พฤติกรรมดิจิทัล คอลัมน์ นอกลู่ในทาง

ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปแค่ไหน การรู้จักเข้าใจผู้บริโภค (ลูกค้า) ยังสำคัญเสมอสำหรับธุรกิจต่างๆ ยิ่งในยุคนี้ แม้จะมีรอยเท้าดิจิทัลให้ตามรอยได้ไม่ยาก แต่พฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก

ว่ากันว่าคนไทยในปัจจุบันใช้เวลาอ่านและดูคอนเทนต์ต่างๆ บนโลกออนไลน์แค่ไม่กี่วินาที ถ้าคอนเทนต์นั้นๆ ไม่โดนก็จะกดข้ามโฆษณาไปอย่างรวดเร็ว (มาก) ดังนั้น การดึงดูดความสนใจจึงต้องคิดกันเป็นหลักไม่ถึงสิบวินาที

ไม่ใช่แค่เปลี่ยนแปลงเร็วเท่านั้น แต่ความต้องการของผู้บริโภคในทุกวันนี้ยังมีความเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้นด้วย ดังนั้น หากธุรกิจหรือผลิตภัณฑ์ใดมีเป้าหมายที่จะชนะใจลูกค้า ยิ่งต้องเตรียมพร้อมให้มากด้วยว่าจะทำอย่างไรถึงจะตอบสนองความต้องการเหล่านั้นให้ได้อย่างทันท่วงที

สปีดหรือความเร็วจึงสำคัญมาก ประมาณ “เก่งไม่กลัว กลัวช้า”

Advertisement

ทีนี้ลองมาดูพฤติกรรมผู้บริโภคในระดับโลกกันบ้าง

บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมระดับโลก “อีริคสัน” ได้เปิดเผยข้อมูลการสำรวจวิจัยผู้บริโภคจากห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ผลสำรวจผู้บริโภคที่ได้ทำการสำรวจมาแล้วกว่า 23 ปี

จากการสำรวจล่าสุดส่วนใหญ่มาจากการทำแบบสำรวจออนไลน์ในช่วงเดือนตุลาคมปี 2561 ที่ผ่านมา จากผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตระดับสูงใน 10 เมืองทั่วโลก โดยได้ทำการวิเคราะห์และประเมินเกี่ยวกับความคิดเห็นของผู้บริโภค และคาดการณ์เทคโนโลยีในอนาคต รวมถึงเทคโนโลยีแห่งยุคสมัยอย่างปัญญาประดิษฐ์ (AI), เทคโนโลยีเสมือน (VR), เทคโนโลยี 5G และระบบอัตโนมัติต่างๆ

Advertisement

รายงานการวิเคราะห์ล่าสุดของ “อีริคสัน” ได้บ่งชี้ว่า เทคโนโลยีอิสระ และการทำนายอารมณ์จะเป็นเทคโนโลยีที่มาแรงและมีบทบาทในชีวิตประจำวันของมนุษย์ในอนาคตอันใกล้นี้อย่างแน่นอน

ดร.ไมเคิล บียอน หัวหน้างานฝ่ายวิจัย ห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ผลสำรวจผู้บริโภค และอุตสาหกรรมของ “อีริคสัน” ยกตัวอย่างว่าให้ลองจินตนาการถึง “สมาร์ทโฟน” ที่จะไม่ได้เพียงแค่รู้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่แต่จะสามารถรู้ได้เลยว่า คุณเป็นใคร

“วันนี้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ จะสามารถเข้าใจถึงลักษณะเฉพาะของแต่ละคนได้แค่เพียงมองตาเท่านั้น สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือผู้ที่ใช้งานเทคโนโลยีใหม่ๆ จะได้เห็นว่าในอนาคตอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ จะรู้จักเรามากกว่าที่เราจะรู้จักมันเสียอีก”

นอกจากอีริคสันจะคาดการณ์ว่าภายในปีนี้ จะมีผู้ใช้งานเทคโนโลยีใหม่เร็วขึ้นมากถึง 34 ล้านรายทั่วโลกยังระบุด้วยว่าผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการให้อุปกรณ์อัจฉริยะทั้งหลายเข้ามามีบทบาทเสมือนหนึ่งในสมาชิกครอบครัว พร้อมกันนี้ยังได้คาดการณ์พฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัลปี 2562 และในอนาคตอีกด้วย

แนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคที่ว่ามีด้วยกัน 10 เรื่อง

1.เครื่องรับรู้อัจฉริยะ กว่า 60% ของผู้ที่ใช้งานแอพพลิเคชั่นผู้ช่วยส่วนตัวคิดว่าภายในอีก 3 ปีข้างหน้า อุปกรณ์ทางเทคโนโลยีจะสามารถรับรู้และเข้าใจถึงอารมณ์ของผู้ใช้ได้

