ทีเด็ด”พิชิตทุนเรียนนอก” ศึกษาต่างแดนไม่ไกลเกินเอื้อม

ทีเด็ด
ทีเด็ด"พิชิตทุนเรียนนอก" ศึกษาต่างแดนไม่ไกลเกินเอื้อม

ทีเด็ด”พิชิตทุนเรียนนอก” ศึกษาต่างแดนไม่ไกลเกินเอื้อม

“ประเทศอังกฤษ” นับได้ว่าเป็นประเทศยอดนิยม ที่นักเรียนไทยต่างเดินทางไปศึกษาต่อ ทั้งระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษา จนครองแชมป์เป็นอันดับ 1 ต่อกันหลายปี ตามติดมาด้วยประเทศสหรัฐ และ ออสเตรเลีย

ปัจจุบัน มีนักเรียนไทยที่เดินทางไปศึกษาต่อถึงกว่า 7,000 ราย และมีจำนวนเกือบพันราย ที่ได้รับทุนการศึกษา ลัดฟ้าไปเปิดโลกในต่างแดน

แต่จะทำอย่างไรจึงจะพิชิตทุนได้สำเร็จ ไม่ใช่เรื่องง่าย ในโอกาสที่ บริติช เคานซิล และรัฐบาลอังกฤษ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร เปิดตัวทุนการศึกษา Great Scholarships 2019 ในกลุ่มสาขาวิชา New S-Curve ตอบโจทย์ไทยแลนด์ 4.0 จึงได้โอกาสเจาะลึกเรื่องการศึกษาและเรื่องทุนกับ อุไรวรรณ สะโมลี หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมการศึกษาต่อสหราชอาณาจักร บริติช เคานซิล ประเทศไทย

อุไรวรรณเล่าว่า ปัจจุบัน นักเรียนไทยมุ่งหน้าไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ เพิ่มขึ้น 4% ในระดับปริญญาตรีและปริญญาโท นอกจากนี้ ตัวเลขของนักเรียนไทยที่ไปเรียนภาษาอังกฤษ ทั้งระยะสั้นและระยะยาวในประเทศอังกฤษ เพิ่มสูงขึ้น 10% ด้วยผู้ปกครองและนักเรียน เห็นความสำคัญของภาษาอังกฤษมากขึ้น สอดคล้องกับ นโยบายการศึกษาที่อังกฤษ ที่ไม่ได้เปิดรับนักเรียนเฉพาะในอังกฤษหรือสหภาพยุโรป แต่เปิดรับนักเรียนจากชาติอื่น รวมถึงความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่างๆ เพราะเชื่อว่าการให้เด็กที่เก่ง หรือมหาวิทยาลัยที่ดี มาร่วมทำวิจัย หรือศึกษา จะเพิ่มโอกาสในการพัฒนาศักยภาพทางวิชาการได้มากขึ้น นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยต่างๆ ยังปรับหลักสูตรให้มีการฝึกงานในบริษัทเอกชน อีกด้วย เฉลี่ยแล้วแต่ละคนใช้เงินประมาณ 1.2-1.4 ล้านบาท ในการศึกษาปริญญาโท

Advertisement

นอกจากนี้ แต่ละมหาวิทยาลัย ยังมีทุนการศึกษาให้กับนักเรียน เป็นการช่วยเหลือค่ากินอยู่อีกด้วย

อุไรวรรณ สะโมลี
อุไรวรรณ สะโมลี

แล้วเด็กไทยไปเรียนอะไรกัน?

อุไรวรรณเผยว่า โดยทั่วไปแล้ว หลายคนชอบคิดว่ามหาวิทยาลัยของอังกฤษ ดังเรื่องศิลปะ หรือดีไซน์ แต่ที่จริงแล้ว เรื่องวิทยาศาสตร์ หรือธุรกิจ ของมหาวิทยาลัยในอังกฤษ ก็มีชื่อเสียง มีคุณภาพ โดยติดอยู่ในท็อป 10 ของมหาวิทยาลัยโลก ในอังกฤษเอง เด็กของเขาก็เรียนอะไรที่หลากหลาย สำหรับเด็กไทยส่วนใหญ่จะไปเรียนปริญญาโทด้านธุรกิจ ซึ่งใช้เวลา 1 ปี แต่ในช่วง 2-3 ปีหลัง เด็กไทยนิยมไปเรียนในสาขา STEM หรือ เรื่อง วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี กันมากขึ้น ซึ่งอังกฤษเองมีมหาวิทยาลัยเกือบ 100 แห่ง ให้แต่ละคนเลือก ในช่วงเวลาที่ศึกษาก็สามารถทำงานพาร์ตไทม์ได้ ไม่เกิน 20 ชั่วโมง

