คนรุ่นใหม่เท่อย่างไทย ‘เยาวชนต้นแบบศิลปวัฒนธรรม’

gen01050659p1

เราต่างวิ่งให้ทันการหมุนของโลก พยายามเข้าถึงเทคโนโลยี พาตัวเองอยู่ในสื่อ ทุ่มเทเพื่อให้ชีวิตมีคุณภาพที่ดี ทุกการวิ่งไปข้างหน้า ภาพข้างหลังยิ่งเลือนรางกระทั่งในความทรงจำ ดั่งเช่นศิลปวัฒนธรรมไทยที่คนรุ่นใหม่กำลังลืมเลือน จึงเป็นที่มาของโครงการ “อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย” ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โดยคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ด้านศิลปะและวัฒนธรรม ในคณะ กมธ.การศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว

โดยโครงการได้แต่งตั้ง “เยาวชนต้นแบบอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย” จำนวน 4 คน ได้แก่ กานต์-กษิดิ์เดช หงส์ลดารมภ์ นักร้องยอดเยี่ยมแห่งประเทศไทย ประจำปี 2558 (ถ้วยรางวัลพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว) และแชมป์เคพีเอ็นครั้งที่ 24, เมสซี่เจ-ชนาธิป สรงกระสินธ์ นักฟุตบอลทีมชาติไทย, ป๊อป-ดลฤดี ปานดวง รางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เยาวชนคนเก่ง ปี 2558 และ เทนนิส-ภาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักเทควันโดหญิงทีมชาติไทย แชมป์เทควันโดหญิงโลกปี 2558 พร้อมกิจกรรมเสวนา เพื่อกระตุ้นเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้เข้าใจศิลปวัฒนธรรมไทยอย่างถูกต้อง ร่วมกันตระหนักและห่วงแหน อนุรักษ์สืบต่อไป รวมถึงภาคส่วนอื่นๆ โดยเฉพาะโรงเรียน มหาวิทยาลัย ตลอดจนกระทรวงศึกษาธิการ ที่จะตระหนักและหนุนเสริมวาระสำคัญดังกล่าว ณ อาคารรัฐสภา 2 กรุงเทพฯ

กษิดิ์เดช หงส์ลดารมภ์ หรือกานต์ เคพีเอ็น เล่าว่า ก่อนอื่นต้องขอบคุณโรงเรียนจิตรลดาที่ทำให้คุ้นเคยกับศิลปวัฒนธรรมไทย ตั้งแต่โขน นาฏศิลป์ ตลอดจนดนตรีไทย อีกทั้งทำให้ตนสามารถเล่นเครื่องดนตรีไทยได้ทุกชนิด ซึ่งก็ทำให้นึกถึงคำพูดที่ว่าคนไทยไม่กล้าที่จะบอกว่าตัวเองรำไทยเป็น ตัวเองเล่นดนตรีไทยเป็น เพราะรู้สึกอาย ซึ่งจริงๆ เป็นสิ่งไม่ควร

Advertisement

“ฝรั่งเขามาบ้านเรา เขายังงงว่าเครื่องดนตรีไทยทำด้วยไม้ เช่น ขลุ่ย ซอ ระนาด เล่นประกอบกันเป็นวง เขางงว่าสามารถเอาไม้มาทำได้อย่างนี้เลยหรอ เพราะบ้านเขายังต้องใช้เหล็ก ต้องใช้อะไร จริงๆ ต่างชาติไม่ได้มองไทยล้าสมัย แต่เราต่างหากที่มองตัวเราเองว่าล้าสมัย ทั้งที่เราควรใช้ตรงนี้เป็นจุดแข็งของตัวเราเองด้วยซ้ำ” กษิดิ์เดชเล่า ก่อนจะยอมรับว่า พักหลังเขาก็ค่อนข้างห่างเหินเครื่องดนตรีไทย เพราะไม่มีโอกาสเล่น

“ดนตรีไทยทุกวันนี้หาโอกาสเล่นยาก เพราะเดี๋ยวนี้เวลามีงาน เขาก็จ้างวงสตริงไป ไม่ได้จ้างวงที่เป็นเครื่องดนตรีไทย”

แม้เพิ่งเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยดนตรี มหาวิทยาลัยรังสิต แต่กษิดิ์เดชกำลังคิดใหญ่ โดยกำลังหาทางทำอย่างไรให้คนรุ่นใหม่ฟังดนตรีไทยได้ โดยมิใช่การบังคับ และไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อ โดยเขาคิดไว้ 2 แนวทางคือ 1.ทำดนตรีไทยให้เป็นอินเตอร์ และ 2.ทำดนตรีอินเตอร์ให้ดูไทย

