คอลัมน์ สรรหามาเล่า…มิเชล โอบามา ฝาก “คำแนะนำ” อะไรถึงพระชายา เจ้าชายแฮร์รี?
มิเชล โอบามา อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 แห่งสหรัฐอเมริกา น่าจะเป็นเพียงไม่กี่คนในโลก ที่เข้าใจถึงความรู้สึกของ เมแกน มาร์เคิล หรือดัชเชสแห่งซัสเซกส์ พระชายาเจ้าชายแฮร์รีแห่งอังกฤษได้เป็นอย่างดีกับบทบาทใหม่ในชีวิต ที่พระชายาคนงามของเจ้าชายแฮร์รี กำลังสวมบทบาทอยู่ตอนนี้ ในฐานะสมาชิกใหม่ของราชวงศ์อังกฤษ ที่ต้องมีชีวิตอยู่ภายใต้การจับจ้องของสาธารณชน
อีกทั้งสุภาพสตรีทั้งสอง ยังมีอะไรที่คล้ายกันหลายอย่าง อาทิ ทั้งมิเชล และเมแกน ต่างเป็นผู้หญิงชาวอเมริกันผิวสี ที่ตกเป็นเป้าสนใจของผู้คน เพราะบทบาทหน้าที่การงานของสามี ที่ทำให้ภริยาคนเก่งของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐอเมริกา และดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ พระชายาเจ้าชายแฮร์รี กลายเป็นจุดสนใจ เป็นที่จับจ้อง อยากรู้ อยากเห็นของสาธารณชนไปตั้งแต่เรื่องแฟชั่นการแต่งตัว จนถึงบทบาทการทำงานของพวกเธอ
“เช่นเดียวกับฉัน เมแกนคงไม่เคยคิดฝันมาก่อนว่าเธอจะมีชีวิตแบบนี้ แล้วยังความรู้สึกกดดันที่มาจากทั้งตัวเราเองและจากคนอื่น ซึ่งบางครั้งมันทำให้รู้สึกกดดันมากเหลือเกิน” มิเชล อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 แห่งสหรัฐอเมริกาวัย 54 ปีให้สัมภาษณ์ในนิตยสาร Good Housekeeping ฉบับเดือนมกราคม 2562
“ดังนั้นคำแนะนำของฉันก็คือ ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งรีบทำอะไร ฉันเองใช้เวลา 2-3 เดือนแรกเมื่อเข้าไปอยู่ในทำเนียบขาว คิดถึงแต่เรื่องลูกสาวสองคนของฉันว่า จะทำอย่างไรให้ลูกๆ ได้เริ่มต้นชีวิตในโรงเรียนใหม่ได้อย่างราบรื่น และมีเพื่อนใหม่ โดยทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ฉันคิดก่อนที่ฉันจะมานั่งคิดถึงงานที่ฉันอยากทำ ซึ่งฉันคิดว่า มันโอเค เลยแหละ”
ในฐานะที่เคยมีประสบการณ์ในการริเริ่มทำโครงการต่างๆ เมื่ออยู่ในฐานะ สตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐอเมริกามาแล้วถึง 2 สมัย มิเชลยังมีคำแนะนำถึงเมแกน พระชายาเจ้าชายแฮร์รีว่า การริเริ่มทำโครงการใดๆ ก็ตาม ขอให้เริ่มจากสิ่งที่เรามีความรัก ความสนใจในเรื่องนั้นๆ จริงๆ
“สิ่งที่ฉันอยากจะพูดก็คือ ในบทบาทที่คุณกำลังยืนอยู่ ได้เปิดโอกาสให้คุณสามารถทำสิ่งดีๆ ที่เป็นประโยชน์ได้มากมาย และฉันก็คิดว่า เมแกนสามารถจะมีอิทธิพลต่อผู้คนได้อย่างมากมาย รวมถึงความสุขของตัวเธอเองด้วย หากเธอได้ทำสิ่งที่มาจากความเป็นตัวตนของเธอ”
ในโอกาสเดียวกันนี้ มิเชล โอบามา ยังกล่าวว่า จากการที่เธอได้พบปะกับผู้หญิงรุ่นใหม่ เธอรู้สึกมีความหวังกับผู้หญิงทุกวันนี้
“ผู้หญิงยุคนี้ อาจเจออุปสรรค ปัญหามากมาย แต่สิ่งที่ทำให้ฉันเกิดแรงบันดาลใจก็คือ มีเด็กสาวมากมายที่ฉันมีโอกาสได้เจอ พวกเธอสามารถเอาชนะอุปสรรคด้วยวิธีการที่น่าทึ่ง และที่ต่างจากคนรุ่นฉันก็คือพวกเธอไม่ได้ยึดติดอยู่กับความเชื่อเก่าๆ ที่ว่า
เด็กผู้หญิง เด็กชายไม่สามารถทำสิ่งเดียวกันได้ ผู้หญิงทุกวันนี้มีส่วนร่วม มีบทบาทในเรื่องกีฬา คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี พวกเธอกล้าพูดไม่ใช่แค่ในชั้นเรียน แต่กล้าพูดในเวทีสาธารณะที่เปิดโอกาสให้เด็กรุ่นใหม่ และฉันก็มีความหวังในผู้หญิงรุ่นใหม่นี้มาก”
