8 จานเด็ด จากร้านดัง ขาชิมห้ามพลาด !!

ระหว่างมื้ออาหารถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข ยิ่งถ้าได้อยู่ท่ามกลางบรรยากาศสวยงาม ตรงหน้ามีอาหารไทยคุ้นลิ้น รสชาติเป็นเลิศ กับวงสนทนาของเหล่าคนพิเศษ ก็เหมือนการได้เติมเต็มความรู้สึกดีในทุก ๆ วัน “ประชาชาติธุรกิจ” จึงได้รวบรวม 8 เมนูไทย จาก 8 ร้านดัง ที่ทางร้านการันตีถึงความอร่อยมาให้เลือกสรร เพื่อจะค้นพบว่า…ห้วงอารมณ์ของความรื่นเริงนั้นสามารถหาได้ตลอดทั้งปี

1. Blue Elephant

ร้านช้างสีน้ำเงิน “Blue Elephant” ไม่ใช่เพียงโด่งดังในเมืองไทยเท่านั้น ยังพาอาหารไทยไปแจ้งเกิดในต่างแดนถึง 8 สาขา โดยส่วนของร้านอาหารในประเทศไทย “Blue Elephant” มีอยู่ 2 สาขาที่ถนนสาทร กรุงเทพฯ และอีกแห่งที่จังหวัดภูเก็ต

อาหาร

Advertisement

“Blue Elephant” นอกจากจะชนะใจในด้านรูปลักษณ์การตกแต่งร้านอาหารอย่างสวยงามตามสไตล์โคโลเนียลแล้ว ยังดึงดูดผู้บริโภคด้วยอาหารไทยรสชาติแบบต้นตำรับตามความตั้งใจแรกของ “นูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้” เจ้าของร้าน เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารไทย “ความเผ็ด” จึงมักมาควบคู่กัน เมนูที่ทางร้านแนะนำจึงเป็นอาหารรสจัดจ้านอย่าง “แกงปูใบชะพลู” ที่ได้จากเครื่องแกงปักษ์ใต้ที่ทางร้านผลิตขึ้นเอง หอมกลิ่นขมิ้นนำ ผัดเคล้ากับกะทิสด ๆ ก่อนใส่ใบชะพลู และเนื้อปู เข้ากันเป็นอย่างดีเมื่อรับประทานพร้อมเส้นหมี่ขาวที่ทางร้านเสิร์ฟเคียงมาตัดรสเผ็ด เมนูนี้มีความเผ็ดดั้งเดิมอยู่ที่ระดับ 3 ช้าง หากใครหวั่นเกรงต่อความเผ็ดร้อนก็สามารถแจ้งให้ลดความเผ็ดลงได้ แต่ขอบอกเลยว่า ของแท้นั้นเด็ดสุด !

2. ครัวอัปษร

อาหาร

หากอาหารไทย ๆ ที่รับประทานได้ในทุกวัน ย่อมหนีไม่พ้นจำพวกต้ม ผัด แกง ทอด แต่จะมีกี่รสมือที่ทำให้รู้สึกอิ่มเอมไปกับความอร่อย “ครัวอัปษร” ร้านอาหารบรรยากาศเรียบง่ายที่รสชาติไม่ราบเรียบ อาหารของที่นี่เป็นอาหารไทยแท้ รสจัดจ้าน โดยได้รับการการันตีจากนักชิมหลายรายการ ตอนนี้มีเปิดให้บริการถึง 5 สาขา

Advertisement

โดยอาหารของร้าน “ครัวอัปษร” นั้น ทางร้านจะการันตีเรื่องความสดใหม่และรสชาติดีเป็นสำคัญ เมนูยอดนิยมของที่นี่คือ “เนื้อปูผัดพริกเหลือง” ที่จะคัดเฉพาะกุนเชียงปู เนื้อแน่น ๆ ก้อนใหญ่ ผัดกับพริกเหลือง และถั่วฝักยาว ผัดไว แต่เข้าเนื้อ ผักจึงยังกรอบ และเนื้อปูไม่เละ ให้รสชาติกลมกล่อม อร่อยเต็มคำ น่ารับประทานเป็นที่สุด

