อร่อยอินเทรนด์…จัดจ้านในย่านเตาปูน ‘ทิพย์รส’ ไอศกรีมโบราณ ตำนานความอร่อยยุคใหม่

รวม ๕ เมนูระดับตำนาน-อะเมซิ่งเมนู

อร่อยอินเทรนด์…จัดจ้านในย่านเตาปูน ‘ทิพย์รส’ ไอศกรีมโบราณ ตำนานความอร่อยยุคใหม่

ไอศกรีมโบราณ – ไม่ว่าจะฤดูไหน อากาศร้อน ดูจะเป็นเรื่องธรรมดาๆ ของคนไทย “ไอศกรีม” เลยเป็นเมนูของหวานดับร้อน ที่คนไทยโปรดปราน

ย้อนกลับไปปี พ.ศ.2513 “ทิพย์รส” ร้านไอศกรีมสไตล์ไทย เปิดให้บริการครั้งแรกในย่านเตาปูน แหล่งชุมชนเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่หนาแน่นไปด้วยพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน ท่ามกลางร้านอาหารเลิศรส จำนวนไม่น้อย ด้วยความเป็นไอศกรีมไทยแท้ดั้งเดิม ด้วยรสชาติที่โดดเด่น เนื้อละมุน เข้มข้น เป็นเอกลักษณ์

49 ปีผ่านไป ผู้บริหารรุ่นที่ 3 เสาวลักษณ์ โสภณธนวัฒน์ ได้ชักชวนเพื่อนๆ ทั้ง 7 ลุกขึ้นมาสานต่อบทใหม่ของ “ทิพย์รส” นำเอาเมนูไทยคาวหวานมาประยุกต์ใส่ไอศกรีม เพื่อเอาใจลูกค้าทุกรุ่นทุกวัย

Advertisement

ตรีทศพล วิจิตรกุล หนึ่งในผู้บริหารร้าน เผยว่า นับแต่เปิดร้านไอศกรีมทิพย์รส เรานำเสนอไอศกรีมที่มีเอกลักษณ์ ที่ความหอม ละมุน เนื้อสัมผัสของไอศกรีมไม่ใช่น้ำแข็ง แต่มีความนุ่ม และกลิ่นก็ชัดเจน เพราะเราใช้วัตถุดิบที่สดใหม่ เช่น ไอศกรีมกะทิ ก็ต้องใช้กะทิที่คั้นสดๆ หรือรสทุเรียน ต้องเป็นทุเรียนหมอนทอง เก็บในช่วงเวลาที่พอดีเพื่อให้กลิ่นชัด และไม่ใช้สารเคมี สารกันเสียใดๆ

“ลูกค้าหลายคนของเราเรียกว่าเป็นลูกค้าประจำ จากวัยรุ่น ก็กลายเป็นคุณลุงคุณป้า และคุณตาคุณยาย ที่ชอบพาครอบครัวมารับประทานพร้อมกัน บางคนมาซื้อกลับบ้าน สมัยนั้นยังไม่มีน้ำแข็งแห้ง ก็ไปหากล่องโฟมที่ใส่อาหารทะเลมาแบกไอศกรีมกัน จนเราทำกล่องโฟมทิพย์รสขึ้นมา กลายเป็นเอกลักษณ์ของร้าน”

ทีมผู้บริหารและหุ้นส่วนร้าน

ก้าวเข้าสู่ในร้าน เหล่าลูกค้าประจำต่างเลือกสรรเมนูเด็ดที่ครองใจมานาน เริ่มจาก “ทิพย์รสไข่แข็ง” เมนูดั้งเดิม ด้วยไอศกรีมราดซุปข้าวโพด รับประทานคู่กับไข่แข็งทั้งใบ ความพิเศษอยู่ที่ไข่แข็งที่ร้านนำไข่แดงทั้งใบ ตอกใส่ถาดแช่ฟรีซในตู้ตามสูตรโบราณ ไข่แข็งจึงออกมาเนื้อแน่น และไม่คาว แตกต่างจากร้าน อื่นๆ ที่มักจะตอกไข่ลงในไอศกรีมที่อุณหภูมิเย็นจัด เรียกว่ารับประทานรวมกัน หอม หวาน มัน พอดี

เมนูธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาจานต่อไป “กะทิทรงเครื่อง” ไอศกรีมกะทิรวมมิตรเข้มข้นแต่ไม่หวานมาก ที่กัดเข้าไปได้เนื้อลอดช่องและขนุนเต็มๆ มาคู่กับเครื่องเคียงอัดแน่น ทั้งลูกชิด ถั่ว เม็ดบัว เยลลี่แดง รวมถึงมะยมเชื่อม และมะม่วงเชื่อม ทำเอง

