| ที่มา | มติชนรายวัน หน้า 18 |
|---|---|
| เผยแพร่ |
บทบาทผู้หญิงกับการเป็นผู้นำปี 2562 ไทยสัญญาณดีแต่ยังห่าง ‘เท่าเทียม’
บทบาทผู้หญิง – ประเด็นเรื่องความเท่าเทียมทางเพศและบทบาทของผู้หญิงในตำแหน่ง “ผู้บริหาร” ยังคงตกเป็นที่วิพากษ์และถูกจับตามองในหลายมิติ ซึ่งในการรับรู้ที่ผ่านมาจะพบว่าผู้หญิงได้รับการยอมรับและมีความสามารถรั้้งตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง อาทิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร, ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ, ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO), กรรมการผู้จัดการ หรือหุ้นส่วนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด งานวิจัยของ แกรนท์ ธอนตัน อินเตอร์เนชันแนล ที่ปรึกษาทางธุรกิจในประเทศไทย ระบุว่า ในปี 2562 มีผู้หญิงนั่งตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงมากขึ้นทั่วโลก รวมทั้งในระดับภูมิภาค โดยเฉพาะในอาเซียนที่หลายตัวชี้วัดมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก โดยร้อยละ 94 ของบริษัทในอาเซียนที่ทำการสำรวจมีผู้หญิงเป็นผู้บริหารระดับสูงอย่างน้อย 1 คน สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 87
สะท้อนให้เห็นว่า ผู้หญิงได้ก้าวขึ้นมามีบทบาทในฐานะ “ผู้นำ” ในโลกการทำงานกันมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ในประเทศไทยก็พบสัญญาณที่น่ายินดี ด้วยมีผู้หญิงรั้งตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร/กรรมการผู้จัดการถึงร้อยละ 33 นอกจากนี้ ผู้หญิงยังครองตำแหน่งสำคัญอื่นๆ เช่น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด ซึ่งล้วนแต่ “สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก” ทั้งสิ้น
แต่กระนั้น เมเลีย ครูซ หุ้นส่วนของแกรนท์ ธอนตัน ประเทศไทย กลับมองว่า แม้จะยังไม่เห็นสัดส่วนตัวเลขที่เท่าเทียมกันระหว่างเพศเท่าที่ควร แต่ก็เห็นถึงแนวโน้มว่า “บทบาทของผู้หญิงในวงการธุรกิจของไทยนั้นแซงหน้าวงการการเมืองเป็นอย่างมาก” ซึ่งในรัฐบาลชุดปัจจุบัน ไม่พบผู้หญิงเป็นรัฐมนตรีเลย และสัดส่วน ส.ส.หญิงในสภา ก็มีแค่ร้อยละ 5 จึงเป็นเรื่องที่น่าติดตามกันต่อไปว่าแนวโน้มการเปลี่ยนผ่านเชิงวัฒนธรรมด้านความเท่าเทียมทางเพศในช่วงที่ผ่านมาจะสะท้อนกับผลการเลือกตั้งรอบที่จะถึงนี้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจยังบ่งชี้อีกว่า ผู้หญิงที่สวมบทบาทผู้นำต้องเผชิญกับอุปสรรคต่อความก้าวหน้าในการทำงาน ในลักษณะคล้ายๆ กัน ได้แก่ ภาระหน้าที่ดูแลครอบครัวนอกเวลางาน, ปัญหาการจัดสรรเวลาในการทำงาน และการขาดโอกาสในการสร้างเครือข่าย
ติดตามข่าวบันเทิงไลฟ์สไตล์ กับ Line@มติชนนิวเจน
