ผลการศึกษาของนักวิจัยชาวเนเธอร์แลนด์บ่งชี้ว่า ปัจจุบันการมีน้ำหนักเกินไม่มากอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพน้อยกว่าที่เคยเป็นเมื่อเปรียบเทียบกับ 40 ปีก่อน
ทั้งนี้นักวิจัยได้ทำการเก็บข้อมูลของผู้ที่มีน้ำหนักเกินหลายพันคน โดยเปรียบเทียบส่วนสูง น้ำหนัก และอัตราการเสียชีวิตในช่วงสามระยะที่แตกต่างกันนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1970 และพบว่าผู้ที่มีน้ำหนักเกินไม่มากนักมีอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรต่ำกว่าผู้ที่มีน้ำหนักปกติ น้ำหนักน้อยกว่าปกติ และผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินมาก
โดยในช่วงกลางทศวรรษที่ 1970 ผู้ที่มีน้ำหนักปกติจะมีอัตราการเสียชีวิตต่ำ ขณะที่ผู้ที่อยู่ในภาวะอ้วนจะมีความเสี่ยงของอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรสูงกว่าถึง 30% ขณะที่ปัจจุบันความเสี่ยงของคนอ้วนที่อาจเสียชีวิตเร็วกลับลดลงจนอยู่ในระดับที่แทบไม่มีนัยสำคัญใดๆ
คณะผู้ทำการวิจัยระบุว่าเหตุผลสำคัญที่สามารถอธิบายปรากฏการณ์การดังกล่าวได้น่าจะมาจากระบบการดูแลสุขภาพในปัจจุบันของผู้ที่มีน้ำหนักเกิน อาทิ การตรวจวัดค่าคลอเรสเตอรอลและความดันสูง ซึ่งดีขึ้นกว่าในอดีตมาก
อย่างไรก็ดีทีมวิจัยย้ำว่าผลสำรวจดังกล่าวต้องไม่ถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำให้ผู้คนสามารถกินได้มากที่ต้องการ หรือแนะนำให้ผู้ที่มีน้ำหนักปกติกินให้มากขึ้นเพื่อให้กลายเป็นคนน้ำหนักเกิน แต่ต้องการเพียงที่จะบอกให้คนที่มีน้ำหนักเกินไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับน้ำหนักของตนเองมากเท่ากับในอดีต
ด้านนักวิจัยอังกฤษชี้ว่าผลวิจัยดังกล่าวไม่มีความสำคัญใดๆ และไม่ทำให้ต้องเปลี่ยนคำแนะนำที่มีต่อคนอ้วนรวมถึงวิธีการรักษาและป้องกัน เนื่องจากผลวิจัยนี้ไม่ได้หมายความว่าการเป็นคนอ้วนจะทำให้ไม่เสียชีวิต เพราะไม่ว่าจะอย่างไรการมีน้ำหนักเกินก็เป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคจำนวนมาก อาทิ เบาหวาน ไขมันเกาะตับ มะเร็ง และการนอนผิดปกติ ถึงแม้ปัจจุบันจะมีการรับมือกับโรคเหล่านั้นได้ดีขึ้นแต่ความอ้วนก็ยังส่งผลกับคุณภาพชีวิต ความเชื่อมั่นในตัวเอง รวมถึงเงินที่ต้องจ่ายมากขึ้นเพื่อการดูแลรักษาสุขภาพการศึกษาของนักวิจัยชาวเนเธอร์แลนด์บ่งชี้ว่า ปัจจุบันการมีน้ำหนักเกินไม่มากอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพน้อยกว่าที่เคยเป็นเมื่อเปรียบเทียบกับ 40 ปีก่อน
ทั้งนี้นักวิจัยได้ทำการเก็บข้อมูลของผู้ที่มีน้ำหนักเกินหลายพันคน โดยเปรียบเทียบส่วนสูง น้ำหนัก และอัตราการเสียชีวิตในช่วงสามระยะที่แตกต่างกันนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1970 และพบว่าผู้ที่มีน้ำหนักเกินไม่มากนักมีอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรต่ำกว่าผู้ที่มีน้ำหนักปกติ น้ำหนักน้อยกว่าปกติ และผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินมาก
โดยในช่วงกลางทศวรรษที่ 1970 ผู้ที่มีน้ำหนักปกติจะมีอัตราการเสียชีวิตต่ำ ขณะที่ผู้ที่อยู่ในภาวะอ้วนจะความเสี่ยงของอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรสูงกว่าถึง 30% ขณะที่ปัจจุบันความเสี่ยงของคนอ้วนที่อาจเสียชีวิตเร็วกลับลดลงจนอยู่ในระดับที่แทบไม่มีนัยสำคัญใดๆ
คณะผู้ทำการวิจัยระบุว่าเหตุผลสำคัญที่สามารถอธิบายปรากฏการณ์การดังกล่าวได้น่าจะมาจากระบบการดูแลสุขภาพในปัจจุบันของผู้ที่มีน้ำหนักเกิน อาทิ การตรวจวัดค่าคลอเรสเตอรอลและความดันสูง ซึ่งดีขึ้นกว่าในอดีตมาก
อย่างไรก็ดีทีมวิจัยย้ำว่าผลสำรวจดังกล่าวต้องไม่ถูกตีความว่าเป็นคำแนะนำให้ผู้คนสามารถกินได้มากที่ต้องการ หรือแนะนำให้ผู้ที่มีน้ำหนักปกติกินให้มากขึ้นเพื่อให้กลายเป็นคนน้ำหนักเกิน แต่ต้องการเพียงที่จะบอกให้คนที่มีน้ำหนักเกินไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับน้ำหนักของตนเองมากเท่ากับในอดีต
ด้านนักวิจัยอังกฤษชี้ว่าผลวิจัยดังกล่าวไม่มีความสำคัญใดๆ และไม่ทำให้ต้องเปลี่ยนคำแนะนำที่มีต่อคนอ้วนรวมถึงวิธีการรักษาและป้องกัน เนื่องจากผลวิจัยนี้ไม่ได้หมายความว่าการเป็นคนอ้วนจะทำให้ไม่เสียชีวิต เพราะไม่ว่าจะอย่างไรการมีน้ำหนักเกินก็เป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคจำนวนมาก อาทิ เบาหวาน ไขมันเกาะตับ มะเร็ง และการนอนผิดปกติ ถึงแม้ปัจจุบันจะมีการรับมือกับโรคเหล่านั้นได้ดีขึ้นแต่ความอ้วนก็ยังส่งผลกับคุณภาพชีวิต ความเชื่อมั่นในตัวเอง รวมถึงเงินที่ต้องจ่ายมากขึ้นเพื่อการดูแลรักษาสุ
