| ที่มา | มติชนรายวันหน้า 18 |
|---|---|
| เผยแพร่ |
ฟิลิปปินส์ ‘คว้ามง’ ไทยแลนด์ ‘คว้าใจ’ มิสยูนิเวิร์ส 2018
มิสยูนิเวิร์ส 2018 – พลันที่พิธีกรประกาศชื่อของ “มิสยูนิเวิร์ส 2018” คนใหม่ ชื่อของ “แคทรีโอนา เกรย์” สาวงามจากประเทศฟิลิปปินส์ ก็เข้าสู่ทำเนียบผู้หญิงสวยที่สุดในจักรวาล
เสียงเฮสนั่นอิมแพค อารีนา เมืองทองธานี ปิดท้ายปลายปี 2018 อย่างสวยสดงดงามในการทำหน้าที่ “เจ้าภาพ” ของ “ไทยแลนด์” ได้อย่างสมศักดิ์ศรี ด้วยฝีมือของทีมผู้ถือลิขสิทธิ์ TPN 2018 นำโดย สมชาย ชีวิสุทธานนท์ หรือ ตี๋ แมทชิ่ง
การประกวดรอบสุดท้าย “มิสยูนิเวิร์ส 2018 รอบตัดสิน” จัดขึ้นอย่างสุดอลังการ แสง สี เสียง โปรดักชั่นจัดเต็ม
งานนี้ได้รับคำชมจากทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะรอบไฟนอล รวมถึงรอบชุดประจำชาติ และรอบเก็บตัว (พริลิมมินารี) ที่ผู้จัดทุ่มงบรวมค่าลิขสิทธิ์กว่า 500 ล้านบาท โดยเฉพาะการประกวดรอบชุดประจำชาติได้รับการจัดอันดับว่า “ดีที่สุดในรอบ 67 ปี”
แม้การประกวดครั้งนี้ ตัวแทนประเทศไทย นิ้ง-โศภิกา กาญจนรินทร์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ จะไปไม่ถึงดวงดาว แต่เธอก็คว้าใจแฟนนางงามทั่วประเทศไปได้แบบเต็มๆ ด้วยการทะลุผ่านเข้ารอบลึก 10 คนสุดท้าย ได้โชว์ศักยภาพผู้หญิงไทยในการตอบคำถาม และเผยโฉมความงามอย่างไทยให้ทั่วโลกได้ประจักษ์ในชุดว่ายน้ำ และชุดราตรีสีแดง ท่ามกลางเสียงเชียร์ที่ดังกระหึ่มอิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี
เรียกว่า มงไม่ลงแต่ยังคงรักเธอ
นิ้ง โศภิดา เปิดใจหลังลงจากเวทีมิสยูนิเวิร์สว่า ขอบคุณแฟนนางงามและคนไทยทุกคนที่เป็นกำลังใจให้นิ้งมาตลอด เสียงเชียร์ที่สนั่นฮอลในทุกครั้งที่ขึ้นเวทีทำให้รู้ว่า นิ้งมายืนตรงนี้ไม่ได้เพียงทำตามความฝันของตัวเองได้สำเร็จ แต่ภาคภูมิใจที่สุดที่ได้ทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนประเทศไทย จากเด็กคนหนึ่งที่ไม่เคยมีประสบการณ์ในการประกวดนางงาม มาถึงตรงนี้ จุดนี้ วันนี้ นิ้งทำเต็มที่ที่สุดแล้วและภูมิใจที่สุดแล้ว
“ขอบคุณทุกๆ คนอีกครั้งค่ะ” ท็อป 10 มิสยูนิเวิร์ส 2018 กล่าวจากใจ
ส่วนเบอร์ 1 ของเวทีนี้ ต้องยกให้ “แคทรีโอนา เกรย์” มิสฟิลิปปินส์ วัย 24 ปี ที่คว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์ส 2018 มาได้อย่างไม่มีข้อกังขา เรียกว่า “มงไม่โกรธ” เพราะเธอสวยจริง พร้อมจริง
โดย แคทรีโอนา เป็นลูกครึ่งฟิลิปปินส์-ออสเตรเลียน พ่อเป็นชาวสกอตแลนด์ที่ย้ายไปอยู่ออสเตรเลีย ปัจจุบันประกอบอาชีพเป็นนางแบบ พิธีกรรายการโทรทัศน์ และนักร้อง จบการศึกษาปริญญาโท ด้านทฤษฎีดนตรี ทั้งยังเป็นนักรณรงค์เรื่อง HIV/AIDS ให้กับองค์กร Love Yourself PH รวมไปถึงเป็นอาสาสมัครผู้ช่วยสอนให้กับนักเรียนในโครงการ Young Focus NGO
