ที่มา | คอลัมน์ ฮิตต้องแชร์ |
---|---|
มติชนรายวันหน้า 18 | |
เผยแพร่ |
เพราะอะไร ทำไมต้อง ‘มู(เตลู)’
มูเตลู – ดูเหมือนว่าในช่วงไม่กี่ปีมานี้ว่า “สายมู” หรือ “มูเตลู” จะกลายเป็น “คำ” ที่ถูกกล่าวถึงอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในโลกออนไลน์
ที่พอจะอนุมานได้ว่ามีความข้องเกี่ยวในเรื่อง “ความเชื่อ” และ “เครื่องรางของขลัง”
กระนั้นที่มาของกระแส “มูเตลู” ก็ไม่แน่ชัด
แต่สอดคล้องกับชื่อหนังเก่าจากอินโดนีเซียที่เคยนำมาฉายในประเทศไทย เมื่อประมาณ 25 ปีที่ก่อน
ซึ่งมีชื่อเรื่องว่า “มูเตลู ศึกไสยศาสตร์” เรื่องราวของผู้หญิงสองคนที่ใช้ทั้งอาคม เวทมนตร์ และคาถา แย่งชิง “ผู้ชายที่หมายปอง”
โดยภายในเรื่อง ตัวเอกทั้งสองยังได้ใช้คาถาที่ส่วนหนึ่งกล่าวว่า “มูเตลู มูเตลู…” อีกด้วย
ด้วยเหตุนี้คำว่า “มูเตลู” จึงให้ความหมายในเชิงเรื่องลี้ลับ ไสยศาสตร์ ความเชื่อ และการบูชา
แต่กระนั้นในประเทศไทย บริบทของการสื่อความหมายอยู่ในแง่บวก กล่าวคือ เป็นการใช้เรียกการบูชา หรือการเสริมมงคล เสริมดวงชะตา ตามความเชื่อของแต่ละบุคคล
โดยเรียกกลุ่มคนที่ชื่นชอบในด้านนี้สั้นๆ ว่า “สายมู (เตลู)” โดยกิจกรรมที่สายมูนิยมทำกันก็มีความหลากหลาย อาทิ การบูชาเครื่องรางจากวัดต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น ที่มีทั้งเสริมดวงเรื่องความรัก การเงิน โชคลาภ การเรียน และการทำงาน ตลอดจนการเดินทางไปไหว้พระขอพรให้เจอเนื้อคู่ที่วัดหวังต้าเซียน และไหว้เจ้าแม่กวนอิม ณ ฮ่องกง โดยเกิดจากการบอกเล่าปากต่อปากว่า “ศักดิ์สิทธิ์” จริงๆ!
หรืออีกนัยหนึ่งก็คือการเสริมพลัง สร้างกำลังใจ และเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจตามความศรัทธาด้วย
ซึ่งในแวดวงบันเทิงของไทยก็มีดาราดังหลายคนที่ถูกถามเรื่องการ “มูเตลู” อยู่บ่อยครั้ง อาทิ ซุปตาร์ “อั้ม พัชราภา” ที่เปิดสระว่ายน้ำส่วนตัว พาแก๊งเพื่อนสาวอาบแสงจันทร์รับสิริมงคล รวมไปถึงดาราดังระดับโลกอย่าง “แองเจลินา โจลี” ที่เชิญให้นักสักยันต์ชื่อดังของเมืองไทย ลงเข็มสักยันต์ให้ถึง 4 ครั้ง ประกอบด้วย เมตตา 5 แถว เสือเหลียวหลัง สักน้ำมันเมตตา จิ้งจก 9 คู่ สักวิหารพระศาสดา โภคทรัพย์ และยันต์ธงชนะ
ทั้งนี้ในเรื่องของความเชื่อ และสิ่งลี้ลับ ก็มักจะมาพร้อมกับประโยคที่ว่า “ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่”
อย่างไรก็ตาม การจะทำสิ่งใดก็ต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตของความพอดี และเหมาะสมด้วยนะจ๊ะ
ติดตามข่าวบันเทิงไลฟ์สไตล์ กับ Line@มติชนนิวเจน