3. นารา

พอเอ่ยชื่อเมนู “ลาบทอด” เชื่อว่าหลายครอบครัวย่อมคุ้นเคยกับอาหารไทยจานนี้ เนื่องจากเป็นเมนูที่เด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินดี และคิดว่าร้านไหน ๆ ก็ให้รสชาติเหมือนกัน แต่หากได้มาลอง “ลาบทอดแห่งร้านนารา” ซึ่งถูกยกให้เป็นเมนูซิกเนเจอร์ จะพบได้ถึงความแตกต่าง

อาหาร

“ลาบทอดสูตรพิเศษ” ของร้านนาราจะเริ่มต้นความใส่ใจตั้งแต่ เนื้อหมูหมักเครื่องเทศผสมด้วยเครื่องปรุง ซึ่งทางร้านพิถีพิถันถึงความสดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นพริกป่น ข้าวคั่ว ล้วนคั่วเองทั้งสิ้น นวดจนรสชาติซึมเข้าไปในเนื้อหมู โดยมีเคล็ดลับเด็ดอยู่ที่การปั้นให้ได้ขนาดประมาณลูกปิงปอง เนื่องจากเมื่อนำไปทอดในน้ำมันร้อน ลาบทอดจะสุกกำลังดีกรอบนอก นุ่มใน พร้อมรับประทานแกล้มผักสด

ความ “ถึงเครื่อง” ของรสชาติแบบอีสานนี้ จึงทำให้เป็นที่ชื่นชอบของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจเลย หากเห็น “ลาบทอด” จัดเสิร์ฟทุกโต๊ะทุกสาขาของร้าน “นารา”

4. บุษราคัม

อาหารไทยชาววังยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีเสมอ เมื่อคิดถึงอาหารไทย ด้วยความประณีตสะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจอย่างครบถ้วน “บุษราคัม” ร้านอาหารไทยที่โดดเด่นในด้านอาหารชาววัง ยังคงบรรจงประดิษฐ์อาหารให้มีความสวยงามเป็นอาหารตา กลิ่นหอมเย้ายวนเพื่อเป็นอาหารจมูก และรังสรรค์ให้เป็นอาหารปากด้วยรสชาติอร่อย

อาหาร

หนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นชัดเจนถึงความเป็นอาหารชาววัง คือ หมู่มวลของว่างชาววังที่อยู่ในวรรณคดีบทพระราชนิพนธ์ “กาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวาน” ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ล้นเกล้ารัชกาลที่ 2 โดยเซต “อาหารว่างชาววังบุษราคัม” ประกอบด้วย ช่อม่วง กระทงทอง ถุงเงินยวง หรุ่ม กุ้งซ่อนกลิ่น แต่ละชนิดจะทำเป็นชิ้นพอดีคำ ใช้วัตถุดิบสดใหม่ได้คุณภาพ และให้สีโดยพืชธรรมชาติ

5. ต้นเครื่อง

หนึ่งในร้านที่ครองใจนักกินมานานหลายทศวรรษ ต้องมีชื่อของร้านอาหารไทยแท้ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพและความอร่อยอย่าง “ต้นเครื่อง” ตำนานแห่งซอยทองหล่อ ที่วันนี้ขยับขยายมาอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 49/13

อาหาร

เมนูที่ต้องไม่พลาดเมื่อมาถึงร้านต้นเครื่อง อันต้องยกให้กับความเป็นเจ้าตำรับแห่ง “ห่อหมกขนมครก” ที่ทางร้านได้คิดสูตรขึ้นราว 35 ปีก่อน กระทั่งถึงตอนนี้ก็ยังเป็นที่พูดถึงในรสชาติห่อหมกเนื้อปลากรายไม่ผสมแป้ง ซึ่งมีรสชาติเข้มข้นสมกับเป็นอาหารไทยด้วยการนวดเครื่องแกงกับหัวกะทิ จึงจัดจ้านแบบไม่เผ็ดโดด ยิ่งได้เนื้อปลากรายสดล้วน ๆ มาเข้าคู่ หยอดลงบนถาดขนมครกก่อนแต่งหน้าด้วยกะทิและพริกชี้ฟ้าซอย เมื่อนึ่งสุกเนื้อห่อหมกจะหนึบ เหนียว ชวนรับประทาน

