World Update..สมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ อดีตนักการทูตที่ดิ้นรน ปรับตัวกับชีวิตราชวงศ์

สมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ

สมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ พระชายาในสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะแห่งญี่ปุ่น ทรงเป็นสตรีผู้เปี่ยมด้วยความรู้ ความสามารถ แต่ที่ผ่านมาเป็นที่รับรู้กันดีว่าพระองค์ต้องต่อสู้กับการปรับตัวกับชีวิตใหม่ในฐานะสมาชิกราชวงศ์ ซึ่งทำให้ทรงล้มป่วย ด้วย “ภาวะการปรับตัวที่ผิดปกติ” ทำให้ต้องห่างหายจากสายตาสาธารณชนไปนานกว่า 10 ปี แต่วันนี้พระองค์ทรงพร้อมแล้วกับการทำหน้าที่ สมเด็จพระจักรพรรดินี พระองค์ใหม่แห่งแดนอาทิตย์อุทัย

สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษกล่าวถึงพระราชประวัติของสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ พระชันษา 55 ปี ว่า ทรงสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกถึง 2 แห่ง ทั้งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ของสหรัฐอเมริกา และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ทรงเคยทำงานเป็นนักการทูต และทรงเป็นหญิงสามัญชนคนที่ 2 ที่เข้าพิธีเสกสมรสกับมกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น ต่อจากสมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ ซึ่งเป็นหญิงสามัญชนคนแรก

สมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ เมื่อครั้งยังเป็นหญิงสามัญชนชื่อ มาซาโกะ โอวาดะทรงพบรักกับ เจ้าชายนารุฮิโตะเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.2529 ในงานพระราชทานเลี้ยงต้อนรับเจ้าหญิงเอเลนาแห่งสเปนระหว่างเสด็จเยือนญี่ปุ่น และอยู่ร่วมชีวิตกันมาครบ 25 ปีไปเมื่อปีที่แล้ว ทรงมีพระธิดา พระนามว่า เจ้าหญิงไอโกะ พระชันษา 18 ปี ซึ่งไม่มีโอกาสที่จะสืบทอดราชสมบัติ เนื่องจากตามกฎมณเฑียรบาลของราชสำนักญี่ปุ่นกำหนดให้แต่เชื้อพระวงศ์ชายเท่านั้น ที่สามารถสืบราชสันตติวงศ์ได้

ในบทความของบีบีซี ได้แบ่งช่วงเวลาสำคัญในชีวิตของสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะไว้ 4 ช่วงดังนี้

Advertisement

เส้นทางชีวิตจากนักการทูตสู่เจ้าหญิง

สมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ ประสูติที่กรุงโตเกียว เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ.2506 พระนามเดิมว่า มาซาโกะ โอวาดะ เป็นบุตรสาวนักการทูต ทรงเคยใช้ชีวิตวัยเด็กที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย และนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ทรงสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และทำงานเป็นนักการทูต ก่อนจะเข้าพิธีเสกสมรสกับเจ้าชายนารุฮิโตะ มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น ทรงตรัสภาษาต่างประเทศได้อย่างดีเยี่ยมหลายภาษา ทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส และภาษาเยอรมัน นอกจากนั้นยังมีพระปรีชาสามารถ เคยใช้ทักษะ ความรู้ ความสามารถทางการทูต ช่วยแก้ปัญหาข้อพิพาททางการค้าระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐอเมริกาในอดีต พระองค์ยังทรงมีพระปรีชาสามารถในกีฬาซอฟต์บอล สกี และเทนนิส

Advertisement

ทั้งนี้ เคยมีสื่อรายงานด้วยว่า พระองค์ทรงเป็น 1 ในผู้หญิง 3 คนที่สามารถสอบผ่านเข้าทำงานในกระทรวงต่างประเทศของญี่ปุ่น จากผู้สมัครสอบราว 800 คนเมื่อปี 2530 แต่ทรงลาออกจากกระทรวงต่างประเทศ หลังทรงหมั้นกับเจ้าชายนารุฮิโตะเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ.2536 จากนั้นทรงเข้าพิธีเสกสมรสเดือนมิถุนายนในปีนั้น

 

การปรับตัวกับชีวิตใหม่ในราชวงศ์

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนสถานภาพจากหญิงสาวสามัญชนสู่เจ้าหญิงไม่ได้ราบรื่น สมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะทรงเคยแท้งบุตรเมื่อปี 2542 ต่อมาจึงประสูติพระธิดาเจ้าหญิงไอโกะ เมื่อปี 2544

เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2547 สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะเคยตรัสถึงอาการป่วยของพระชายา สมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ ที่เกี่ยวเนื่องกับความเครียด ซึ่งสำนักพระราชวังอิมพีเรียลระบุว่าเป็น “ภาวะการปรับตัวที่ผิดปกติ” เป็นสาเหตุทำให้สมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะทรงหายไปจากสายตาสาธารณชน ทรงงดการปฏิบัติพระภารกิจทั้งใน และต่างประเทศเป็นเวลากว่า 10 ปี

