ชาวต่างชาติ ประทับใจงาน ‘อุ่นไอรักฯ’ เปรีียบเป็นสถานที่แห่งความทรงจำ
เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ที่พระลานพระราชวังดุสิต และ สนามเสือป่า ที่มีการจัดงาน อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่เปิดให้ประชาชนเข้าชมตั้งแต่เวลา 10.00 น. ประชาชนทั่วสารทิศต่างเดินทางมาเที่ยวงานอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย ทั้งนักเรียน นักศึกษา ผู้สูงอายุ และชาวต่างชาติ ที่ต่างแต่งกายย้อนยุคสมัยรัชกาลที่ 5 และ เสื้อสีเหลือง มาศึกษาหาความรู้ตามนิทรรศการต่างๆ และร่วมถ่ายภาพเป็นที่ระลึก บ้างก็เช่าชุดไทยเดินเที่ยวชมงาน
เมื่อเดินทางมาถึง ประชาชนจำนวนมาก ต่างเดินทางมาชมความงามของสถาปัตยกรรมต่างๆ โดยเฉพาะ พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ และเรือพระที่นั่ง 4 ลำ หลายคนยังเดินทางไปแจ้งความที่โรงพักสรรพยา รวมถึงเลือกซื้ออาหารในตลาดต่างๆ และ สินค้าในร้านค้าต่างๆ
นอกจากนี้ ประชาชนที่พาเด็กเล็กมา ยังพาบุตรหลานไปร่วม กิจกรรมเสริมสร้างวินัยจราจร ซึ่งกรมขนส่งทางบก และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดขึ้น ให้เด็กอายุ 3-8 ปี มาศึกษากฎจราจร โดยได้รับใบอนุญาตขับขี่ จากนั้นสามารถขับรถในสนามทดลอง และเมื่อผ่านหลักสูตร ก็จะได้รับใบประกาศนียบัตรอีกด้วย สำหรับผู้ปกครอง สามารถทดลองขับที่เครื่องซิมูเลเตอร์ เพื่อรอรับบุตรหลาน
ทั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ยังมาร่วมงานแต่เช้า เผื่อซื้อเสื้อลายฝีพระหัตถ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่จะจัดจำหน่ายวันละ 1,500 ตัว ทำให้ตั้งแต่ช่วง 11.00 น. เสื้อก็ขายหมดแล้ว
นอกจากนี้ ประชาชนยังให้ความสนใจกับกิจกรรม วอล์ก แรลลี่ ร่วมสนุกกับเกมส์ฐานต่างๆ จำนวน 10 ฐาน ซึ่งแต่ละฐานจะมีชุดความรู้เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจและพระมหากรุณาธิคุณที่เกี่ยวกับสายน้ำและคูคลองต่างๆ ตั้งแต่รัชกาลที่ 1-10 เปิดให้ประชาชนร่วมเล่นตั้งแต่เวลา 12.00 – 17.00 น. ทีมละ 2-4 คน โดยลงทะเบียนที่จุดประชาสัมพันธ์ บริเวณทางเข้างาน ด้านถนนศรีอยุธยา แบ่งออกเป็น 10 ฐาน อาทิ ฐานตลาดน้ำ…นำสู่อดีต,ฐานเปิดป้ายทายภาพ , ฐานจับคู่…กู้ปริศนา และ ฐานเกมอักษรไขว์ไขปริศนา ผู้ร่วมกิจกรรมสามารถมารวมคะแนนและรับของรางวัล ที่จุดรับของรางวัล ตั้งอยู่ด้านหน้านิทรรศการ “น้ำ กับ ชีวิต” ในบริเวณนิทรรศการพระราชกรณียกิจสมเด็จพระเจ้าอยู่
ผู้ที่ร่วมกิจกรรมครบทุกฐาน จะได้รับสายรัดข้อมืออุ่นไอรัก คลายความหนาว “สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” เป็นที่ระลึกทุกคน และมีช่วงนาทีทอง จับรางวัลพิเศษ เป็นประจำทุกวัน ใน 3 ช่วงเวลา ได้แก่เวลา 14.00 น. 16.00 น. และ 18.00 น.
นายเพเทอร์ ฟาซเบนเดอร์ ชาวเยอรมนี ที่เดินทางมาอยู่ที่ประเทศไทยปีละ 5 เดือน นับแต่เกษียณ เผยว่า มาร่วมงานอุ่นไอรักฯ กับภรรยา เนื่องจากที่นี่เปรียบเป็นบ้านหลังที่ 2 มาที่นี่ ความพิเศษคือได้ชมความงามของพระที่นั่งอนันตสมาคม ที่เป็นพื้นที่ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จออกมหาสมาคม มีประชาชนมารอรับนับแสนคน จึงเป็นพื้นที่แห่งความทรงจำ ทั้งยังได้มาศึกษาพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่กษัตริย์ไทยทุกพระองค์ทรงทำเพื่อคนไทย โดยเฉพาะเรื่องน้ำ รัชกาลที่ 9 บวกกับความสวยงามของพระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ และ เรือพระที่นั่งทั้ง 4 ลำ ทำให้รู้สึกประทับใจอย่างยิ่ง
ขณะที่ สมใจ นุชนาง และ บุปผา เนื่องพิมพ์ 2 ครูเกษียณ ที่เดินทางมาร่วมชมงานตั้งแต่ช่วงเช้า เผยว่ารู้สึกประทับใจในนิทรรศการต่างๆ ที่ได้ชม งานมีความเปลี่ยนแปลงจากงานอุ่นไอรักฯ ครั้งแรกมาก มีการสร้างสถานที่สำคัญต่างๆมาให้ชม ทำให้รู้สึกประทับใจ เช่นสะพานพุทธ ที่อาจจะไม่เคยเห็นว่าสามารถเปิดได้ แต่ละสิ่งล้วนสื่อถึงวัฒนธรรมอันดีงาม ยิ่งกับเลโก้ ที่ทำเป็นสถานที่ต่างๆ ได้เห็นภาพได้ชัด ยิ่งทำให้รู้สึกน่าสนใจ ควรค่าแก่การพาเด็กมาชม เพราะจะได้รับความรู้มากมาย
นายแสนชัย เขมะวิชานุรัตน์ อายุ 54 ปี และ นางสาวกัญญา เขมะวิชานุรัตน์ อายุ 57 ปี 2 พี่น้องที่เดินทางมาชมงานอุ่นไอรักจากย่านศรีนครินทร์ เผยว่า มาร่วมงานตั้งแต่ครั้งที่แล้ว และเมื่อรู้ว่ามีการแข่งแรลลี่ จึงมาร่วมเล่น เพราะเป็นโอกาสอันดี ได้ทดสอบความรู้ และความจำ ชื่นชอบฐานอักษรไขว้ ที่ให้ตอบคำถามด้วยการลากอักษรไขว้ รู้สึกแปลกใหม่ เช่นเดียวกับงานที่มีการจัดการสถานที่ที่ดี จัดวางระบบได้ดี ได้มาถ่ายภาพกับเรือพระที่นั่ง ทำให้รู้สึกประทับใจและอยากกลับมาอีกครั้ง