6. สยาม วิสดอม

ใครเคยดูรายการเชฟกระทะเหล็กแล้วน้ำลายสอ ต้องลองมาเยือน “สยาม วิสดอม” ในซอยสุขุมวิท 31 สักครา เพราะร้านนี้คือการร่วมหุ้นระหว่างเชฟชุมพล แจ้งไพร กับพิธีกรพระเอกหนุ่ม ชาคริต แย้มนาม

อาหาร

อาหารไทยโบราณที่ว่าหาทานยากจะพบได้ง่าย ๆ ที่ “สยาม วิสดอม” อย่าง “แสร้งว่ากุ้งแม่น้ำย่างปลาดุกฟู” โดยที่นี่จะเน้นความครบเครื่องของสมุนไพรครบ ขิง กระเทียมโทน กระเทียมไทย หอมแดง ตะไคร้ พริกสด ใบมะกรูดซอย ปรุงรสด้วย “เค็มบักนัด” และ “กะปิคลองโคน” ซึ่งเป็นกะปิที่ดีที่สุด ราดบนกุ้งแม่น้ำย่าง ทานคู่กับปลาดุกฟูกรอบ ๆ และผักสด จุดเด่นที่สำคัญของ “สยาม วิสดอม”

คือสรรหาวัตถุดิบที่ดีที่สุดในประเทศมาใช้ในการปรุง เพื่อให้ได้รสไทยแท้ และมีคุณภาพ

7. Nahm

“Nahm” แห่งโรงแรม Metropolitan กรุงเทพฯ คือร้านอาหารไทยที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นร้านอาหารที่ดีในระดับต้น ๆ ของเอเชีย พร้อมทั้งยังเคยคว้าแชมป์ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชีย ประจำปี 2014 จากการจัดอันดับของ S. Pel-legrino & Acqua Panna

อาหาร

บรรยากาศการตกแต่งของร้าน Nahm เป็นไปในสไตล์ร่วมสมัย โดยถ่ายทอดจิตวิญญาณความเป็นไทยผ่านอาหารและแนวคิด “Nahm” ได้ชูความสำคัญวิถีของครอบครัวไทยในสมัยก่อน คือการล้อมวงกินข้าว ซึ่งมักเป็นจุดเริ่มต้นของสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น เมนูรสเด็ดที่ “Nahm” ได้คัดสรรมา จึงนำเสนอแนวคิดดังกล่าว เพื่อให้เข้าถึงรสชาติไทยด้วยวิถีไทยอย่างแท้จริง ผ่านทางเมนูที่ต้องล้อมวงรับประทานจึงเพิ่มพูนอรรถรส อย่าง “ปลาร้าหลน” อาหารไทยภาคกลาง ที่มีรสชาติกลมกล่อม หอม เค็ม มัน เจือเผ็ดเพียงเล็กน้อย เมื่อรับประทานเข้าคู่กับผักสดแนมปลาย่าง ยิ่งช่วยชูรสอาหารจานอื่นที่กินร่วมกันในวงอาหาร

8. ร้าน อ.มัลลิการ์

อาหาร

อาหารไทยจานหวานก็มักเป็นที่เรียกหาอย่างสม่ำเสมอ “ร้าน อ.มัลลิการ์”หนึ่งในร้านที่มีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งอาหารคาว-หวาน โดยที่นี่จะมีของหวานชูโรงหลายชนิด บางชนิดรูปลักษณ์อาจคล้ายที่อื่น แต่รับรองรสชาติไม่เหมือนที่ใด อย่าง “ขนมครกโบราณ” ที่เจาะลึกไปถึงกรรมวิธีดั้งเดิม ตัวแป้งได้จากข้าวสวย มะพร้าวขาวขูดฝอย และน้ำกะทิสด ปั่นรวมกันจนเนื้อเนียนละเอียด หน้าขนมเป็นหัวกะทิ เติมเกลือเล็กน้อย เมื่อขนมสุกจึงโรยด้วยต้นหอมซอยละเอียด หัวใจหลักอยู่ที่การหยอดใหม่ทุกครั้งที่สั่ง จึงจะได้ขนมครกกรอบนอกนุ่มใน รสกลมกล่อม อร่อยจนหยุดไม่อยู่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image