อร่อย ‘อาหารญี่ปุ่น’ ดั้งเดิม ‘สุกี้ยากี้’ สไตล์คันไซ (คลิป)
คอลัมน์ อร่อยอินเทรนด์
เป็นเมนูโปรดของหลายคนกับเมนู “สุกี้ยากี้” ที่มักจะรับประทานกันในแบบน้ำซุปเต็มหม้อ ใส่ผัก ใส่เนื้อ ใส่ไข่ ลงไป เป็นสุกี้แบบไทยๆ ที่คุ้นเคยกันมานาน
แต่ถ้าใครอยากหลีกหนีความจำเจ มาลิ้มลองสุกี้แนวใหม่ ร้าน “สุกี้ มาสะ” (SUKI MASA) ได้นำ “สุกี้ญี่ปุ่น สไตล์คันไซ” (Japanese Sukiyaki Kansai Style) สุกี้แบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่มีมากว่า 100 ปี มาให้คนไทยได้ลิ้มรส
เก๋-ศริสา นฤปกรณ์ เจ้าของร้านสุกี้ มาสะ กล่าวว่า ร้านนี้เกิดจากความชื่นชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่น หลังจากเปิดร้านซูชิ มาสะ มาแล้ว 4 สาขา ก็อยากจะมาเปิดร้านสุกี้เอาใจสายสุขภาพ โดยเน้นการปรุงรสและคัดสรรวัตถุดิบจากธรรมชาติ ที่สดใหม่ รวมไปถึงไม่ใช้ผงชูรสในการปรุงอาหาร
บรรยากาศภายในร้าน เรียกว่ายกความเป็นญี่ปุ่นขนานแท้มาไว้ในห้างสรรพสินค้า โดยได้แรงบันดาลใจมาจากเมืองเกียวโต ที่มีบ้านโบราณ ตรอกร้านขายอาหารเล็กๆ เมื่อเข้ามาแล้ว เหมือนย้อนอดีตกลับไปญี่ปุ่นเมื่อ 100 กว่าปี
ไม่เพียงบรรยากาศ ศริสายังนำวัฒนธรรมการกินสุกี้แบบดั่งเดิมของญี่ปุ่นมาให้คนไทยได้สัมผัสแบบไม่ต้องบินไกลไปถึงเจแปน
“ญี่ปุ่นจะแบ่งอาหารเป็นภูมิภาค แถบคันไซ ที่มีโอซาก้า เกียวโต นารา มีวัฒนธรรมในการกินสุกี้แบบดั้งเดิม ที่รับประทานน้ำซอสแบบขลุกขลิก ขณะที่ถ้าเป็นแถบโตเกียว จะมีน้ำซุปเยอะแบบบ้านเรา
“การรับประทาน จะเริ่มตั้งแต่ผสมซอสบนเตา โดยมีน้ำตาล โชยุ สาเก จากตรงนี้ เรามาเปลี่ยนมาเป็นผสมทั้ง 3 อย่างเข้าด้วยกันเป็นซอส เรียกว่าซอสวาริชิตะ และใส่ซอสนี้ลงไปในกระทะสุกี้ก่อน แล้วใส่เนื้อลงไป โดยที่เราไม่ใส่น้ำซอสเยอะจนเหมือนเนื้อต้ม แต่จะให้ขลุกขลิกเล็กๆ รสชาติน้ำซอสจะถูกดูดเข้าไปในเนื้อ เมื่อเนื้อสุกกำลังดีแล้ว ก็นำเนื้อมาจิ้มกับไข่ดิบ แล้วทานได้เลย ซึ่งทุกขั้นตอน จะมีพนักงานเป็นผู้ทำให้”
อย่างไรก็ตาม ถ้าใครไม่สะดวกไข่ดิบ ก็อาจเลือกเป็น “ไข่ลวก” ได้
แต่ถึงอย่างนั้น เจ้าของร้านก็อยากให้ลองแบบดั้งเดิม “เพราะด้วยตัวซอสที่รสชาติเข้มมาก เมื่อจิ้มกับไข่ดิบ รสชาติจะออกมาพอดีกัน หอมๆ มันๆ อร่อยอีกแบบ”
ความแปลกใหม่ยังไม่หมดเท่านี้ เพราะวัฒนธรรมการทานสุกี้แบบคันไซ จะเริ่มทานเนื้อก่อนอันดับแรก จากนั้นตามด้วยผักและเครื่องเคียง เช่นเต้าหู้ ปิดท้ายด้วยข้าว
