สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ไอดีซี บริษัทด้านการสำรวจวิจัย เปิดเผยรายงานเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ระบุว่า ตลาดสมาร์ทโฟนโลกในปี 2559 นี้ จะเริ่มชะลอตัวลง และน่าจะเป็นปีแรกที่จะได้เห็นยอดขายไอโฟนที่ลดลง
ไอดีซีระบุว่า ยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลก จะเพิ่มขึ้นเพียง 3.1 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 1,480 ล้านเครื่อง หลังจากปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นถึง 10.5 เปอร์เซ็นต์ โดยประเทศที่จะได้เห็นการเติบโตเป็นเลขตัวเดียว ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ยุโรปตะวันตก และจีน ส่วนญี่ปุ่นและแคนาดา คาดว่าจะมีการเติบโตอยู่ที่ 6.4 และ 6.9 เปอร์เซ็นต์
โดยเหตุผลที่ทำให้สมาร์ทโฟนชะลอตัวเนื่องจากตลาดที่มีขนาดใหญ่เริ่มอิ่มตัว และผู้บริโภคเริ่มใช้สมาร์ทโฟนของตัวเองให้นานขึ้น เนื่องจากต้องจ่ายเงินค่าเครื่องเองแบบเต็มราคาโดยผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่ได้จ่ายเงินสนับสนุนเป็นส่วนหนึ่งของค่าเครื่อง
นายไรอัน รีธ จากไอดีซี กล่าวว่า ผู้บริโภคจากทุกที่มีความรู้ว่าจะซื้อสมาร์ทโฟนอย่างไร ซื้อจากที่ไหน ดังนั้น แทนที่จะซื้ออุปกรณ์จากผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ผู้บริโภคก็หันไปซื้อเครื่องโดยตรงจากผู้ผลิตหรือผ่านทางร้านค้าออนไลน์ ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ว่าต้องการแบรนด์ไหน ขณะเดียวกันก็สามารถต่อรองกับทางร้านค้าได้
ไอดีซีระบุด้วยว่า ตลาดสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์นั้น ยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดส่วนใหญ่ของสมาร์ทโฟนในปีนี้ โดยคิดเป็น 84 เปอร์เซ็นต์ของตลาดสมาร์ทโฟนทั้งหมดในปี 2559 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 81 เปอร์เซ็นต์ ส่วนแอปเปิลนั้น ปีนี้จะเป็นปีแรกที่ได้เห็นยอดขายไอโฟนลดลง โดยไอดีซีคาดว่าจะลดลงราว 2 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 227 ล้านเครื่อง อย่างไรก็ตาม ไอดีซีระบุว่า แอปเปิลจะสามารถฟื้นตลาดไอโฟนขึ้นมาให้เติบโตได้อีกครั้งในปี 2560 ด้วยโครงการเครื่องเก่าแลกเครื่องใหม่ รวมทั้งเครื่องที่มีราคาถูกลงอย่าง “ไอโฟน เอสอี”
สำหรับสมาร์ทโฟนที่เป็นวินโดวส์ โฟน แพลตฟอร์มนั้น จะยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีส่วนแบ่งในตลาดอยู่ที่ราว 0.8 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
