ล้วงลึกชีวิต จรินทร์ สุมานนท์ ‘เจ้าแม่ห่มเพชร’เมืองไทย

“คนก็คงว่าเราแรงๆ บ้าง อาจจะอิจฉาว่าเราใส่เพชรเยอะ เว่อร์ ก็เป็นสิทธิของเขา คนมีปากก็พูดไป เราคงห้ามไม่ได้ แต่เราไม่สนใจ เขาไม่ได้มาพูดให้เราฟัง เราไม่ได้ไปโกงใครเขามา ไม่ได้เล่นพนัน หรือเสียเงินกับอะไรที่ไม่ดี เรามีความสุขของเรา อายุปูนนี้ ไม่รู้จะอยู่ได้อีกนานเท่าไหร่ มีเงินไม่ใช้ก็โง่แล้ว อย่างไรก็เอาเงินไปไม่ได้อยู่ดี”

เสียงเล่าจากมาดามหลี-จรินทร์ สุมานนท์ ไฮโซอันดับต้นๆ ที่ใครหลายคนต่างรู้จักกันว่าเป็น 1 ในเจ้าแม่ห่มเพชรและอัญมณีเบอร์ต้นๆ ของเมืองไทย ที่ไม่ว่าเจ้าตัวจะไปเฉิดฉายที่งานใด มักจะเรียกแสงแฟลชวิบวับจากเครื่องเพชรชุดใหญ่ที่ใส่ไปได้ทุกครั้ง ซึ่งไม่เพียงแต่สีสันจัดจ้านชัดเจนในเรื่อง “เพชร” แล้ว ชีวิตของเธอยังเรียกว่ามีสีสันไม่น้อย เมื่อได้โอกาสจึงได้ขอเวลาของจรินทร์ ที่ยอมเปิด เวนิส ดิ ไอริส คอมมูนิตี้ มอลล์แห่งใหม่ของครอบครัวที่เจ้าตัวอาสามาดูแลเรื่องห้องอาหารให้ลูกชาย นำเอาเครื่องประดับสุดรักหลากสีสันทั้ง 5 ชุด มาโชว์พร้อมเล่าเรื่องความรักที่มีต่ออัญมณีเหล่านี้กันเสียหน่อย

ชีวิตของจรินทร์นั้น แม้จะเกิดมาในครอบครัวเศรษฐีตั้งแต่เด็ก เป็นลูกสาวเจ้าของโรงงานใหญ่ที่ผลิตกระป๋องน้ำมันเครื่องส่งปั๊มน้ำมันต่างๆ แต่เธอก็ยังยึดหลักชีวิตต้องไม่หยุดนิ่ง ต้องขยันทำงานตลอด เมื่อแต่งงานกับสามี วิทัย สุมานนท์ แล้ว จึงสร้างรากฐานของครอบครัวด้วยกัน เปิดปั๊มน้ำมัน ขายส่งสุขภัณฑ์ จนกระทั่งเริ่มทำอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ มาตลอด 40 กว่าปี นอกจากนี้เวลาว่างก็ขอใช้ “ลีลาศ” กีฬาโปรดที่เจ้าตัวและลูกสาวชื่นชอบมานานช่วยเหลืองานการกุศลต่างๆ อยู่เสมออีกด้วย

201604052010111-20030315182420

Advertisement

แม้จะเป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่เช่นไร จรินทร์กลับบอกว่า ทุกวันนี้ใช่ว่าจะมีเงินเก็บมากมาย เหตุเพราะ “มีเงินเท่าไหร่ ก็นำไปซื้อเพชรทั้งหมด” (หัวเราะ)

ด้วยเหตุนี้เอง หากเอ่ยถามถึงอัญมณี เครื่องเพชรที่เจ้าตัวเก็บไว้ จึงเรียกว่านับไม่ถ้วน แบบที่เจ้าตัวกล่าวว่า

“ไม่เคยนับเลย ไม่เคยจดด้วย แต่มีอัญมณีครบทุกสี เวลาที่ใส่ออกงานก็จะใส่ให้เข้ากับสีชุด ใส่ให้แมตช์กัน สีหนึ่งก็มีหลายชุด ซ้ำกันก็มี แค่มองแล้วมันสวย เห็นราคาแล้วรับได้ เราก็ซื้อ” (หัวเราะ)