“สถานการณ์ซึ่งทำให้ข้าพเจ้าไม่สามารถเดินทางไปต่างประเทศเป็นเวลา 6 ปี เป็นสิ่งที่ข้าพเจ้าต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการปรับตัว” สมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะเคยตรัสในงานแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อปี 2545

(Photo by STR / Japan Pool / AFP) /

การหวนคืนสู่สายตาสาธารณชน

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา สมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะค่อยๆ กลับคืนสู่สายตาสาธารณชน โดยหลังจากญี่ปุ่นประสบภัยแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.2554 พระองค์เสด็จไปกับพระสวามี เยี่ยมให้กำลังใจประชาชนผู้ประสบภัยตามศูนย์ผู้อพยพต่างๆ

ต่อมาในปี 2556 เสด็จเยือนประเทศเนเธอร์แลนด์พร้อมพระสวามี นับเป็นการเสด็จเยือนต่างประเทศครั้งแรกในรอบ 11 ปีของสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ ในปี 2557 สมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะทรงได้ร่วมงานพระราชทานเลี้ยงต้อนรับราชวงศ์เนเธอร์แลนด์ระหว่างเสด็จเยือนญี่ปุ่น

ในโอกาสครบรอบวันประสูติเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ.2561 พระองค์ยังตรัสว่ายินดีที่จะรับบทบาทใหม่ในฐานะสมเด็จพระจักรพรรดินีแต่ก็ทรงยอมรับว่ายังรู้สึกไม่ค่อยมั่นพระทัย

“ข้าพเจ้าต้องการอุทิศตนเพื่อความสุขของประชาชน ดังนั้นข้าพเจ้าจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อหาประสบการณ์มากขึ้นเรื่อยๆ”

ทั้งนี้ ในฐานะสมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งญี่ปุ่น สมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะซึ่งมีบางคนเปรียบว่าทรงเหมือนเจ้าหญิงไดอานาแห่งอังกฤษ ถูกคาดหวังว่าจะทรงปรากฏองค์ต่อสาธารณชนมากขึ้น

สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะทรงเคยตรัสไว้เมื่อปีที่แล้วว่า พระองค์ทรงปรารถนาให้พระชายาค่อยๆ ออกปฏิบัติพระราชกรณียกิจอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยให้พระชายาทรงเลือกทำในสิ่งที่ทรงสามารถทำได้ทีละอย่าง

ทรงเป็น “แบบอย่าง”

สำหรับผู้หญิงด้วยกันการต่อสู้ของพระองค์ในการปรับตัวกับชีวิตเจ้าหญิง มีบางคนมองว่าประสบการณ์ของพระองค์จะเป็นประโยชน์ต่อบทบาทใหม่ในฐานะสมเด็จพระจักรพรรดินี

“มันยุติธรรมที่จะพูดว่า ชีวิตของพระองค์ไม่ง่ายเลยนับแต่เป็นเจ้าหญิง ทำให้ไม่มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศ แล้วยังถูกกดดันให้มีพระโอรส ซึ่งสามารถสืบราชสันตติวงศ์ได้” หนังสือพิมพ์ไมนิจิกล่าว แต่ก็ว่า ในฐานะ

เจ้าหญิง ทำให้เจ้าหญิงมาซาโกะทรงมีโอกาสเรียนรู้ปัญหาต่างๆ อย่างเช่นปัญหาการล่วงละเมิดเด็ก ปัญหาความยากจน ปัญหาโลกร้อน แต่มีผู้เชี่ยวชาญบางคนรู้สึกว่าพระองค์สามารถเป็นกระบอกเสียง รณรงค์เรื่องสุขภาพจิต

“ในญี่ปุ่นมีข้อห้ามและความเข้าใจผิดมากมายเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพจิต พระองค์สามารถทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้อย่างมาก” เคนเน็ธ รูออฟ อาจารย์วิชาประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นสมัยใหม่ มหาวิทยาลัยพอร์ตแลนด์ สหรัฐอเมริกา บอกกับสำนักข่าวเกียวโด

ขณะที่ในโลกโซเชียล ก็มีหลายคนเชื่อว่า สมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะจะทรงเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับผู้หญิง

“ฉันเชื่อว่า มาซาโกะจะเป็นสมเด็จพระจักรพรรดินีที่ทรงเข้าใจแม่ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากที่ต้องเผชิญความกดดันมากมาย ท่ามกลางแมสเซจว่า ผู้หญิงควรทำได้มาก

กว่านี้ ผู้หญิงในญี่ปุ่นต้องเผชิญชะตากรรม ต้องเลิกทำงานหลังจากแต่งงาน หรือแม้กระทั่งถูกมองยังเป็นผู้ใหญ่ไม่สมบูรณ์ หากยังไม่มีลูก” คนในโซเชียลรายหนึ่งโพสต์

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image