หญิงญี่ปุ่นยัง ‘สลัดรองเท้าส้นสูง’ ไม่หลุด ?

สลัดรองเท้าส้นสูง – ความพยายามของผู้หญิงญี่ปุ่นที่รวมพลังกันเรียกร้องให้รัฐบาล “ยกเลิก” กฎระเบียบว่าด้วยการแต่งกายที่กำหนดให้ผู้หญิงต้องสวมรองเท้าส้นสูงในที่ทำงาน ยังคงเป็นเพียง “ความหวัง” ว่าสักวันจะเป็นจริงเหมือนที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ ที่มีการยกเลิกการสวมรองเท้าส้นสูงในที่ทำงานแล้ว

เอเอฟพีรายงานว่า นายทาคูมิ เนโมโตะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและแรงงาน ได้กล่าวต่อ คณะกรรมการนิติบัญญัติในการประชุมเมื่อวันพุธที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า การสวมรองเท้าส้นสูงในที่ทำงานยังเป็น “เรื่องจำเป็น” และเป็นเรื่องที่เหมาะสม

“การสวมรองเท้าส้นสูง เป็นเรื่องที่ยอมรับในสังคมการทำงานว่าเป็นเรื่องที่จำเป็นและเหมาะสม” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและแรงงานกล่าว

สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า มีผู้ร่วมลงชื่อในข้อเรียกร้องที่ต้องการให้ญี่ปุ่นยกเลิกการบังคับให้ผู้หญิงต้องสวมส้นสูงในที่ทำงานถึง 19,000 รายชื่อ โดยที่มาของการเรียกร้องภายใต้แฮชแท็ก #KuToo ซึ่งเป็นการเล่นคำ โดยมีที่มาจากคำว่า kutsu ซึ่งหมายถึง รองเท้าในภาษาญี่ปุ่น และ kutsuu ซึ่งหมายถึง ความเจ็บปวด และยังเป็นการเอามาเล่นคำกับกระแส #MeToo ที่เคยเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลก ต่อการที่ผู้คนออกมาเคลื่อนไหว ต่อต้านการกระทำอันเป็นการล่วงละเมิดทางเพศ เริ่มต้นจากมีนักแสดง และนักเขียนอิสระที่ใช้ชื่อว่า “ยูมิ อิชิกาวะ” ได้ทวีตว่า เธอถูกบังคับให้สวมรองเท้าส้นสูงในร้านรับจัดทำพิธีศพที่เธอทำงานอยู่ และได้เรียกร้องให้มีการ “แบน” กฎข้อบังคับนี้ ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากผู้เห็นด้วยในสังคมออนไลน์อย่างรวดเร็ว แค่เวลาไม่นานก็มีผู้เข้ามาสนับสนุนอย่างล้นหลาม โดยข้อความที่เธอทวีต มีผู้คนนำไปรีทวีตกว่า 30,000 แชร์ และเป็นที่มาของการนำข้อเรียกร้องนี้ไปยื่นให้รัฐบาลพิจารณาเมื่อวันอังคารที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา

ยูมิ อิชิกาวะ กล่าวว่า “ฉันหวังว่าการรณรงค์นี้จะช่วยเปลี่ยนบรรทัดฐานทางสังคม ไม่มองว่าการที่ผู้หญิงสวมรองเท้าส้นแบนเหมือนผู้ชายเป็นการเสียมารยาท” เธอยังเล่าว่ามีโอกาสเจอกับเจ้าหน้าที่กระทรวงคนหนึ่งที่แสดงความเห็นใจต่อข้อเรียกร้องนี้

ขณะที่บรรดาผู้สนับสนุน #KuToo ต่างรู้สึกว่า การที่ผู้หญิงต้องสวมรองเท้าส้นสูงในที่ทำงาน หรือเวลาไปสมัครงาน กลายเป็นกฎระเบียบกึ่งบังคับที่ผู้หญิงต้องทำ ขณะที่ผู้ชายกลับมีทางเลือกในการสวมชุดไปทำงานได้หลากหลายมากกว่า

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่รองเท้าส้นสูงกลายเป็นประเด็น กลายเป็นข่าวขึ้นมา ย้อนไปเมื่อปี 2558 เคยมีพนักงานต้อนรับในกรุงลอนดอน อังกฤษ ถูกไล่กลับบ้านโดยไม่จ่ายค่าแรง เพราะเธอปฏิเสธ ไม่ยอมสวมรองเท้าส้นสูงระหว่างทำงาน และในปีเดียวกันนั้น ผู้อำนวยการงานเทศกาลหนังเมืองคานส์ก็เคยออกมากล่าวขอโทษ หลังเกิดเหตุการณ์มีผู้หญิงหลายคนถูกปฏิเสธห้ามเดินพรมแดง เพราะไม่สวมรองเท้าส้นสูง แต่ผู้จัดงานเทศกาลหนังเมืองคานส์ก็ยังคงกฎระเบียบว่าด้วยการแต่งกายที่มีอยู่เดิมไว้ ทำให้ในปีถัดมา จูเลีย โรเบิร์ต นางเอกดังฮอลลีวู้ดเล่นเดินเท้าเปล่าบนพรมแดง

นิโคลา ธอร์ป พนักงานชั่วคราวของบริษัทการเงินแห่งหนึ่ง ก็เคยออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษ เปลี่ยนแปลงกฎระเบียบว่าด้วยการแต่งกายหลังจากเธอถูกบริษัทบังคับให้สวมส้นสูง แต่หลังจากเป็นข่าว บริษัทก็ประกาศให้พนักงานหญิงสามารถสวมรองเท้าส้นแบนไปทำงานได้ โดยให้มีผลบังคับใช้ทันที

ขณะที่เมื่อปี 2560 รัฐบริติชโคลัมเบีย ในแคนาดา ได้ยกเลิกกฎระเบียบว่าด้วยการแต่งกายที่บังคับให้ พนักงานหญิงต้องสวมรองเท้าส้นสูง โดยว่าผู้สวมรองเท้าส้นสูงมีความเสี่ยงที่จะลื่นหกล้ม จนได้รับบาดเจ็บ แล้วยังอาจส่งผลเสียต่อเท้า ขา และหลังได้

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่