| ที่มา | มติชนรายวันหน้า 18 |
|---|---|
| ผู้เขียน | คอลัมน์ อร่อยอินเทรนด์ |
| เผยแพร่ |
อร่อยอินเทรนด์…ดูดเพลิน ‘โคอิ เตะ’ ชาไต้หวันแท้ เคี้ยวหนุบหนับ ‘ไข่มุกสีทอง’
เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี “ชานมไข่มุก” ก็ยังเป็นเครื่องดื่มที่เหล่าสาวก “ฟินเฟร่อ” ทุกครั้ง ยามได้ลิ้มรส
โคอิ เตะ – ยิ่งช่วง 1-2 ปีนี้ มีชาไข่มุกแบรนด์ใหม่ๆ ผุดขึ้นหลายแบรนด์ ยิ่งทำให้ “คอชาไข่มุก” มีทางเลือกให้ดื่มมากขึ้น
หนึ่งในแบรนด์ที่ “ออเดอร์ล้น” จนมีแถวต่อคิวยาวหน้าร้าน จนต้องให้พนักงานมารับออเดอร์ก่อน เพื่อไม่ให้ลูกค้าหงุดหงิดเพราะรอนาน คือ KOI Th” หรือ “โคอิ เตะ” แบรนด์ชาพรีเมียมจากไต้หวัน
ณัฐพล เอกแสงกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทโคอิ เตะ ประเทศไทย เล่าว่า โคอิเตะเป็นแบรนด์ชาจากไต้หวัน ก่อตั้งโดย มิสหม่า ชาวไต้หวัน ที่อยากแนะนำวัฒนธรรมการดื่มชาแบบไต้หวันแท้ๆ ให้ต่างประเทศรู้จัก จึงต่อยอดจากธุรกิจร้านชาชื่อดังของครอบครัว แบรนด์ อู่สือหลาน (50Lan) ที่มี 300-400 สาขาทั่วประเทศ
“โคอิ เตะ เป็นแบรนด์ที่แตกออกมาจากแบรนด์ใหญ่ มีสาขาต้นแบบแห่งแรกที่ไต้หวัน เมื่อปี 2006 จากนั้นปี 2007 ได้ขยายมาเปิดที่สิงคโปร์เป็นประเทศแรก และขยายสาขามาเรื่อยๆ ทั้ง อินโดนีเซีย กัมพูชา เวียดนาม ญี่ปุ่น ฮ่องกง มาเก๊า มาเลเซีย พม่า และจีน ปัจจุบันมีทั้งหมด 12 ประเทศ 350 สาขา ไทยเป็นประเทศที่ 10 มีทั้งหมด 20 สาขา เช่น สาขาสยามพารากอน และล่าสุด สาขาไอคอนสยาม”
โฮมเมด ที สไตล์ “ชาไต้หวันแท้ๆ”
ด้วยเป็น “โฮมเมด ที” (Handmade Tea) สไตล์ “ชาไต้หวันแท้ๆ” วัตถุดิบที่ใช้ทุกอย่างทำใหม่หมด เพื่อให้แต่ละแก้วคงความเป็นชาไข่มุกแบบไต้หวันอย่างแท้จริง จึงทำให้ขนาดของร้านใหญ่กว่าร้านชาทั่วๆ ไป เพราะต้องมี “ครัว” เพื่อชงชาสดๆ และมีตู้แช่วัตถุดิบต่างๆ
ส่วนขั้นตอนการ “ชงชา” ก็พิถีพิถันทุกขั้นตอน โดยวัตถุดิบหลักทั้งหมดนำเข้ามาจากไต้หวัน ซึ่งทุกอย่างจะเป็นมาตรฐานเดียวกับทุกๆ ประเทศ
อย่างการ “ต้มชา” ที่แต่ละครั้งจะเก็บไว้ใช้ได้เพียง 3 ชั่วโมง เช่นเดียวการต้ม “ไข่มุก” ซึ่งที่นี่ต่างจากไข่มุกทั่วไป เพราะเป็น “โกลด์เด้น บับเบิล” หรือ ไข่มุกสีทอง ไข่มุกลูกเล็กๆ หวานในตัว ไม่บวม ไม่อืด เคี้ยวหนึบๆ สนุกปากสุดสุด ถือเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน ที่หลังจากใช้เวลาต้ม 45 นาที-1 ชั่วโมง ก็มีระยะเวลาในการใช้ได้ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น
