พรมเปอร์เซีย อาร์ตพีซมีระดับกับอารยธรรมที่ใกล้สาบสูญ
“พรมเปอร์เซีย” นอกจากจะเป็นของใช้ในบ้าน และของประดับบ้านแล้ว ยังเป็นที่รู้จักในนามของ “ของสะสม” และ “อาร์ตพีซ” อันทรงคุณค่า และมีราคาสูงมากด้วย
แต่เพราะอะไร “พรมเปอร์เซีย” ถึงมีมูลค่าและกลายเป็นของสะสมที่บรรดานักธุรกิจผู้มีกำลังทรัพย์ และเซเลบริตี้ให้ความสนใจ
ส่วนหนึ่งมาจากต้นกำเนิดของ “พรมเปอร์เซีย” ที่ไม่ธรรมดา เต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์น่าค้นหา ด้วยเป็นส่วนหนึ่งของอารยธรรมใน “อาณาจักรเปอร์เซียโบราณ” ที่มีความเป็นมายาวนานกว่า 3,000 ปี
โดย “ทักษะดั้งเดิมในการถักทอพรม” นับเป็นมรดกทางอารยธรรมของชาวเปอร์เซียที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ในอดีตทุกหลังคาเรือนและทุกหมู่บ้านต่างมีเทคนิคและเคล็ดลับในการถักพรมที่แตกต่างกันออกไปอย่างมีเอกลักษณ์ และโดดเด่น
ซึ่งในปัจจุบันอาณาจักรเปอร์เซียได้กลายเป็น “ประเทศอิหร่าน” นั่นเอง
เพราะฉะนั้นจึงมีคำพูดทำนองที่ว่า “หากเดินทางไปเที่ยวอิหร่าน แต่ไม่ได้เข้าร้านขายพรม ก็นับว่าไปไม่ถึงอิหร่านเสียแล้ว”
มากไปกว่านั้น “คุณสมบัติ” ของพรมเปอร์เซียก็ไม่ธรรมดา เพราะสามารถ “คงความงาม” ไว้ได้แม้เวลาจะผ่านไปนานหลายสิบปี
เพราะ “พรมเปอร์เซียแท้” มีคุณลักษณะสำคัญคือ เป็นงานทำด้วยมือ เต็มไปด้วยรายละเอียด อาทิ ใน 1 ตารางนิ้วเมื่อแหวกดูจะพบกับปมผ้าหลายหมื่นปม และสีที่ปรากฏในผืนพรมล้วนมาจากธรรมชาติ เพราะฉะนั้นเมื่อโดนน้ำสีจะไม่ตก เมื่อโดนแดดสีจะไม่ซีด เนื้อพรมไม่หดไม่ยุ่ย
แสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติที่เด่นที่สุดคือ “ความทนทาน” และในปัจจุบัน “พรมเปอร์เซียแท้” ก็เริ่มหาได้ยาก และมีมูลค่าสูงขึ้นเรื่อยๆ จนมีผู้สะสมพรมเปอร์เซียคาดการณ์ไว้ว่า “ในอีก 50 ปีข้างหน้า อาจจะไม่มีผู้ผลิตพรมเปอร์เซียแท้แล้ว”
เพราะฉะนั้นในตลาดโลก พรมเปอร์เซียร์ที่มีอายุ 50-60 ปีขึ้นไป จึงได้รับความสนใจจากนักธุรกิจหรือนักสะสมเป็นอย่างมาก
เอ-จิตรกร มงคลธรรม ผู้ก่อตั้ง “อาร์ต ออน เดอะ ฟลอร์” (Art on da floor) คอมมูนิตี้เพื่อคนรักงานศิลปะ ในฐานะผู้สะสมพรมเปอร์เซียและมีในครอบครองไม่น้อยกว่า 20 ผืน ได้จัดงาน “เปอร์เซียน คาร์เปทส์ ไพรเวท คอลเล็กชั่น บาย อาร์ต ออน เดอะ ฟลอร์” นิทรรศการแสดงคอลเล็กชั่นพรมเปอร์เซียหายากกว่า 30 ผืน ซึ่งบางผืนที่นำมาจัดแสดงมีอายุกว่า 100 ปี และมีมูลค่าที่ประเมินค่าไม่ได้ ณ ร้าน Duke Contemporary Art Space ชั้น 1 ศูนย์การค้าเกษร วิลเลจ
โดยจิตรกรกล่าวว่า พรมเปอร์เซียคืองานศิลปะที่เป็นหนึ่งในมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าเหนือกาลเวลา และเป็นที่หมายปองของนักสะสมทั่วโลก แต่สำหรับนักสะสมไทยยังถือเป็นเรื่องใหม่มาก โดยเขาเริ่มสะสมพรมเปอร์เซียตั้งแต่ 2 ปีก่อน จากความหลงใหลในความงามและรายละเอียดของพรมเปอร์เซีย ไม่ใช่เพียงแค่ผิวเผิน แต่ต้องศึกษาหาข้อมูล แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้สะสมด้วยกัน ตลอดจนลงพื้นที่เพื่อไปสัมผัสและเลือกพรมอย่างใกล้ชิดก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ
