ลุคใหม่ เวที ‘นางสาวไทย’ ฉีกแนว ‘ประกวด’ แบบ ‘เรียลิตี้’ กลับสู่อ้อมอกช่อง 7

นับเป็นเวลากว่า 82 ปีที่เวทีการประกวดนางสาวไทย เวทีนางงามที่ยาวนานที่สุดของประเทศไทยได้สร้างตำนานสาวงามในประเทศไทย โดยได้เลือกสรรเพชรเม็ดงามผู้ทรงคุณค่าในตำแหน่ง “นางสาวไทย” มาแล้วกว่า 49 คน และเพื่อให้การเฟ้นหานางสาวไทยคนที่ 50 พิเศษกว่าทุกครั้ง นายกสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงได้ร่วมกับ บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) เปลี่ยนรูปแบบการประกวดให้เป็นเรียลิตี้ สร้างความท้าทายให้กับผู้เข้าประกวด เปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ให้กับเวที “นางสาวไทย” พร้อมกลับเข้าสู่อ้อมอกสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ในรอบ 15 ปี โดยจัดแถลงข่าวรายการเรียลิตี้โชว์ “นางสาวไทย 2559” แชลเลนจ์ ยัวร์ ลิมิต ณ อินเด็กซ์ สตูดิโอ ชั้น 5 ซอยปรีดีพนมยงค์ 42

เกรียงกานต์ กาญจนะโภคิน ประธานอำนวยการกองประกวดนางสาวไทย เผยว่า หลังจากที่ทราบว่าปีนี้กองประกวดนางสาวไทยจะกลับมาอยู่กับช่อง 7 อีกครั้ง เราจึงคิดว่าควรเป็นการกลับมาที่ยิ่งใหญ่ และอยากทำอะไรที่ไม่ซ้ำใคร จนคิดออกมาเป็นรูปแบบเรียลิตี้ ให้ผู้เข้าประกวด 24 คนสุดท้ายได้ทำภารกิจต่างๆ 9 ภารกิจความท้าทายในแต่ละสัปดาห์ ฉีกภาพความเป็นนางงามรักเด็ก เป็นนางงามที่สวยและมีความสามารถ อย่างเช่นภารกิจนักข่าวที่จะต้องสัมภาษณ์ อาชีพนักเช็ดกระจกบนตึกสูง ที่ต้องใช้ความกล้าและไหวพริบว่าจะปีนตึกขึ้นไปหรือไม่ หรือทักษะการสื่อสารและการตลาดในภารกิจหาเงินบริจาคให้สภากาชาดไทย และภารกิจการสวมบทนักแสดงบทบู๊ ที่ต้องใช้ความสามารถมาก

“นอกจากนี้เรายังเปลี่ยนกฎเกณฑ์รับสมัครใหม่ ให้มีความสูงขั้นต่ำเพียง 160 ซม. เนื่องจากเป็นความสูงมาตรฐานหญิงไทยที่แท้จริง แตกต่างจากเวทีอื่นๆ ซึ่งสาวงามอายุ 17-25 ปีบริบูรณ์ ที่สนใจสามารถสมัครได้ตั้งแต่วันนี้-20 พฤษภาคมนี้ ทาง www.missthailandofficial.com ก่อนจะยื่นเอกสารในรอบคัดเลือกวันที่ 21 พฤษภาคมนี้ และจัดประกวดรอบตัดสินในวันที่ 31 สิงหาคมนี้ ที่จีเอ็มเอ็มไลฟ์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เวลา 23.10-01.10 น. ซึ่งผู้ชนะจะได้รับมงกุฎเพชรมูลค่า 1.2 ล้านบาท เงินรางวัล และอื่นๆ รวมกว่า 6 ล้านบาท” เกรียงกานต์กล่าว

ภาพข่าวสังคม02

Advertisement

ซึ่งนอกจากจะเปลี่ยนรูปแบบการประกวดใหม่แล้ว ปีนี้กองประกวดยังได้รุ่นพี่นางสาวไทยอย่าง เจี๊ยบ-ลลนา ก้องธรนินทร์ นางสาวไทยประจำปี 2549 มาร่วมเป็นโฮสให้คำแนะนำกับผู้เข้าประกวดรุ่นใหม่ด้วย

เจี๊ยบ-ลลนา ให้คำแนะนำว่า แรกเริ่มมาประกวดเพราะอยากจะทำฟรีคลินิก ซึ่งเวทีนางสาวไทยก็เปิดโอกาสให้ได้บอกทุกคนถึงความฝัน จนมีคนเข้ามาช่วยเหลือมากมายและประสบความสำเร็จจริง ทั้งยังให้อะไรหลายๆ อย่าง แม้เจี๊ยบจะเปลี่ยนไปบ้าง และต้องใช้เวลากว่า 10 ปีที่จะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าความงามไม่จำเป็นต้องอยู่ที่ภาพลักษณ์อย่างเดียว หากอยากสวยใครก็ทำศัลยกรรมได้ แต่อยู่ที่ภายในด้วย งามด้วยเสน่ห์ ความรู้ การพูดจา ยั่งยืนกว่า จึงอยากให้คนรุ่นใหม่หาความงามของตัวเองให้เจอ

ปิดท้ายด้วย อี้-วิลาสินี จันทร์วุฒิวงศ์ นางสาวไทยประจำปี 2557 กล่าวว่า นอกจากจะได้เป็นนางสาวไทยแล้ว เวทีนี้ยังให้เธอได้เป็นตัวแทนประเทศในฐานะทูตวัฒนธรรมประเทศไทย ได้เดินทางไปเผยแพร่วัฒนธรรมของเราให้ชาติอื่นๆ ได้รู้จักกว่า 7 ประเทศ และทำให้โตขึ้นมาก จึงอยากให้เวทีนี้เป็นโอกาสของใครหลายๆ คน และแนะนำว่าก่อนจะมาประกวดต้องรู้ชัดเจนว่าเวทีนี้ต้องสวยอย่างมีคุณค่า สร้างประโยชน์ให้คนรอบข้าง และให้เกียรติสายสะพายเวที ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เวทีนางสาวไทยมองหา ก็อยากให้ทุกคนเข้ามาร่วมท้าทายในการประกวดปีนี้

Advertisement
TU4_3513
สองนางสาวไทยร่วมแถลงข่าว
เจี๊ยบ_ลลนา
เจี๊ยบ-ลลนา ก้องธรนินทร์ นางสาวไทยประจำปี 2549
อี้_วิลาสินีนางสาวไทยปี5
อี้-วิลาสินี จันทร์วุฒิวงศ์ นางสาวไทยประจำปี 2557
เก้าอี้ทรงเกรียติ
เก้าอี้ทรงเกียรติ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image