รวมไปถึงเมนู “ข้าวเหนียวทุเรียน” ไอศกรีมทุเรียนที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ เสิร์ฟกับข้าวเหนียวมูนสดและมะพร้าวขูด พิเศษที่เนื้อไอติม ร้านได้ผสมเม็ดทุเรียนที่ปั่นละเอียด ทำให้มีความกรุบเล็กน้อย และแม้จะเป็นไอศกรีมแบบไทยๆ แต่ก็อัดแน่นไปด้วยไอศกรีม 18 รสชาติ ทั้งกาแฟ กะทิรวมมิตร ชาเย็น งาดำ ชาเขียว และลิ้นจี่

รวม 5 เมนูระดับตำนาน-อะเมซิ่งเมนู
ปลากริมไข่เต่า กะทิหอม

 

และก่อนจะขยับเข้าสู่ปีที่ 50 ของ “ทิพย์รส” ผู้บริหารรุ่นใหม่ จึงอยากสร้างมิติใหม่ให้กับร้าน ด้วยการเผยเมนูใหม่ที่ยังคงอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยแฝงด้วยความโมเดิร์น จัดเต็ม 10 จาน 10 เมนู ให้จุใจในสไตล์ ทิพย์รส อเมซิ่งเมนู

ประเดิมด้วยเมนูว้าวๆ อย่าง “จตุมงคลจารึก” ที่ได้แรงบันดาลใจจากขนมไทย 4 ชนิดแรก ที่มีมาตั้งแต่สมัยแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ที่บันทึกไว้ในศิลาจารึกอย่าง ไข่กบ (เม็ดแมงลัก) นกปล่อย (ลอดช่อง) บัวลอย (ข้าวตอก) อ้ายตื้อ (ข้าวเหนียวดำ) ที่นำมามิกซ์กับไอศกรีม ราดด้วยกะทิ ที่โรยฝอยทองมาบนจาน หวานมันกำลังดี

เมนูต่อไป เรียกว่าจัดจ้านในย่านเตาปูน ที่นำเมนูดังของไทย “ต้มยำกุ้ง” มาปรุงรสใหม่เสิร์ฟเป็น รสแห่งสยาม ที่มีทั้งพริกแห้ง วุ้นตะไคร้ใบเตย รับประทานกับไอศกรีมนมสด เหมือนได้กิน ต้มยำน้ำข้น

“ถังทอง” ก็เรียกได้ว่าเป็นเมนูสุดคุ้นตา กับการเอาขนมถังแตกมารับประทานคู่กับไอศกรีมกะทิรวมมิตร บนแป้งถังทองที่มีเท็กซ์เจอร์ของมะพร้าวอ่อน โรยน้ำตาลและงาขาว งาดำคั่ว มีทั้งความหอม กลมกล่อม ไม่แพ้ใคร

เมนูยอดฮิตในยุคนี้อย่างไข่เค็มก็มีให้รับประทาน อย่าง “เหินห่าวชือ” ที่แปลว่าอร่อยมากในภาษาจีน ไอศกรีมชาไทย ที่ราดเยิ้มด้วยซอสไข่เค็ม รับประทานคู่กับขนมปังโบราณ ยิ้มเสน่ห์ ขนมไทยเชื้อสายจีนเลื่องชื่อ

ปิดท้ายด้วย เมนูประยุกต์แบบอินเตอร์ “หอมหมื่นไมล์” ไอศกรีมนมสด ราดซอสใบเตยเมเปิ้ล รับประทานคู่กับขนมปังปิ้งเนยสดร้อนๆ ที่ได้กลิ่นหอมของขนมปังมาแต่ไกล

รสแห่งสยาม
ถังทอง
วิจิตรไข่ฝอย หมี่กรอบส้มซ่า และหอมหมื่นไมล์

แต่ละเมนู มีรสชาติของไอศกรีมที่มีเนื้อเข้มข้น ไม่หวานเกินไป เมื่อรับประทานกับเครื่องต่างๆ รู้สึกพอดี เหมาะที่จะรับประทานกันหลายคน เพราะแต่ละจานไซซ์ไม่เล็ก คุ้มราคา

หอม ละมุน


ติดตามข่าวบันเทิงไลฟ์สไตล์ กับ Line@มติชนนิวเจน

เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image