๆ กับเรื่องนี้มาก เพราะอะไรก็อธิบายไม่ถูก แต่หนูไม่เคยเก็บมาใส่ใจเลย” เนสตี้กล่าว

เรียกว่าเป็นเด็กที่มีจิตใจที่เข้มแข็ง และมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่สูงมากในวัยเพียง 12 ปี

จากเด็กธรรมดากลายเป็นเน็ตไอดอลเพียงชั่วข้ามคืน

กว่าจะประสบความสำเร็จถึงขั้นนี้ก็ต้องพยายาม ร่วมกับการได้รับ “โอกาส” ที่เอื้ออำนวย

เพราะความโด่งดังของ “เนสตี้ สไปร์ทซี่” เริ่มต้นจากการไลฟ์สดโชว์แต่งหน้าลุค “หรูหราหมาเห่า” ที่น้องเนสเล่าถึงที่มาว่า “ตอนนั้นหนูก็คิดลุคไม่ออก จู่ๆ คำนี้ก็แวบมาในหัว ก็เลยบอกคิดว่าใช้ชื่อลุคนี้เลยละกัน”

“ตอนที่หนูไลฟ์สดแต่งหน้าหรูหราหมาเห่า หนูก็ไลฟ์ปกติแต่มีคนเอาไปตัดเป็นคลิปแล้วแชร์ออกไป จนดังชั่วข้ามคืนเลยค่ะ หนูก็ตกใจเล็กน้อย”

ทั้งนี้ นอกจากชื่อลุคการแต่งหน้าที่แปลกใหม่และกลายเป็นวลีฮิตไปแล้ว ก็ประจวบเหมาะกับในไลฟ์สดครั้งนั้น มีคนมาคอมเมนต์จับผิดว่า “เนสตี้บล็อกตา (ลงอายแชโดว์) ไม่เท่ากัน”

และคำตอบในวันนั้นก็ได้คว้าหัวใจของผู้ชมได้อยู่หมัด ด้วยคำตอบที่ว่า “บล็อกตาไม่เท่ากันช่างมันค่ะ เพราะหากเรามั่นใจ ไม่ต้องทำอะไรให้เหมือนกัน คิ้วไม่เหมือนกันอย่าไปซีเรียส เพราะในโลกนี้ไม่มีอะไรเท่ากันอยู่แล้ว”

ภายหลังจากที่มีคนแชร์คลิปวิดีโอส่วนดังกล่าวออกไปอย่างกว้างขวาง ยอดติดตามก็พุ่งสูงขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน

เนสตี้ถูกเชิญให้ไปออกรายการโทรทัศน์หลายรายการ และที่ฮอตไม่แพ้กัน คืองานประกาศรางวัลแห่งหนึ่งที่เนสตี้ได้มีส่วนร่วมไปเดินพรมแดง ด้วยท่าทางการเดินพรมแดงที่แสนจะมั่นใจ ท่าโพสแสนเก๋ ไม่ว่าจะจือปาก เชิดหน้าและกดคางมองจิกกล้องล้วนแล้วแต่ทำได้หมด

แต่ความสามารถของเนสตี้ไม่ได้หมดเพียงเท่านี้ เพราะยังมีน้ำเสียงที่ไพเราะ จนเคยได้ไปออกรายการร้องเพลงในโทรทัศน์อีกด้วย

เนสตี้กับลุคสุดแซ่บ
เนสตี้กับลุคสุดแซ่บ
ล่าสุด มาในลุค “ฮาโลวีน”

เน็ตไอดอลยอดกตัญญู

“เนสมาถึงจุดนี้ก็คิดว่าประสบความสำเร็จแล้ว ได้สร้างบ้านให้ครอบครัว รู้สึกภูมิใจมาก พ่อแม่ก็ภูมิใจ บ้านหลังนี้ราคา 8 แสน หนูออกเงิน 80% ของทั้งหมด ก็คือ 600,000 บาท ด้วยอยากตอบแทนทางครอบครัวที่สนับสนุนและซัพพอร์ตหนูมาตลอด” เนสตี้กล่าว และเล่าต่อว่า

ตอนนี้เข้าพักอาศัยแล้วประมาณ 1 เดือนกว่าๆ พร้อมกับพ่อแม่ และพี่สาว 1 คน รู้สึกมีความสุขและภูมิใจมาก เพราะบ้านหลังเก่าอยู่มานานกว่า 70 ปีแล้ว ตั้งแต่รุ่นปู่ย่า มีทรุดโทรมและเก่ามาก เลยอยากสร้างบ้านให้พ่อกับแม่ได้อยู่ดีขึ้น” นี่คือเหตุผลของเด็กวัย 12 ปี ที่สร้างบ้านให้กับพ่อแม่ได้สำเร็จด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเอง

ภายหลังที่มีคนรู้จักมากขึ้น ก็มีงานติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งงานนี้ เนสตี้บอกว่า “มีคนติดต่องานเข้ามาเรื่อยๆ ไม่หยุด”

ทั้งล่าสุดยังโกอินเตอร์ไปออกงานที่ประเทศจีน ในฐานะพรีเซนเตอร์ให้กับแบรนด์เครื่องสำอางวัยรุ่น

บ้านหลังใหม่ให้ครอบครัว
ภูมิใจ

แต่ถึงกระนั้น เนสตี้มีเกณฑ์ในการรับงาน คือ จะรับรีวิวและไลฟ์สดสินค้าเฉพาะเครื่องสำอาง เพราะสามารถทดลองใช้ให้ดูได้เลยผ่านทางไลฟ์สด ทางแฟนคลับหรือผู้ชมก็จะได้เห็นประสิทธิภาพที่แท้จริงของผลิตภัณฑ์ เขาก็จะนำไปประกอบการตัดสินใจได้ว่าจะซื้อมาใช้หรือไม่ ขณะเดียวกันผลิตภัณฑ์จำพวกใช้บำรุงหรือเป็นอาหารเสริม เนสจะไม่รับ เพราะเราก็อายุยังน้อย ต้องใส่ใจในเรื่องสุขภาพ และสินค้าบางประเภทต้องใช้ชื่อเสียงการันตีคุณภาพ

ซึ่งรายได้ก็ตกอยู่ที่ประมาณเดือนละ 1 แสนบาท โดยคุณแม่เป็นคนช่วยดูแลเรื่องเงิน ส่วนมากก็จะนำมาจ่ายค่าบ้านและใช้หมุนเวียนภายในครอบครัว

ทำงานไม่หยุด แต่เรื่องเรียนก็ไม่ขาด มงลงที่ 1 ของห้อง

มีคนติดต่องานเข้ามาอย่างต่อเนื่องแบบนี้ แต่เนสตี้ที่เป็นอนาคตของชาติ ก็มีการบริหารจัดการเรื่องเรียนอย่างลงตัว การันตีด้วยผลการศึกษาประจำปี ที่เจ้าตัวคว้าที่ 1 ของห้องมาครองได้อย่างสวยๆ

โดยเนสตี้เล่าด้วยน้ำเสียงดีใจว่า “ผลการศึกษาออกมาหนูเป็นที่ 1 ของห้อง ที่ 43 ของชั้น ม.1 จากนักเรียนทั้งหมด 228 คน”

ส่วนเคล็ดลับการเรียนไปด้วยทำงานไปด้วยคือ เรียนตามปกติเลย จะรับงานแค่เสาร์-อาทิตย์ ส่วนเคล็ดลับทางการเรียนคือตั้งใจเรียนในห้องให้เข้าใจ และมีเรียนพิเศษเพิ่มเติมในบางวิชา ถ้าเรียนไม่ทันก็มาตามงานและสอบถามเพื่อนๆ ตลอด และไม่ลืมอ่านหนังสือช่วงสอบด้วย

ลีลาบนพรมแดง
ลีลาบนพรมแดง
ไปทำงานต่างประเทศ
ไปทำงานต่างประเทศ

เนสตี้เมื่อปราศจากการแต่งหน้า

“หนูชอบเล่นวอลเลย์บอลมากๆ เป็นคนพูดมาก และชอบเอนเตอร์เทนเพื่อนๆ แต่ขณะเดียวกันก็ชอบเล่นต่อสู้กับเพื่อนด้วย” เนสตี้เล่า และกล่าวทิ้งท้ายถึงของสะสมว่า

ส่วนของสะสมของหนูก็เป็นเครื่องสำอางนั่นแหละค่ะ

ความฝันที่หลากหลายกับความสามารถที่ซัพพอร์ต

แน่นอนว่าในวัยเด็กใครก็ต่างมีความฝัน เพื่อไว้ตอบคำถามยอดฮิตอย่าง “โตขึ้นอยากเป็นอะไร” ส่วนของเน็ตไอดอลวัย 12 ปีนั้น คือการเป็น “สจ๊วต”

“ตอนเด็กๆ อยากเป็นสจ๊วตค่ะ แต่ตอนนี้หนูอยากเป็นช่างแต่งหน้ามืออาชีพ หรือถ้ามีชวนไปเล่นหนังก็ไป”

ส่วนอีกหนึ่งความฝันที่เพิ่มเข้ามาคือเส้นทางสู่การเป็น “มิสทิฟฟานี่”

แต่อย่างไรก็ตาม เนสตี้ฝากถึงเพื่อนๆ ในวัยเดียวกันและทุกคนที่มีความฝันว่า “ถ้าใครมีความฝันยังไง ก็ต้องไปให้ถึง แล้วเราจะประสบความสำเร็จ”

เน็ตไอดอล

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image