ที่มา | คอลัมน์ ร่อนตามลม มติชนรายวันหน้า 23 |
---|---|
ผู้เขียน | [email protected] |
เผยแพร่ |
รองเท้า 86 คู่ที่แขวนโชว์อยู่ที่ “พิพิธภัณฑ์แห่งความทรงจำอันเปล่าเปลี่ยว” ในกรุงเม็กซิโก ซิตี้ ประเทศเม็กซิโก ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีความสำคัญและ “ความหมาย” มากกว่ารองเท้าธรรมดาทั่วไป เพราะเจ้าของรองเท้าเหล่านี้คือ “บุคคลสูญหาย” โดยหลายคน ทางครอบครัวรู้ว่าเสียชีวิตไปแล้ว แต่หลายคน ทางครอบครัวยังไม่รู้ชะตากรรมว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร และยังเฝ้ารอด้วยความหวังว่า อาจมีโอกาสได้เจอหน้ากันอีก
ทั้งนี้จากรายงานข่าวของเอเอฟพีเล่าว่า รองเท้าทั้ง 86 คู่ เป็นรองเท้าที่ญาติและครอบครัวผู้สูญหายบริจาคให้แก่ อัลเฟรโด โลเปซ คาซาโนวา ศิลปิน ผู้จัดนิทรรศการนี้เพื่อหวังให้สังคมได้รับรู้ถึงโศกนาฏกรรมของบุคคลสูญหายที่เกิดขึ้นในเม็กซิโก และประเทศเพื่อนบ้านอย่างอาร์เจนตินา ฮอนดูรัส เอลซัลวาดอร์ และกัวเตมาลา
เฉพาะที่เม็กซิโก ซึ่งมีปัญหาอาชญากรรม ความรุนแรงที่เกี่ยวพันกับแก๊งค้ายาเสพติดเพิ่มมากขึ้นในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา มีรายงานบุคคลสูญเสียแล้วกว่า 28,000 ราย และเมื่อวันอังคารที่ 10 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวัน Mother’s Day หรือ “วันแม่” ของเม็กซิโก ก็มีแม่และญาติของผู้สูญหายได้ออกมาเดินขบวนไปตามท้องถนนต่างๆ เพื่อเรียกร้องขอความจริงและความเป็นธรรมให้แก่ครอบครัวของพวกเขา
ทั้งนี้ จากข่าวเล่าว่ารองเท้าทุกคู่ที่จัดแสดงในนิทรรศการจะมีข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าของรองเท้าที่สูญหายไปถูกเขียนไว้บนแผ่นพื้นกระดาษรูปฝ่าเท้าสีเขียว ซึ่งในบรรดาข้อความเหล่านั้นมีข้อความที่เขียนจากเด็กชายวัย 9 ขวบที่พ่อของเขาเป็น 1 ในนักศึกษา 43 คนที่หายตัวไปในบริเวณภาคใต้ของเม็กซิโกเมื่อปี 2557 ซึ่งเป็นคดีสะเทือนขวัญที่ช็อกโลกรวมอยู่ด้วย
เวอร์จิเนีย เฮอร์ไรร่า หนึ่งในครอบครัวผู้สูญหาย ซึ่งลูกชายเธอถูกแก๊งค้ายาเสพติดลักตัวไปในรัฐตาเมาลีปัสเมื่อ 6 ปีที่แล้ว พูดถึงนิทรรศการนี้ว่าจะมีส่วนช่วยให้ผู้คนตระหนักถึงปัญหานี้ และเปิดใจถึงสภาพที่เธอต้องเผชิญในตอนนั้นว่า เธอไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร และว่า “ไม่มีใครช่วยเหลือเราเลย” ทั้งนี้ รัฐตาเมาลีปัส มีชายแดนติดกับรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เป็นพื้นที่ซึ่งเกิดเหตุการณ์คนสูญหายมากที่สุดในเม็กซิโก อย่างน้อยตอนนี้มีรายงานบุคคลสูญหายแล้วราว 5,750 คน
เซคอร์โร เอเรียส แม่ผู้สูญเสียอีกราย ซึ่งนำรองเท้ากีฬาสีขาวของเธอเองมาแขวนร่วมแสดงในนิทรรศการ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความพยายามที่เธอเฝ้าตามสืบหาลูกชาย ที่หายตัวไปเมื่อปี 2555 ระหว่างไปเที่ยวที่รัฐเวราครูซ ซึ่งเป็นอีกพื้นที่หนึ่งในเม็กซิโกที่มีภัยมืดจากแก๊งค้ายาเสพติดชุกชุม เล่าว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพลูกชายเธอ หลังจากหายตัวไป 2-3 วัน แต่เธอต้องอดทนรอคอยอยู่ถึง 4 ปี เพื่อรอผลการตรวจพิสูจน์ทางดีเอ็นเอ เพื่อยืนยันศพว่าเป็นใคร
“ระหว่างนั้นแทนที่เราจะได้รับการปฏิบัติจากเจ้าหน้าที่อย่างเห็นอกเห็นใจ แต่ครอบครัวเรากลับได้รับการปฏิบัติราวกับเป็นอาชญากร”
อย่างไรก็ตาม นางเอเรียสยังมองเห็น “ความหวัง” จากรองเท้าทั้ง 86 คู่นี้ โดยว่า “ฉันยังไม่หยุดการค้นหา เพราะว่า ฉันไม่ต้องการให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับลูกชายของฉันอีกคน”
จากข่าวว่า คณะผู้จัดนิทรรศการต้องการเดินสายจัดแสดงนิทรรศการนี้ไปทั่วประเทศ โดยจะไปปิดท้ายที่เมืองตีฮัวนา ซึ่งมีพรมแดนติดกับรัฐแคลิฟอร์เนีย จากนั้นก็จะเข้าไปจัดแสดงนิทรรศการนี้ในสหรัฐอเมริกา ซึ่ง อัลเฟรโด โลเปซ คาซาโนวา บอกว่า “เพราะนโยบายการเมืองของสหรัฐอเมริกา มีส่วนรับผิดชอบต่อสถานการณ์เหล่านี้ด้วย”
โลเปซยังว่า เขาหวังจะหารองเท้ามาเพิ่มในนิทรรศการให้มากขึ้นกว่านี้