Advertisement

“จากที่คิดการทำดนตรีไทยให้เป็นอินเตอร์ สุดท้ายก็เป็นเพลงป๊อปทั่วไป แต่กับเพลงอินเตอร์อย่างของจัสติน บีเบอร์ อีดีเอ็ม หากเพลงแบบนี้ใช้เครื่องดนตรีไทย เวลาฝรั่งมาฟังเขาจะถามว่านี่คืออะไร ชิ้นนี้คืออะไร อีกทั้งเป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่ฟังได้แน่นอน เพราะเป็นแนวที่ฟังอยู่แล้ว เพียงแค่สอดแทรกเสียงดนตรีไทยเข้าไป นี่เป็นไอเดียที่อยากจะทำ”

อย่างไรก็ตาม วัฒนธรรมไทยยังมีเรื่องการไหว้ การพูด การอ่อนน้อมถ่อมตนและเคารพต่อผู้ใหญ่ ซึ่งกษิดิ์เดชบอกว่า “หลังจากเป็นทูตวัฒนธรรมแล้ว ทุกการกระทำจากนี้จะต้องดี การไหว้ ทำความเคารพ อ่อนน้อมถ่อมตนไม่ว่าจะเดินไปไหน” อีกทั้งยังเชิญชวนคนรุ่นใหม่มาร่วมกันอนุรักษ์วัฒนธรรมแบบฮึกเฮิมว่า “ถ้าคุณรักประเทศไทย รักวัฒนธรรมไทย ก็แสดงออกมาเถอะ”

gen01050659p3

ขณะที่ เทนนิส-ภาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เล่าว่า วัฒนธรรมไทยเปลี่ยนไปเยอะ ผู้หญิงไม่แต่งกายมิดชิด ไม่รักนวลสงวนตัวเหมือนแต่ก่อน อาจด้วยไม่มีตัวอย่างให้ดู ตรงนี้เป็นสิ่งที่ตนจะทำให้ดู อย่างเวลาไปแข่งขันต่างประเทศ จะทำให้ดูว่าประเทศเราแต่งตัวเรียบร้อย มีสัมมาคารวะ ยิ้ม และไหว้ให้ทั่วโลกรู้จักในเอกลักษณ์คนไทย

ป๊อป-ดลฤดี ปานดวง เล่าว่า การแต่งกายให้ถูกกาลเทศะเป็นเรื่องใหญ่ ที่ผ่านมาบ้านเราเปิดกว้างด้านแฟชั่นมาก ทำให้เด็กเยาวชนรุ่นใหม่มีการแต่งกายไม่เหมาะสม โดยเฉพาะผู้หญิง เช่น ชุดนักศึกษา หรือแต่งกายไปวัดด้วยกระโปรงหรือกางเกงที่สั้น ฉะนั้นจะเป็นแบบอย่างที่ดีในด้านการแต่งกาย เพื่อแสดงให้เห็นว่าการแต่งกายที่เรียบร้อยเหมาะสม จะส่งเสริมภาพลักษณ์ของตัวเองให้น่ามอง และไม่ก่อให้เกิดอาชญากรรมได้ทางหนึ่งอีกด้วย

ถัดมาที่คนสุดท้ายซึ่งหากใครได้ติดตามจะพบว่าเขามีอุปนิสัยขี้เล่น แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน ไหว้ทุกคนเพื่อเป็นการทักทาย และรวมไปถึงท่าทางแสดงความดีใจ

เมสซี่เจ-ชนาธิป สรงกระสินธ์ เล่าว่า คุณพ่อจะสอนให้รู้จักไหว้ รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน มีสัมมาคารวะต่อผู้ใหญ่ ซึ่งก็ปฏิบัติตามอย่างนั้นมาตลอด ไม่ว่าจะรุ่นพี่ โค้ช หรือกระทั่งเพื่อนๆ นักกีฬาด้วยกัน ทั้งนี้ สิ่งที่พบกลับมาคือ ผู้ใหญ่จะเอ็นดูเรา รักเรา และให้โอกาสเรา ฉะนั้นก็อยากเชิญชวนคนรุ่นใหม่มาร่วมรักษาศิลปวัฒนธรรมไทย โดยเฉพาะการไหว้ที่ทำได้ง่ายที่สุด เป็นวัฒนธรรมไทยที่เป็นเอกลักษณ์เวลาชาวต่างชาติเห็นก็รู้ได้ว่านี่คือวัฒนธรรมไทย

“การอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยเริ่มต้นได้ที่บ้าน ครอบครัวจะต้องเป็นผู้ปลูกฝังตั้งแต่ลูกหลานยังเป็นเด็ก และผู้ใหญ่จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดี ในฐานะที่เป็นคนไทยเราก็ควรมีความตระหนักเห็นคุณค่าและสืบทอดให้วัฒนธรรมไทยอยู่ต่อไป” ชนาธิปกล่าวทิ้งท้าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image