ทุกหยาดเหงื่อสู้เพื่อลูก ‘รักของแม่’ ไร้เงื่อนไข ถอดเรื่องราวจากหัวใจ ‘แม่ดีเด่น’

รักของแม่ เพื่อลูก

อิ่มเอมไปทั้งดวงใจ เมื่อได้ฟังเรื่องราวของ “แม่ดีเด่น” ที่สะท้อนให้เห็นถึงความ “รักของแม่” ว่าเป็นรักที่ไม่มีเงื่อนไข และพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อแก้วตาดวงใจ

มหาวิทยาลัยมหิดล จึงจัดงาน “มหิดล-วันแม่” ประจำปี 2562 โดยมีกิจกรรมไฮไลต์คือคัดเลือกรางวัล “แม่ดีเด่น” ใน 4 ประเภท แม่สู้ชีวิต, แม่ 100 ปี, แม่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และแม่ดี-บุคลากรเด่น เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และเชิดชูบทบาทของแม่ โดยคณะกรรมการได้ออกไปลงพื้นที่สำรวจดูสภาพความเป็นจริง และสัมภาษณ์เพิ่มเติมจนได้ข้อมูลตรงกับเกณฑ์ที่กำหนดไว้ จึงพิจารณาให้เป็นผู้ได้รับรางวัล

การนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จไปทรงเป็นประธานเปิดงานและพระราชทานรางวัลแม่ดีเด่น ทั้งหมด 24 ราย ณ สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา

Advertisement

แม่อรุณศรี ถาวร อายุ 45 ปี ชาวเชียงใหม่ “แม่สู้ชีวิต” ที่ต้องรับภาระหนักหลังแยกทางกับสามี แบกรับหนี้สินที่สามีทิ้งไว้และเลี้ยงดูลูก 2 คนที่ยังเล็ก ขณะที่ตัวเองก็สุขภาพไม่ดีนัก แต่ก็บอกตัวเองเสมอว่าต้อง “สู้เพื่อลูก” อรุณศรีมีอาชีพหลักคือปลูกข้าวโพด ซึ่งต้องใช้แรงกายอย่างหนักทำให้สุขภาพร่างกายเริ่มเสื่อมถอย และรายได้ก็ไม่เพียงพอ เธอจึงต้องออกไปรับจ้างเพิ่มเติม ส่วนลูกทั้งสองก็กู้เงินเรียน ทั้งนี้เธอสอนลูกเสมอว่า “ต้องเป็นคนดี และประหยัด เพราะเรามีน้อยต้องใช้น้อย ต้องบริหารเงินให้เป็น”

อรุณศรี ถาวร และลูกสาวด้วยหยาดเหงื่อ และคำสอนของ “แม่” ลูกๆ จึงได้ดี ชีวิตของ แม่ย่อง บัญชาพัฒนศักดา อายุ 77 ปี ชาวพัทลุง แม่สู้ชีวิตเพื่อเลี้ยงลูก 6 คน อาศัยการเย็บเสื้อผ้าหารายได้ โดยทำทั้งวันทั้งคืน เพราะแม่ย่องตั้งเป้าว่าลูกทุกคนจะต้องได้เรียนหนังสือจนจบ ม.6 และตนไม่มีทรัพย์สินอะไรเลย ต้องหารายได้จากน้ำพักน้ำแรงเท่านั้น ด้วยเหตุนี้แม่ย่องจึงสอนลูกๆ ทุกคนว่า

Advertisement

“ต้องตั้งใจเรียน จะได้ไม่ลำบากเหมือนแม่ และไม่ว่าจะทำงานอะไรก็ตามต้องอดทน”

ย่อง บัญชาพัฒนศักดา

นอกจากนี้ แม่ย่องยังตั้งกฎของบ้านว่า ลูกๆ ทุกคนต้องกินมื้อเช้าก่อนไปโรงเรียนทุกคน แบ่งเวรกันทำงานบ้านและกลับมากินมื้อเย็นร่วมกัน เพื่อที่แม่จะได้รับฟังปัญหาของลูกๆ จนกระทั่งแก้วตาดวงใจของแม่ย่องเติบโตมาอย่างมีคุณภาพ มีหน้าที่การงานที่ดี

แม่คำ พยัคฆา อายุ 59 ปี ชาวลำปาง แม่สู้ชีวิต ประเภทแม่ของลูกพิการ ที่ยืนหยัดและทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกสาวคนเล็กมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ด้วยลูกคนเล็กมีพัฒนาการช้า ไม่สมกับวัย ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องดูแลตลอด 24 ชั่วโมง และด้วยอาชีพเป็นกรรมกรก่อสร้าง ย้ายสถานที่ทำงานเรื่อยๆ ต้องฝากญาติดูแล ใจของแม่ก็ห่วงหา สามีที่เป็นเสาหลักยังเสียชีวิตจากโรคร้าย แม่คำจึงต้องทำงานหนักเป็น 2 เท่า ซึ่งเธอไม่เคยท้อ ตัดสินใจออกจากงานมาดูแลลูกอย่างใกล้ชิด โดยมีความหวังว่าวันหนึ่งลูกจะสามารถดูแลตัวเองได้ในยามที่แม่จากไป

คำ พยัคฆา และลูกสาวทั้งสอง

ด้าน แม่สุวรรณี พรหมประสิทธิ์ อายุ 55 ปี ชาวนครสวรรค์ แม่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หรือครูแมว ของเด็กๆ ได้บูรณาการวิชาชีพและความสนใจด้านสิ่งแวดล้อมสอนให้เด็กๆ ในชั้นเรียนได้เรียนวิชาเกี่ยวกับธรรมชาติ ทั้งยังทำงานร่วมกับชุมชนในการเฝ้าระวังไฟป่า โดยแม่สุวรรณยังสอนให้ลูกๆ รู้จักธรรมชาติและเข้าร่วมกิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติเสมอ เพื่อถ่ายทอดการรู้รักษ์ป่าอย่างยั่งยืนจากรุ่นสู่รุ่น

สุวรรณี พรหมประสิทธิ์

ปิดท้ายด้วย คุณยายจำรัส รัชตะชาติ อายุ 102 ปี ชาวกรุงเทพฯ เจ้าของรางวัลคุณแม่ 100 ปี ที่แม้จะอายุมากแล้วแต่ยังมีสุขภาพดี ไม่มีโรค ได้แง้มบอกเคล็ดลับการดูแลสุขภาพว่าต้องอารมณ์ดี ไม่โกรธ ไม่หลง โดยใช้ธรรมะกล่อมเกลาจิตใจ และคุณยายยังสอนลูกหลานเสมอว่า “ให้เป็นคนดีทั้งทางโลกและทางธรรม ทำอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ ทุกอย่างจะดีเอง”

จำรัส รัชตะชาติ คุณแม่ร้อยปี


รางวัลเพื่อแม่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image