การมาประกวดของเธอ มาพร้อมกับความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะคว้ามงกุฎให้ได้ หลังจากอกหักคว้า “รองอันดับ 1 มิสเวิลด์” เมื่อปี 2016 ที่สหรัฐอเมริกา
ตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบแผ่นดินไทย เธอแสดงศักยภาพออกมาให้แฟนนางงามได้ประจักษ์ ทั้งความงดงาม และความตั้งใจในการทำกิจกรรม
โดยเฉพาะในรอบพรีลิมมินารีที่ได้สร้างตำนาน “หมุนฟูลเทิร์น” สะท้านรันเวย์นางงาม จนเป็นที่ฮือฮาสนั่นโลกออนไลน์ และในการประกวดรอบตัดสิน สาวคนนี้ก็ยิ่งทำได้เริ่ดเว่อร์ ออร่าพุ่ง เฟียสสุดสุด เดินสับๆ หมุนฟูลเทิร์นสุดพลัง โดยเฉพาะในชุดราตรีสีแดงเพลิงที่ชุดได้แรงบันดาลใจมาจาก “ลาวาสีแดง” ภูเขาไฟตาฮาว ประเทศฟิลิปปินส์ ยิ่งส่งให้เธอสวยโดดเด่น
ปิดท้ายด้วยคำตอบ “มงลง” ที่สาวคนนี้พูดถึง “บทเรียนสำคัญที่สุดที่คุณได้เรียนรู้ในชีวิต และจะนำมาใช้ต่อยอดอย่างไร เมื่อคุณได้ตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส”
แคทรีโอนา มิสยูนิเวิร์สป้ายแดง ตอบว่า “ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เต็มไปด้วยความยากจน และความเศร้า ฉันสอนตัวเองเสมอว่า ให้พยายามมองหาความสวยงาม ความงามที่อยู่ในสายตาของเด็กๆ แล้วจะนำมุมมองเหล่านี้ในฐานะมิสยูนิเวิร์ส มองหาสิ่งดีๆ ที่ทำอย่างไรที่จะสามารถ “ช่วย” ทำอย่างไรที่จะสามารถ “ให้” ในฐานะคนที่พูดออกมาได้ และก็อยากจะสอนให้คนรู้จักความกตัญญู ซึ่งจะทำให้เรามีโลกที่สวยงาม ที่ทัศนคติในแง่ลบจะไม่สามารถมาบั่นทอนความสวยงามนี้ได้ และเด็กทุกคนก็จะได้มีรอยยิ้ม”
สวยทั้งกาย สวยทั้งใจ และเต็มไปด้วยเอ็มพาวเวอร์ วูแมน ที่เวทีมิสยูนิเวิร์สมองหา และเธอคือผู้ที่ “ยืน 1” คว้าสายสะพายและมงกุฎมิสยูนิเวิร์ส คนที่ 67 ไปครอง เป็นสาวงามคนที่ 4 ของฟิลิปปินส์ที่ได้ตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส หลังจากที่ เปีย อลอนโซ วุตซ์บัค คว้าตำแหน่งมิสยูนิเวิร์ส 2015 ไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว
แคทรีโอนา เกรย์ มิสยูนิเวิร์ส 2018 คนใหม่ เปิดใจหลังได้รับตำแหน่งด้วยการกล่าวคำว่า “สวัสดีค่ะ” พร้อมกับพนมมือไหว้อย่างไทยอย่างงดงาม และกล่าวต่อว่า ขอบคุณแฟนๆ ทุกคนที่ติดตามการประกวดมิสยูนิเวิร์ส
“สำหรับดิฉันรู้สึกว่ามันเพิ่งเกิดขึ้น เป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ แต่ยังไม่ค่อยรู้สึกว่า ได้รับตำแหน่งแล้ว ขอบคุณประสบการณ์ที่ได้รับจากการประกวดมิสยูนิเวิร์สที่ประเทศไทย นับเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่ามาก ขอบคุณทุกคนมากจากหัวใจของฉัน”
“ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ตื้นตัน แม้ที่ผ่านมาจะเต็มไปด้วยความกดดัน เพราะมีอะไรหลายอย่างอยู่ในความคาดหวังของนางงามฟิลิปปินส์ โดยตลอดการประกวด เราต้องมีกำลังใจตลอดเวลาในการประกวด เพราะมีปัจจัยต่างๆ ภายนอกมากมาย โดยเฉพาะโซเชียลมีเดีย ดังนั้น ต้องพยายามรักษาใจให้มีกำลังใจมาก ก็ต้องคิดว่า มาประกวดเพื่ออะไร และต้องรู้ว่าต้องอยู่กับคนกลุ่มไหน”