“คนญี่ปุ่นจะไม่ทานทุกอย่างพร้อมๆ กันแบบเรา และเมื่อรับประทานเนื้อ และผัก แล้ว ซอสที่เหลือในกระทะก็สามารถนำมาทำข้าวผัดไข่ หรือออมเล็ต รับประทานตบท้ายได้”
อีกหนึ่งความพิเศษของร้านคือ ได้คัดสรรเนื้อวากิว (Wagyu) ระดับพรีเมียม A4 และ A5 ส่งตรงจากญี่ปุ่น ที่มีความนุ่มละลายในปาก มาให้ลิ้มลอง
เรียกว่าได้มาสัมผัสวิถีแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ที่ทั้งสนุกในการกิน และอร่อยในการทาน ไปพร้อมๆ กัน
“เราเน้นสุขภาพเป็นหลัก ในชุดสุกี้ 1 ชุดจะมีครบทั้ง 5 หมู่ ประกอบด้วยผักสด ผักสลัด เนื้อ น้ำซุป ข้าว น้ำจิ้ม ซึ่งเราจะมีพนักงานประจำโต๊ะคอยทำปรุงอาหารให้” ศริสาย้ำ
สำหรับ “สายชาบูชาบู” (Chabu Chabu) ที่นี่ก็มีพร้อมเสิร์ฟ พิเศษด้วยน้ำซุป 4 ชนิดมาให้เลือกสรร อาทิ “ซุป ทงคัตซึ คอลลาเจน” ที่ใช้เวลาในการต้มและเคี่ยวนานกว่า 8 ชั่วโมง จนได้น้ำซุปเข้มข้นอุดมด้วยคุณประโยชน์และคอลลาเจนจากไขกระดูก
“วิธีทานชาบูชาบู ก็จะคล้ายกับของไทยที่ใส่ทุกอย่างลงไปในน้ำซุปแล้วตักทาน แต่จะปิดท้ายด้วยการนำข้าวไปต้มกับน้ำซุปที่เหลือ ให้ได้ทานข้าวต้มตบท้าย”
ใครที่ไม่กินเนื้อ ก็ไม้ต้องกังวลไป เพราะทั้งสุกี้และชาบูชาบู ทางร้านมีทั้ง เนื้อวัว เนื้อหมู และอีกสารพัดเนื้อให้เลือกรับประทานกันได้อย่างอิ่มเอม
เมนูเด็ดยังมีอีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น “นาเบะ กิมจิ” (Nabe Kimchi) อาหารเกาหลีสไตล์ญี่ปุ่น ความพิเศษอยู่ที่เนื้อหมูหมัก ที่มาพร้อมน้ำซุปรสกิมจิ รวมไปถึง สเต๊กบัตเตอร์ ยากิ, ข้าวผัดปลาแซลมอน, อุด้งร้อน-เย็น, เทมปุระ, ข้าวหน้าต่างๆ, ซูชิ, ซาชิมิ ที่หั่นหนาๆ เต็มๆ คำ และขนมญี่ปุ่นอย่างคุซุคิริ แป้งเย็นเนื้อหนึบๆ จิ้มกับไซรัปน้ำตาลทรายแดงผสมผงขิง โรยด้วยถั่วเหลืองป่น หวานๆ มันๆ อร่อยแบบรสชาติญี่ปุ่นขนานแท้
“สูตรอาหารต่างๆ เหล่านี้ แม้จะได้สูตรและทักษะมาจากเซ็นเซชาวญี่ปุ่น แต่เราก็นำมาปรับให้เข้ากับคนไทย เป็นอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิม ที่ถูกปากคนไทย มารับประทานแล้ว นอกจากได้ความอร่อย ก็ได้สุขภาพกลับไปด้วย” ศริสาทิ้งท้าย
ร้านสุกี้ มาสะ เปิดให้บริการเวลา 10.30-22.00 น. บริเวณชั้นจี ฝั่งนอร์ท ศูนย์การค้าสยามพารากอน
