ดูเหมือนว่า “การแต่งกายในชุดไทยย้อนยุค” ได้กลายเป็นภาพความงดงามและเอกลักษณ์ที่ตราตรึงใจ สำหรับบรรยากาศการเที่ยวชม “งานอุ่นไอรัก คลายความหนาว”
นุ่งผ้าไทย – ซึ่งในปีนี้ จัดขึ้นในชื่อ “อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” ณ พระลานพระราชวังดุสิต และสนามเสือป่า ซึ่งประชาชนยังคงแต่งกายในชุดไทยย้อนยุคมาร่วมงานอย่างต่อเนื่อง
รวมไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี พร้อมด้วยภริยา ที่งานนี้ก็ไม่พลาด จัดเต็ม ด้วยการแต่งกายในชุดไทยย้อนยุค หลากสี หลากสไตล์
โดยบิ๊กตู่แต่งกายในชุดเสื้อราชปะแตนสีน้ำตาลอิฐประกายทอง โจงกระเบนสีชมพู และผ้าคาดเอวสีน้ำตาลเข้ม ควงคู่มากับภริยา อ.น้อง-นราพร จันทร์โอชา ที่มาในชุดไทยย้อนยุค เสื้อแขนกระบอกสีชมพูโอลด์โรส ห่มสไบสีทอง และโจงกระเบนสีเทา พร้อมถือกระเป๋าสานทรงไทยขนาดเล็ก
“สวยสง่า”
และเมื่อได้อยู่ท่ามกลางบรรยากาศย้อนยุคแบบไทยๆ บิ๊กตู่ก็โชว์หวาน ควง อ.น้อง “ชี้นกชมไม้” และโบกมือทักทายกับประชาชนอย่างอารมณ์ดี
ด้านโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อย่าง นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ มาในชุดเสื้อราชปะแตนสีน้ำตาลเข้ม และโจงกระเบนสีเขียวเหลือบเงิน ควงคู่มากับภริยาคนสวย นุสบา ปุณณกันต์ ที่มาในชุดโจงกระเบนสีเหลืองทอง เสื้อแขนหมูแฮมลายลูกไม้ คาดเข็มขัดสีทอง และห่มสไบสีน้ำตาลอ่อน
ซึ่งงานนี้ โฆษกประจำสำนักนายกฯพูดคำเดียวเลยว่า “ทั้งหมดนี้ ภรรยาจัดให้” พร้อมหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ด้านภรรยาก็กล่าวต่อว่า ตั้งใจแต่งกายมาในโทนสีเหลืองทอง โดยให้โทนของสามีจะเข้มหน่อย ส่วนของเธอเองจะลดระดับความเข้มลง เพื่อให้สีไม่ชนกัน
“ที่บ้านเก็บสะสมผ้าไทยอยู่แล้ว โดยเฉพาะผ้าของแต่ละภาคที่จะมีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป พอมีงานก็จะนำมาตัดเย็บเพื่อใส่ไปร่วมงาน โดยจะเลือกตัดเย็บแบบร่วมสมัย ซึ่งในปัจจุบันคนก็นิยมใส่ผ้าไทยกันมากขึ้น โดยชุดไทยย้อนยุคสมัย ร.5-ร.6 ที่เป็นที่นิยมคือเสื้อแขนหมูแฮม” นุสบากล่าว
เรียกว่า “เตรียมพร้อม” มาอย่างดี!
ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มาในชุดเสื้อราชปะแตนสีขาว พร้อมกับโจงกระเบนสีม่วง ที่งานนี้ รองนายกฯบอกว่า การนุ่งผ้าไทย จะใส่สีอะไรก็ได้ แต่ที่เลือกสีม่วง ก็เพราะการแต่งกายแบบนี้ สมัยก่อนเขาเรียกกันว่า “นุ่งผ้าม่วง”
“เพราะสีม่วงคือสีออริจินอล ก่อนจะดัดแปลงไปตามวันต่างๆ” รองนายกฯกล่าว พร้อมรอยยิ้ม
ก่อนจะแวะไปร่วมถ่ายภาพที่ “ห้องถ่ายภาพ” ซึ่งติดภาพของตัวเองกับภริยาเมื่อวันเปิดงานอุ่นไอรักฯ ไว้ข้างหน้าร้าน อย่างอารมณ์ดี
มาต่อกันที่ “คู่หวาน” ที่ไม่เพียงแค่ควงคู่มากับภริยาเท่านั้น แต่ทั้งคู่ยังแต่งกายในชุดไทยย้อนยุคสีหวาน อย่าง “สีชมพู”
นั่นก็คือคู่ของ นายสุธี มากบุญ รมช.มหาดไทย และภริยา ที่งานนี้บอกว่า “ไม่เขินที่ต้องใส่ชุดไทย เพราะตอนเรียนมหาวิทยาลัยก็นุ่งผ้าม่วงเป็นประจำ”
ขณะที่ภริยา นางต้องฤดี มากบุญ ผช.ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งคลุกคลีกับการนุ่งผ้าไทยในการทำงานอยู่ตลอด กล่าวว่า “เมื่อก่อน คุณสุธีเคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการที่จังหวัดแถวภาคอีสาน เราก็ได้ซื้อผ้าเก็บไว้เยอะ โดยเฉพาะผ้าไหมมัดหมี่ ที่มีเอกลักษณ์คือใส่ง่าย โปร่ง สีสวย และที่สำคัญคือไม่ยับ มาตัดเย็บเป็นชุดออกงาน โดยทุกครั้งที่กระทรวงการต่างประเทศจัดงานแสดงผ้าไทย ผ้าไทยมักได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติเสมอเพราะมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น”
ส่วน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม มาในชุดโจงกระเบนสีเขียว พร้อมกับเสื้อราชปะแตนสีเหลืองทอง เรียกว่า “โดดเด่น เห็นมาแต่ไกล”
โดย รมว.คมนาคมกล่าวเพียงสั้นๆ พร้อมรอยยิ้มว่า “เลือกสีเอง ก็เลือกให้สีตัดกัน”
ปิดท้ายด้วย นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม ที่นุ่งโจงกระเบนสีเทาเข้ม คู่กับเสื้อราชปะแตนสีเทา เล่าว่า ตอนแรกเตรียมเสื้อไว้ถึง 3 ตัว ก่อนที่ทางสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์จะเอาโจงกระเบนมาให้เลือกอีก 3 ตัว
จนกระทั่งตกลงเคาะที่ “สีเทา” เพราะจับคู่สีดูแล้ว เข้ากั๊น เข้ากัน!
“การนุ่งผ้าไทยย้อนยุคเป็นเรื่องคุ้นเคยอยู่แล้วสำหรับข้าราชการกระทรวงวัฒนธรรม และทางกระทรวงก็มีการรณรงค์ให้คนไทยนุ่งผ้าไทยมาโดยตลอด ซึ่งจุดริเริ่มก็มาจากงานอุ่นไอรักฯ ที่ทำให้เกิดความนิยมอย่างสูงในการนุ่งผ้าไทย ตามด้วยกระแสของละครบุพเพสันนิวาสด้วย จนทำให้เกิดอาชีพใหม่อย่างการให้เช่าชุดไทย ที่ส่งผลดีต่อคนที่ทอผ้า และตัดเย็บเสื้อผ้า” รมว.วัฒนธรรมกล่าว และว่า
“จะเห็นได้ว่ากระแสการนุ่งผ้าไทยยังไม่หมดไป และยังคมมีมาเรื่อยๆ ซึ่งก็อยากรณรงค์ให้คนไทยนุ่งผ้าไทย ใช้ผ้าไทยกันต่อไป”
ติดตามข่าวบันเทิงไลฟ์สไตล์ กับ Line@มติชนนิวเจน