จิตรกรยังกล่าวอีกว่า “การสะสมงานศิลปะไม่ได้มอบความสุขทางใจอย่างเดียว แต่ยังเป็นการลงทุนระยะยาวรูปแบบหนึ่งที่เรียกว่า แพสชั่น อินเวสเมนต์ (Passion Investment)”
“พรมเปอร์เซียมีคุณค่าในตัวเอง และยิ่งเพิ่มมากขึ้นตามกาลเวลา ที่สำคัญคือเป็นพรมที่มีชีวิต นำไปวางไว้ตรงไหนที่นั่นก็จะดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที จึงเป็นอาร์ตพีซที่ใช้ได้จริง อย่างที่บ้านผมจะเปลี่ยนพรมเปอร์เซียในบ้านทุกๆ 2 สัปดาห์ เวลาที่กลับมาบ้านหลังจากทำงานเสร็จพอได้เห็นของสะสมของเราก็ผ่อนคลายความเหนื่อยล้าได้ นี่คือคุณค่าทางจิตใจ แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถเป็นธุรกิจที่เกิดจากความชื่นชอบได้ด้วย” นักสะสมพรมเปอร์เซียกล่าวด้วยรอยยิ้ม และเผยว่า
“มูลค่าของพรมเปอร์เซียมักจะเริ่มที่ 6-7 หลักขึ้นไป โดยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย อาทิ อายุของพรม แบรนด์ ขนาด รายละเอียด เทคนิค และวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต อย่างบางผืนก็จะเป็นของแบรนด์เก่าแก่ที่มีชื่อเสียงมานาน ใช้วัตถุดิบที่พิเศษเช่น ซิลค์ ออน ซิลค์ หรือใช้สีย้อมหายาก อย่างสีเทอควอยซ์ ตลอดจนมีลูกเล่นในการทอพรมทำให้พรมทั้งสองด้านมีลวดลายที่แตกต่างกัน เป็นต้น”
ส่วน วิธีการรักษาพรมเปอร์เซีย เบื้องต้น จิตรกรเผยว่า ให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นในการทำความสะอาด โดยดูดย้อนทางพรม เพื่อไม่ให้พรมเสียทรง
ด้าน มร.วิคเตอร์ โบลลิเกอร์ นักสะสมพรมเปอร์เซียตัวยงมากว่า 20 ปี แนะเกร็ดการลงทุนในพรมเปอร์เซียว่า ต้องเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น สถาบันการประมูล หรือตระกูลทำพรมเปอร์เซียที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ ที่สำคัญต้องเลือกที่มีคุณภาพดี อาจต้องลงลึกไปถึงคุณภาพของชิ้นงาน ตั้งแต่รูปแบบลวดลาย “กรรมวิธีการทอปม” (Persian Knot) ยิ่งจำนวนปมเยอะก็ยิ่งสวยงามและทนทาน เห็นได้จากพรมเปอร์เซียบางผืนมีอายุเป็น 100 ปี ก็ยังสวยและใช้งานได้
“การลงทุนในงานศิลปะเป็นความสุขทางใจอย่างหนึ่ง อาจไม่ได้ให้ผลตอบแทนเหมือนกับการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ เพราะฉะนั้นถ้าจะเป็นเจ้าของงานศิลปะ ต้องเลือกจากชิ้นที่เจ้าของชอบเป็นหลักก่อน จากนั้นค่อยคิดเผื่อถึงการลงทุนว่าถ้าซื้อจากตระกูลที่มีชื่อเสียง มีกรรมวิธีการผลิตที่ประณีต ลวดลายสวยงาม และมีขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไป ก็จะยิ่งเป็นที่ต้องการในตลาดนักสะสมมากกว่า”
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถเข้าชมนิทรรศการ “เปอร์เซียน คาร์เปทส์ ไพรเวท คอลเล็กชั่นฯ” ฟรี! ตั้งแต่วันนี้-12 เมษายน เวลา 11.00-24.00 น. ณ ร้าน Duke Contemporary Art Space ชั้น 1 เกษร วิลเลจ