Advertisement

ซึ่งหลายคนอาจไม่รู้ว่า มีทุนการศึกษา ไปเรียนต่อประเทศอังกฤษไม่น้อย

เจ้าหน้าที่ บริติช เคานซิล เผยว่า ในทุกๆ ปี สหราชอาณาจักร จะมอบทุนการศึกษาชีฟนิ่ง ให้กับนักเรียนทั่วโลก ในสาขาวิชาเพื่อการพัฒนา ในไทยมีสถานทูตอังกฤษเป็นผู้ดูแล ครอบคลุมทั้งค่าเรียน และค่าใช้จ่ายอื่น ซึ่งปีที่ผ่านมามีผู้สมัครกว่า 1,000 คน นอกจากนี้ บริติช เคานซิล ยังมีทุนการศึกษาต่ออังกฤษ สำหรับผู้ที่สอบวัดระดับไอเอลซ์ และยังมี ทุนการศึกษา อินสไปร์ สำหรับนักเรียนมัธยมไปแลกเปลี่ยนระยะสั้น ล่าสุด รัฐบาลอังกฤษยังได้มอบทุนการศึกษาใหม่ Great Scholarships 2019 เป็นปีแรกในประเทศไทย สำหรับปริญญาโท ในสาขาวิทยาการหุ่นยนต์, สาขาการบิน, สาขาสาธารณสุขศาสตร์, สาขาพลังงานชีวภาพ และ สาขาดิจิทัล 5 คน ทุนละ 20,000 ปอนด์ หรือ 8 แสนบาท ไม่จำกัดอายุ โดยมหาวิทยาลัยจะเป็นผู้คัดเลือกนักเรียนด้วยตัวเอง

 

แต่การจะได้ทุนนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย อุไรวรรณ แนะเทคนิคไว้ว่า สิ่งสำคัญที่สุดในการพิชิตทุน คือเรื่องภาษาอังกฤษ ที่เป็นอุปสรรคสำคัญของเด็กไทย นอกจากจะต้องเรียนวิชานั้นๆ ให้ได้ดีแล้ว ก็ต้องฝึกฝนภาษาอังกฤษ ทั้งฟัง พูด อ่าน เขียน เพื่อสอบ IELTS ให้ผ่าน ส่วนใหญ่กำหนดไว้ที่ 6.5 ขั้นต่ำ นอกจากนี้ ยังต้องฝึกเพื่อเรียนในห้องเรียน ที่เน้นการโต้เถียง และหาข้อมูลด้วยตัวเอง เด็กไทยอาจจะเก่งการเขียนหรืออ่าน จึงต้องฝึกฝนทักษะอื่น การเรียนในห้องอาจไม่พอ ต้องเน้นใช้ในสถานการณ์จริงด้วย เด็กหลายคนที่ได้ทุนก็เตรียมตัวกันตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัย

นอกจากภาษาอังกฤษแล้ว ยังต้องหาความรู้เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยว่าเชี่ยวชาญเรื่องไหน ทำวิจัยเรื่องใด รวมถึงความตั้งใจว่าจะพัฒนาตัวเองจากการศึกษาครั้งนี้อย่างไร ยิ่งเป็นทุนการศึกษา ต้องมีวิสัยทัศน์ ทันโลก เรียบเรียงไอเดียในการสื่อสารได้ดี และชัดเจน สามารถบอกได้ว่าจะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างไทยและอังกฤษได้อย่างไรด้วย สิ่งเหล่านี้ต้องเขียนลงใน statement of purpose หรือจดหมายแนะนำตัวในการสมัครเรียนอีกด้วย

“การเรียนต่างประเทศ เปิดโอกาสให้เราได้เจอกับอะไรใหม่ๆ สังคมพหุวัฒนธรรม และการมองโลกอย่าง Globalization ที่องค์กรต่างๆ ต้องการคุณสมบัติเหล่านี้ เราจะได้เพื่อน ได้การศึกษาและคอนเน็กชั่นที่ดี”

โดย อุไรวรรณแนะนำว่า นักเรียนควรรู้จักหาข้อมูลเกี่ยวกับทุน กดติดตามเพจของรัฐบาลหรือเว็บไซต์ทุนต่างๆ ไว้ แม้ทุนจะเปิดทั้งปีแต่ส่วนใหญ่จะเปิดต้นปี เพราะอังกฤษเปิดเทอมเดือนกันยายน

อนาคตทางการศึกษา

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image