“ขอบคุณแรงสนับสนุนจากทุกคนมาก เพราะถ้าไม่ได้แรงสนับสนุนจากคนเหล่านั้น ก็คงไม่มาถึงจุดนี้”
สำหรับสิ่งแรกที่อยากทำหลังจากได้รับตำแหน่ง แคทรีโอน่าเผยว่า “อยากจะพบกับครอบครัว เพื่อนๆ รวมทั้งอยากกินมะม่วง จิ้มพริกเกลือ และชาไทยเย็น เป็นของโปรดที่อยากจะกินมากๆ และตื่นเต้นมากที่จะไปนิวยอร์ก จะเป็นประสบการณ์ใหม่ที่อยากทำอะไรหลายๆ อย่าง”
ทั้งนี้ โครงการเพื่อสังคมที่ตั้งใจ มิสยูนิเวิร์สป้ายแดงคนนี้จะทำหลังจากได้ตำแหน่งคือ การทำงานด้านการศึกษา โดยเฉพาะเรื่องเอชไอวี (HIV) ที่ได้ทำที่ฟิลิปปินส์ เป็นโครงการที่อยากทำเพื่อสร้างความตระหนัก เพราะหลายปีที่ผ่านมาได้สูญเสียเพื่อนที่สนิทจากเอชไอวี นอกจากนี้ อยากทำโครงการที่เกี่ยวกับการศึกษาสำหรับเด็ก ในชุมชนที่ห่างไกล เพราะยังมีเด็กจำนวนมากที่ไม่ได้รับการศึกษาที่เพียงพอ และอยากทำอะไรก็ตามที่สามารถทำได้
แคทรีโอนาเผยอีกว่า การประกวดครั้งนี้ ให้ความสำคัญกับเรื่อง เอ็มพาวเวอร์ วูแมน (Empower Woman) สำหรับเธอเวทีประกวดมิสยูนิเวิร์ส เป็นเวทีที่มีคุณค่า ที่ทำให้ทุกคนได้เห็นพลังของผู้หญิง และให้พลังและอำนาจผู้หญิงในการทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเอง
“สิ่งที่ทำให้ฉันมาถึงจุดนี้ได้คือ การเตรียมความพร้อมสำหรับโอกาสที่จะเกิดขึ้น และทำทุกอย่างให้เต็มที่ ทุ่มเทกับมัน ก็สามารถไปสู่ความสำเร็จได้” สาวสวยเผยเคล็ดลับ
สำหรับชุดราตรีนอกจากได้แรงบันดาลใจจากลาวาภูเขาไฟแล้ว อีกหนึ่งแรงบันดาลใจมากจากความฝันของแม่ของเธอที่ฝันว่า เธอจะได้ตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สในชุดสีแดง
“ตอนฉันอายุ 13 แม่ฝันว่า ฉันได้ตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สในชุดสีแดง ซึ่งตอนพบคุณแม่ เธอร้องไห้ เพราะฝันของท่านเป็นจริงแล้ว”
กับท่าหมุนฟูลเทิร์นสุดฮือฮา สาวแคทเผยเคล็ดลับว่า ต้องหมุนให้ช้าๆ ตอนใส่ชุดว่ายน้ำทำได้ง่ายกว่าใส่ชุดราตรีที่ค่อนข้างหนัก แต่ก็พยายามทำให้ดีที่สุด
และแม้จะได้ตำแหน่งนางงามจักรวาล แคทรีโอนาก็ยังอยากจะยึดอาชีพเดิมของเธอต่อไป นั่นคือ “นักร้อง” ที่ก่อนมาประกวด ก็เพิ่งปล่อยซิงเกิลออกมา 1 เพลง
“สำหรับฉัน ดนตรีเป็นเครื่องมือที่วิเศษสามารถเชื่อมคนเข้าด้วยกันได้ ไม่ว่าจะมีวัฒนธรรมที่ต่างกันอย่างไร การประกวดครั้งนี้ ทำให้ฉันได้เรียนรู้ที่จะจัดการกับความกดดัน และเรียนรู้ที่จะยิ้มแย้มกับทุกสถานการณ์ที่เข้ามา เพราะมีกิจกรรมมากมายที่ต้องทำ ถ้าไม่ควบคุมอารมณ์ต่างๆ ให้ดี ดังนั้น เราต้องเรียนรู้และจะเอ็นจอยกับทุกๆ กิจกรรม และทุกๆ ขณะ” แคทริโอนาทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้ม
ปิดฉาก ประเทศไทยเจ้าภาพจัดมิสยูนิเวิร์ส 2018 อย่างสวยงาม
ติดตามข่าวบันเทิงไลฟ์สไตล์ กับ Line@มติชนนิวเจน