Advertisement

“อย่างใส่ชุดสีม่วง เราก็จะใส่อะเมทิส ชุดสีเหลืองก็ใส่บุษราคัม สีแดงของทับทิม สีน้ำเงินก็บลูแซฟไฟร์ เรามีทุกสี ไม่เกี่ยงดีไซน์ บางครั้งที่ชอบมากๆ เราก็ซื้อแบบเดียวกันก็มี เก็บไว้ที่บ้านบ้าง ที่ธนาคารบ้าง”

แต่กว่าจะมีเครื่องเพชรในครอบครองมากมายเยี่ยงนี้ เหตุแห่งความรักเพชรนั้นจะต้องย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยเรียน ที่จรินทร์เล่าว่า ตอนมัธยมพอขับรถได้ก็ต้องขับรถพาแม่ไปซื้อเพชรที่บ้านหม้อ ซึ่งคุณแม่ชื่นชอบเพชรมาก คุณพ่อเองก็ชอบเพชรคอยสนับสนุนเสมอ หลายครั้งพ่อค้าเพชรก็มาขายที่บ้าน กลายเป็นความชอบขึ้นมาอย่างที่พี่น้องคนอื่นก็ไม่เหมือน เพชรเม็ดแรกจึงเป็นเพชรที่คุณแม่ซื้อให้เป็นแหวนแถว 6-7 เม็ดเรียงกัน ไม่นานนักคุณแม่จะซื้อแหวนเพชร 2 กะรัตให้อีกวง ก่อนที่ทำงานหาเงินได้ด้วยตัวเองแล้ว จะถึงเวลาที่จะซื้อหาเป็นของตัวเอง พ่ายแพ้แก่ความงามของเพชร

201604052013195-20030315182420
กับเครื่องประดับชุดหยก ที่จรินทร์ใช้เวลารวบรวมหยกอยู่หลายปี ก่อนจะนำเอามาร้อยเรียงเป็นหนึ่งเซตแบบพิเศษ พร้อมเล่าถึงความรักในหยกว่า ได้มาเพราะคุณแม่ชื่นชอบหยกมาก

“บางคนชอบถามว่าชอบเพชรที่ตรงไหน เราก็บอกไม่ถูก เพราะแค่มองเพชรในตู้โชว์ เราก็ชอบแล้ว ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่มาช่วยลูกดูร้านอาหารที่เดอะเวนิส ว่างต้องไปนั่งอยู่โชว์รูมเพชร บิวตี้ เจมส์ เกือบทุกวัน เห็นแล้วก็ชอบ มีความสุข ใส่แล้วก็สวยงาม บางครั้งก็คิดว่าจะไม่ซื้อ สุดท้ายก็ต้องซื้อเพราะอดใจไม่ไหว”

“ครั้งหนึ่งเห็นมรกตชิ้นหนึ่ง 100 กว่ากะรัต สวยมาก แต่ใหญ่เกินไป คิดว่าไม่ซื้อดีกว่า สุดท้ายก็ตัดใจกลับไปซื้อ ซึ่งก็คิดว่าคิดถูก เพราะทุกวันนี้หามรกตเนื้อดีและใหญ่เท่านั้นไม่ได้อีกแล้ว เพราะบางอย่างหากเราไม่ซื้อแล้วคนอื่นได้ไป เราก็มานั่งเสียดายเอง อย่างเพชรมีเงินซื้อได้ แต่กับพลอยมีเงินซื้อไม่ได้ จะหาของแท้ดีๆ หาได้ยากแล้ว”

“อย่างคนรุ่นใหม่ชอบคิดว่าการซื้อเพชรเป็นการเก็งกำไร สำหรับเราไม่เคยคิดเรื่องนั้นเลย เพราะว่าเราไม่ได้คิดจะขาย จริงอยู่หากเทียบกันแล้วราคาสูงขึ้นกว่าตอนที่ซื้อแรกๆ แต่เราไม่ได้คิดจะขาย ก็ไม่เรียกว่ากำไร ทุกคนชอบมาถามว่าเพชรที่ใส่เท่าไหร่ๆ เราก็บอกเสมอว่า 7 หลัก ไม่เคยบอกใครว่าเท่าไหร่”

และด้วยสะสมไว้มากนี่เอง เรียกได้ว่าประสบการณ์เครื่องประดับหายมีมาไม่ขาด ล่าสุดหลังจากนำเครื่องเพชรมาถ่ายแฟชั่นโชว์ ก็วางลืม หาไม่เจอไปหลายเดือน จนต้องขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์จนกระทั่งเจอก็มีมาแล้ว