2.ผู้ตอบโต้ที่ชาญฉลาด กว่า 65% ของผู้ที่ใช้งานแอพพลิเคชั่นผู้ช่วยส่วนตัวคิดว่าอุปกรณ์อัจฉริยะจะสามารถโต้เถียงได้เสมือนเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัว ภายในอีก 3 ปีข้างหน้า

3.แอพพลิเคชั่นส์สอดแนม กว่า 45% ของผู้บริโภคคิดว่าแอพพลิเคชั่นจะเก็บข้อมูลของผู้ใช้ แม้กระทั่งตอนไม่ได้เปิดใช้แอพพลิเคชั่นเลยก็ตาม

4.บังคับให้ตอบตกลง ผู้บริโภคจำนวน 51% รู้สึกรำคาญที่จะต้องตอบตกลงให้ cookie เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวตลอดเวลา

5.ทักษะทางอินเตอร์เน็ต กว่า 50% ของผู้ใช้งาน AR (Augmented reality) หรือ VR (Virtual reality)ต้องการใช้แอพพลิเคชั่นแว่นตา หรือถุงมือที่สามารถนำมาใช้งานในชีวิตประจำวันได้ เช่น โปรแกรมสอนทำอาหาร หรือซ่อมแซมสิ่งของต่างๆ ผ่านเทคโนโลยีโลกเสมือน

6.การบริโภคแค่เพียงปลายนิ้ว ผู้ที่ใช้งานแอพพลิเคชั่นผู้ช่วยส่วนตัวราวครึ่งหนึ่ง ต้องการที่จะใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการจ่ายบิล รวมทั้งซื้อของใช้ภายในบ้านแบบอัตโนมัติ

7.ผู้ช่วยในการตัดสินใจ ผู้บริโภคจำนวน 31% คิดว่าอีกไม่นานคงต้องใช้บริการ “ศูนย์ฝึกความคิด” เพื่อฝึกทักษะทางด้านความคิด เพราะทุกวันนี้เทคโนโลยีอัตโนมัติเข้ามาแทนที่การตัดสินใจในชีวิตประจำวันของมนุษย์ไปหมดแล้ว

8.รักษ์โลก ผู้บริโภคจำนวน 39% ต้องการใช้นาฬิการักษ์โลกที่สามารถวัดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาในแต่ละวันได้ (ถ้าถามคนไทยตอนนี้คงต้องการสมาร์ทวอทช์ที่วัดมลพิษทางอากาศได้)

9.ฝาแฝดดิจิทัล ผู้ใช้งาน AR หรือ VR จำนวน 48% ต้องการมีฝาแฝดเสมือนจริงที่เหมือนกับตัวเขาแบบชนิดที่แยกไม่ออก เพื่อที่พวกเขาจะสามารถแยกกันอยู่สองที่ได้ในเวลาเดียวกัน

และ 10.ชุมชน 5G (ในบ้านเรายังต้องลุ้นกันว่าจะเกิดขึ้นได้ตามที่รัฐบาลปักธงไว้ในปี 2563 หรือไม่) แต่การสำรวจความเห็นของผู้บริโภค “อีริคสัน” พบว่า

ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน มากถึง 20% เชื่อว่า เทคโนโลยี 5G จะทำให้อุปกรณ์ต่างๆ ที่รองรับ IoT (Internet of Thing) เชื่อมต่อกันได้ดีกว่าเดิม เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน หรือสมาร์ทมิเตอร์ในอุปกรณ์สาธารณูปโภคต่างๆ เป็นต้น

ดร.เพอร์นิลล่า โจนส์สัน หัวหน้างานห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ผลสำรวจผู้บริโภคและอุตสาหกรรมของ

อีริคสัน ระบุว่า “เราได้เข้าสู่ยุคที่มนุษย์สามารถมีปฏิสัมพันธ์และทำงานร่วมกับเครื่องจักรกลอัจฉริยะแล้ว และทุกวันนี้เรากำลังก้าวเข้าสู่อนาคตที่ยังมีอุปกรณ์ทางด้านเทคโนโลยีอีกมากมายหลายอย่างที่กำลังจะพัฒนาขึ้น แต่ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เราสามารถกำหนดได้ด้วยมือของเราเอง”

สิ่งที่น่าสนใจไม่น้อยไปกว่าแนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคที่จะเปลี่ยนไปในอัตราเร่งที่เร็วมาก หนีไม่พ้นเรื่องของ “ทัศนคติ” ต่อสิ่งที่กำลังจะมาถึง ทั้งในระดับองค์กร และระดับบุคคล เพราะขึ้นอยู่กับว่าเราจะมองเทคโนโลยีในอนาคตว่าเป็นภัยคุกคามหรือเป็นโอกาส แต่ไม่ว่าจะมองในแง่ไหน อย่างไร และจะยอมรับหรือไม่ก็ตาม ยากที่จะหนีได้พ้นอยู่ดี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image