| ที่มา | มติชนรายวันหน้า 18 |
|---|---|
| เผยแพร่ |
ม.จ.มารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร สุนทรียศิลป์แห่งความงามและความน่าเกลียด
เป็นอีกหนึ่งศิลปินชาวไทยที่ได้รับยกย่องในระดับโลก ด้วยเพราะมีผลงานจิตรกรรมที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในศิลปะแบบเซอร์ลิสต์-แฟนตาสติก (Surrealism-Fantastic ART)
เพื่อให้คนไทยได้รู้จัก “หม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร” ยิ่งขึ้น และเป็นแรงบันดาลใจให้นักเรียนนักศึกษาศิลปะ มูลนิธิหม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์บริพัตร จึงร่วมกับกรมศิลปากร จัดนิทรรศการ “ความงามและความน่าเกลียด : สุนทรียศิลป์แห่งมารศี” (Beauty and Ugliness : Aesthetic of Marsi) ซึ่งจัดงานแถลงข่าวเปิดตัว ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ถนนเจ้าฟ้า กรุงเทพฯ
ศ.หม่อมราชวงศ์ ชิษณุสรร สวัสดิวัตน์ ประธานกรรมการมูลนิธิ กล่าวว่า หม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ บริพัตร ทรงมีพระอัจฉริยภาพหลายด้าน อาทิ อักษรศาสตร์ ประวัติศาสตร์ศิลป์ วาดภาพ และดนตรี ทรงสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาเอกในสาขาวรรณคดีจากมหาวิทยาลัย ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และปริญญาเอกในสาขาประวัติศาสตร์ศิลป์ จากมหาวิทยาลัยแห่งมาดริด ประเทศสเปน
หลังจากทรงศึกษาจบ ท่านหญิงทรงงานเป็นอาจารย์พิเศษ วิชาประวัติศาสตร์ศิลปกรรมตะวันตก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนทรงเริ่มศึกษาศิลปะด้วยพระองค์เอง และทรงสร้างสรรค์ผลงานภาพเขียนที่งดงามเหนือจินตนาการ สะท้อนปรัชญาชีวิต จนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในระดับโลก
ศ.ม.ร.ว.ชิษณุสรรกล่าวอีกว่า ในส่วนนิทรรศการครั้งนี้ได้นำผลงานศิลปะในหม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์มาจัดแสดงเป็นครั้งที่ 3 หลังจากจัดแสดงครั้งที่แล้วเมื่อ 5 ปีก่อน แต่มีความพิเศษกว่า เพราะได้นำเรื่องราวชีวิตของท่านหญิงสมัยที่ประทับอยู่ที่พระตำหนัก Vellara ซึ่งรายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์และติดภูเขา ในเมืองเล็กอย่าง Annot ของประเทศฝรั่งเศสกว่า 40 ปี จวบจนช่วงสุดท้ายของพระชนม์ชีพเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2556 มาจัดแสดง
ขณะที่ ผศ.ศุภชัย อารีรุ่งเรือง ภัณฑารักษ์นิทรรศการ กล่าวว่า นิทรรศการนี้ได้นำผลงานภาพวาดฝีพระหัตถ์ของท่านหญิงมาจัดแสดงกว่า 40 ชิ้น รวมถึงของใช้ส่วนพระองค์กว่า 100 ชิ้น อาทิ หนังสือทรงโปรด พู่กัน จานสี แผ่นเสียง ฯลฯ
ตลอดจนการจำลองสตูดิโอ เพื่อให้ผู้ชมได้เรียนรู้และเข้าใจในผลงานศิลปะของท่านหญิง จัดแสดงภายใต้การจำกัดคำ 4 คำของสุนทรียศาสตร์ ได้แก่ ความงาม ความน่าเกลียด เส้นทางการทำงานศิลปะของหม่อมเจ้ามารศี และสัจจะ ซึ่งแต่ละส่วนได้แฝงความหมายและการเรียนรู้ อย่างห้องที่ 3 จัดแสดงผลงานที่มีการใช้สัญลักษณ์ของความน่าเกลียด ความตาย ความอัปลักษณ์ ผ่านโครงกระดูกที่สะท้อนสัจธรรมของชีวิตที่รูปกายไม่จีรัง ที่สำคัญยังได้ลำดับเวลาการสร้างสรรค์งานศิลปะของท่านหญิงต่อเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นทั่วโลกและในประเทศไทย เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสนใจศึกษาเปรียบเทียบงานในเชิงลึกต่อไป
“นอกเหนือจากผลงานศิลปะโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ที่หลายคนทราบกันแล้ว ท่านหญิงยังมีแง่มุมชีวิตที่น่าสนใจ ทรงศึกษาจบปริญญาเอก 2 ใบ ตั้งแต่อายุ 20 ปีกว่าๆ ซึ่งถือว่ามีพระอัจฉริยภาพมาก แต่พอมาอายุ 30 ปี ทรงค้นพบตัวเองว่าชื่นชอบงานศิลปะ จากนั้นทรงทิ้งสิ่งที่ทำมาแล้วทรงศึกษาศิลปะด้วยพระองค์เอง ซึ่งไม่ง่ายเลยในสมัยนั้นที่คนจะมาเรียนศิลปะโดยเฉพาะผู้หญิง เพราะตอนนั้นงานศิลปะขายไม่ได้ นอกจากนั้นยังทรงเป็นแฟชั่นนิส สังเกตได้จากสิ่งของส่วนพระองค์ต่างๆ ตั้งแต่ตุ๊กตา ไปจนกระทั่งก้อนหิน ก็จะทรงตกแต่งให้ดูไม่ธรรมดา และทรงรักสัตว์ และทรงเล่นดนตรี ซึ่งเปิดให้ชมครั้งแรกในงานนี้” ผศ.ศุภชัยกล่าว
โอกาสนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ เสด็จไปเป็นประธานเปิดนิทรรศการ และเสด็จทอดพระเนตรการแสดงแฟชั่นโชว์ Marsi X Flynowlll ซึ่งมูลนิธิร่วมกับ Flynow นำผลงานฝีพระหัตถ์ในหม่อมเจ้ามารศีสุขุมพันธุ์ มาออกแบบคอลเล็กชั่นเสื้อผ้าและแอคเซสซอรี่ อาทิ เสื้อเชิ้ต เดรส ผ้าพันคอ กระเป๋า ฯลฯ
สำหรับนิทรรศการจัดแสดงแล้ววันนี้ถึง 23 ธันวาคม ระหว่างเวลา 09.00-18.30 น. ทุกวันพุธถึงวันอาทิตย์ เปิดให้เข้าชมฟรี (มีค่าบำรุงพิพิธภัณฑ์ 30 บาท) ณ ห้องนิทรรศการ 5-8 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ถนนเจ้าฟ้า
