“ฟอกซ์คอนน์”ใช้หุ่นยนต์ แทนแรงงาน 60,000 คน

AFP

“ฟอกซ์คอนน์” บริษัทผู้รับจ้างผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สัญชาติไต้หวัน ซึ่งผลิตชิ้นส่วนสำหรับไอโฟน, ไอแพด, ซัมซุงแกเล็กซี และโซนี่ เพลย์สเตชั่น4 เป็นอาทิ ประกาศนำหุ่นยนต์ทำงานอัตโนมัติมาใช้ในตำแหน่งงานรวม 60,000 ตำแหน่ง ในโรงงานผลิตแห่งหนึ่งของตน ซึ่งเป็นการเริ่มต้นกระบวนการเปลี่ยนแปลงวิธีการผลิตจากการใช้แรงงานคนไปสู่เครื่องจักรกลอัตโนมัติ ที่จะขยายเพิ่มออกไปมากขึ้นเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตาม ฟอกซ์คอนน์ย้ำว่า การนำเอาหุ่นยนต์วิศวการหรือนวัตกรรมเทคโนโลยีการผลิตใหม่ๆ อื่นๆ มาใช้ในการผลิตนั้นจะจำกัดอยู่แต่เฉพาะงานที่ทำซ้ำๆ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยใช้คนทำ ซึ่งจะส่งผลให้มีแรงงานเหลือสำหรับนำไปฝึกอบรมให้สามารถทำงานเน้นไปในภารกิจที่มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น อย่างเช่นในด้านการวิจัยและพัฒนา (อาร์แอนด์ดี), การควบคุมกระบวนการผลิต และการควบคุมคุณภาพ เป็นต้น โดยย้ำว่าจะยังคงใช้ประโยชน์จากทั้งแรงงานคนและหุ่นยนต์ควบคู่กันไป

ทั้งนี้ ในเวลานี้ฟอกซ์คอนน์จ้างงานแรงงานคนมากถึง 1.2 ล้านคน สำหรับใช้ในกระบวนการผลิตของตน

กรณีของฟอกซ์คอนน์ตอกย้ำให้เห็นแนวโน้มสำคัญของการนำหุ่นยนต์มาใช้ในกระบวนการผลิตและบริการ เมื่อไม่นานมานี้ เอ็ด เรนซี อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ แมคโดนัลด์ (สหรัฐอเมริกา) เคยชี้ไว้ว่า การจัดซื้อหุ่นยนต์ราคา 35,000 ดอลลาร์ มาใช้งานคุ้มค่าและมีประสิทธิผลมากกว่าการจ้างแรงงานชั่วโมงละ 15 ดอลลาร์ เพื่อทำหน้าที่แค่หยิบเฟรนช์ฟรายใส่ถุง

Advertisement

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา งานวิจัยของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดและเดอลอยต์ คาดการณ์ว่า แรงงานคนจะเสียตำแหน่งงานให้หุ่นยนต์ไปราว 35 เปอร์เซ็นต์ ใน 20 ปีข้างหน้า

แต่ทีมวิจัยของคาร์ล เบเนดิคท์ เฟรย์ กับ ไมเคิล ออสบอร์น เคยคาดการณ์ไว้ในปี 2013 ว่าหุ่นยนต์จะทำงานแทนคนงานในตำแหน่งงานราว 50 เปอร์เซ็นต์ทั่วโลกภายใน 40-50 ปี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image