ทั้ง “ชา” และ “ไข่มุก” ถ้าใช้ไม่หมดตามระยะเวลากำหนด ก็ต้อง “ทิ้ง”
ไม่นำมาจำหน่ายให้ลูกค้าเด็ดขาด เพื่อรักษา “รสชาติ” และ “คุณภาพ” ตามมาตรฐานที่ดีที่สุดไว้
ซึ่งช่วงแรกๆ ที่โคอิ เตะ มาเปิดในเมืองไทย ณัฐพลเผยว่า ก่อนจะเป็นที่นิยมแบบนี้ ต้มชา ต้มไข่มุกทิ้งมาเกือบครึ่งปี
เมนู “ซิกเนเจอร์”
สำหรับเมนู “ชา” แบ่งเป็น 4 หมวด มีทั้ง ชาสด (Flavored Tea), ชาใส่ท็อปปิ้ง (Chewy Tea), มัคคิอาโต้ (Signature Macchiato), ชานม (Milk Tea)
โดยมีท็อปปิ้งให้เลือก 4 แบบ ไข่มุกคาราเมล (Golden Bubble), กราสเจลลี่ (Grass Jelly) มีลักษณะคล้ายเฉาก๋วย เนื้อนุ่มละลายในปาก, อโลเวร่า หรือ ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera) และ โคโคนัท ไอศกรีม ท็อปปิ้งที่มีเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น
ความเก๋ คือ เครื่องดื่มที่นี่มีระดับน้ำตาลให้เลือก 6 ระดับ ตั้งแต่ More Sugar 120%, Full Sugar 100%, Less Sugar 70%, Half Sugar 50%, Quarter Sugar 25%, No Sugar 0%
ใครไม่ชอบหวานก็สามารถลดปริมาณน้ำตาลลงได้ แต่ถ้าไม่เลือกความหวาน ทางร้านจะให้แบบ 100% หวานปกติมา
เมนูซิกเนอเจอร์ของที่นี่ ยกให้ “โกลด์เด้นบับเบิลมิลค์ที” ที่ความหวานความหอมของชา เมื่อดื่มคู่กับไข่มุกสีทองหนึบๆ ไม่แข็งและไม่นิ่มจนเกินไป เคี้ยวเพลินๆ เรียกว่าอร่อยละมุนๆ กำลังดีทีเดียว
อีกหนึ่งเมนูซิกเนเจอร์ คือ “มัคคิอาโต้” ที่อยากให้ลองสั่ง มีทั้ง แบล็คทีมัคคิอาโต้, กรีนทีมัคคิอาโต้ หรือ โอวัลตินมัคคิอาโต้ ที่ทางร้านจะชงเครื่องดื่ม 2 เลเยอร์ โดยใส่ชาหรือโอวัลตินลงไปก่อน และตามด้วยมัคคิอาโต้เนื้อนุ่มสีขาวนวล
วิธีการดื่ม ให้ “ยกดื่ม” ไม่ใช้หลอด
โดยทางร้านจะมีมีดให้ตัดตามรอยประตรงปากแก้ว แล้วยกแก้วดื่ม ก็จะได้รสชาติอีกแบบหนึ่ง เป็นรสชาติที่ไม่ใช่ชาผสมนม แต่เป็นการดึงรสชาติของชาให้เด่นพิเศษ เมื่อผสมผสานกับมัคคิอาโต้สูตรเด็ดของร้าน งานนี้ หวานเข้าเส้นก็ยอม!!
ร้านโคอิ เตะ มีทั้งหมด 20 สาขา สำหรับสาขาพารากอน พิกัด ชั้น G ศูนย์การค้าสยามพารากอน ราคาตั้งแต่ 45-105 บาท
