ที่มา | มติชนรายวันหน้า 18 |
---|---|
เผยแพร่ |
นับเป็นเวลากว่า 40 ปีแล้วที่มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้สนองพระราโชบายในการส่งเสริมอาชีพให้แก่ราษฎรทุกหนแห่งของประเทศไทย และเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 มูลนิธิฯ จึงจัดงาน “อะ สปูนฟูล ออฟ เลิฟ : ช้อน…รัก” เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจากโครงการตามพระราชดำริฯ ซึ่งจัดจำหน่ายภายใต้ชื่อ “ศิลปาชีพ” ขึ้น ณ คาเฟ่ ปารีเซียง เดอะ กลาสเฮ้าส์ แอท สินธร ถนนวิทยุ
ภายในงานยังได้ เชฟแอร์เว่ เฟรราด์ แห่งคาเฟ่ ปารีเซียง มาสาธิตการปรุงอาหารจากผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพในเมนูอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน อย่างเมนูเบคด์ สเตอร์เจียน ฟิลเลต์ และเมดิเตอร์เรเนียน สไตล์เวเจเทเบิลส์ โดยใช้เนื้อปลาสเตอร์เจียนจากโครงการพระราชดำริฯ มาเป็นวัตถุดิบหลักด้วย
ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ รองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เผยว่า โดยทั่วไปแล้วหากเอ่ยถึงพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทุกคนจะนึกถึงผ้าไหมและงานโขน แต่ที่จริงแล้วพระองค์ทรงงานหลายด้าน และยังทรงห่วงใยไปถึงการทำกินของราษฎรในด้านอื่นๆ ทรงมีพระราชดำริอยากเห็นประชาชนมีกินไม่ขาดโปรตีน ไม่ว่าจะเสด็จฯ ไปที่ใดก็จะตรัสถามว่าที่บ้านมีปลากินตลอดปีไหม เพราะหากขาดโปรตีนแล้วย่อมส่งผลถึงสติปัญญาต่างๆ ได้ จึงเป็นที่มาของโครงการพระราชดำริฯ อาทิ โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ โดยเฉพาะที่ยอดดอยดำซึ่งเป็นพื้นที่สูง น้ำเย็นจนไม่สามารถเลี้ยงปลาใหญ่ได้ ก็เป็นจุดเริ่มต้นให้ศึกษาวิจัยนำพันธุ์ปลาเรนโบว์เทราต์มาเลี้ยง ก่อนจะขยายไปสู่ปลาชนิดอื่นๆ อย่างปลาสเตอร์เจียน ที่ทำได้เป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ล่าสุดกับการผลิตคาเวียร์สเตอร์เจียน รวมถึงดอกเกลือ และกาแฟอาราบิก้า
“ทุกวันนี้นอกจากทำให้ประชาชนมีกินแล้วยังสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ส่งเสริมอาชีพเกษตรกรด้วย” ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์กล่าว
สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่นั้น ดร.จรัลธาดา กรรณสูต ที่ปรึกษาสำนักราชเลขาธิการ กล่าวว่า เนื่องจากพันธุ์สัตว์เหล่านี้มีราคาแพง เมื่อช่วยให้ประชาชนในพื้นที่มีกินแล้ว จึงเห็นว่าควรจะส่งขายไปตามโรงแรมต่างๆ
“ปัจจุบันปลาเทราต์และปลาสเตอร์เจียนตัวผู้ สามารถนำไปปรุงอาหารเมนูต่างๆ ทั้งยังมีราคาสูง อย่างปลาสเตอร์เจียน 100 กรัม มีราคาถึง 5,000 บาท แต่นิยมเพราะมีความชุ่มนุ่มลิ้น ให้รสสัมผัสพิเศษ ขณะที่คาเวียร์ของศิลปาชีพนั้นมีรสชาติดี เมื่อเพาะพันธุ์สำเร็จได้ทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งทั้งสองพระองค์ตรัสชมว่ามีรสชาติดีเหมือนคาเวียร์หรือห่านหัวสิงห์ก็สามารถนำมาทดแทนเมนูไก่งวงที่สามารถนำมาทำเมนูฝรั่งได้หลากหลาย ทำให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เป็นที่นิยมของโรงแรมต่างๆ นำไปปรุงอาหาร” ดร.จรัลธาดากล่าว
อิ่มท้องด้วยช้อนรัก