“ครั้งหนึ่งครอบครัวเราจะไปขอนแก่น ก็ขับรถไปเรื่อยๆ ผ่านทางโคราชแล้วเพิ่งเห็นว่าหัวนาฬิกาโรเล็กซ์เราหาย ต้องขับกลับมาใหม่ 3 ชม.ตามเส้นทางเดิมหาให้เจอ ลูกกับสามีก็ไม่อยากมา แต่เราไม่ เราคิดว่าหาไม่เจอไม่เป็นไร ต้องได้หา สุดท้ายก็มาเจอตกอยู่ข้างทาง ตอนนั้นแม่ค้าที่ร้านที่เราไปเจอยังขำกันใหญ่”

“หรืออีกครั้งหนึ่ง เราตั้งใจจะไปให้กำลังใจ หนึ่ง (สุริยน ศรีอรทัยกุล) ที่เขาเดินแบบในงาน ก่อนเริ่มงาน หนึ่งเขาก็สั่งหูฉลามมาให้กินแล้วก็ไปงานกัน พองานจบกำลังจะนำดอกไม้ไปมอบให้เขาบนเวที ก็เพิ่งเห็นว่าหัวแหวนที่มือหายไป ตกใจกันใหญ่ คนทั้งงานต้องมาช่วยหา ผู้บริหารงานก็ตกใจด้วย สุดท้ายเลขาฯหนึ่งไปเจออยู่ใกล้หม้อหูฉลาม ทำเอาตกใจกันไปหมด” จรินทร์เล่าด้วยน้ำเสียงขำขัน

201604052006179-20030315182420

แต่เห็นเป็นเจ้าแม่เพชรอย่างนี้ เรื่องเพชรปลอมก็ไม่พลาดเช่นกัน มาดามหลีเล่าว่า เจอมาเยอะ แต่ก่อนตอนทำปั๊มน้ำมัน แม่ค้าจันท์จะนำมาขายให้ที่บ้าน สามีก็ต้อนรับเขาอย่างดีทั้งๆ ที่เรายังไม่ตื่น เราก็ไม่เคยรู้ว่าในกองที่นำมาขายมีทั้งของแท้และปลอมปนๆ กันมา ซื้อเขามาเพราะเชื่อว่ามาจากแหล่ง สุดท้ายกว่าจะรู้ว่าปลอม เสียหายไปไม่น้อย แต่ทุกวันนี้ไม่มีแล้ว เราดูเป็น และก็ไม่ใส่ของปลอมเด็ดขาด หากไปต่างจังหวัดไกลๆแล้วไม่อยากนำของมีค่าไปมากๆ ก็จะใส่เป็นคอสตูมไปเลย สบายใจกว่า

ใช้ชีวิตความเป็นเจ้าแม่เพชร มาจนอายุ 74 ปีนี้ จรินทร์บอกว่าทั้งหมดต้องขอบคุณสามีมาก ที่ไม่เคยบ่นอะไรเราเลย และไม่แคร์หากใครจะนินทาว่าเว่อร์

“กว่าจะซื้อเพชรชิ้นนึง เราก็ทำงานหาเงินซื้อมาเอง ไม่เคยขอเงินสามีด้วยซ้ำ สามีก็ไม่เคยว่าอะไร เราใช้เงินของเราเอง เราเองก็ไม่เคยเล่นพนันหรือทำอะไรไม่ดีอย่างอื่น มีแค่เพชรกับเสื้อผ้า เราก็ไม่แคร์คนอื่นจะพูดอย่างไร และไม่เคยอิจฉาใครด้วย เห็นใครมีมากกว่าเราก็ยินดี หากใครด้อยกว่าเราก็เมตตาเขา แม้กับเพื่อนๆ เองก็สนับสนุนให้แต่งตัว”

“อย่างทำงานการกุศล แม้เราจะช่วยคนอื่น สร้างกิจกรรมต่างๆ เชิญแขกมามากมาย แต่เรื่องหนึ่งที่ยึดเลยคือจะไม่จับเงิน เงินที่เข้ามูลนิธิต้องไม่ผ่านเราสักบาท คือแม้เราจะรู้ว่าเราไม่ได้จะไปเอาเงินเขา แต่เราก็ป้องกันไว้ก่อน คนจะได้ไม่ว่าเราได้ เพราะเราทำด้วยใจ”

“ยึดหลักจริงใจกับทุกคน คิดดีทำดี จึงจะอยู่นานอย่างทุกวันนี้”

201604052002172-20030315182420

201604052002174-20030315182420

201604052002179-20030315182420

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image