ปังมากแม่ คุย ‘ผู้หญิงในหัวใจ’ พีช-พชร ‘ส้ม-ชนัดดา’
ส้ม-ชนัดดา – จะไม่เรียกว่า “ปัง” ได้อย่างไร เพราะลูกก็ 3 อายุก็แตะเลข 5 แล้ว แต่ ส้ม-ชนัดดา จิราธิวัฒน์ คุณแม่ของหนุ่มฮอต พีช-พชร จิราธิวัฒน์ ก็ยังสวยไม่สร่าง
ดูเหมือนว่ายิ่งเวลาผ่านไปคุณแม่ลูกสามคนนี้ก็ยังคงความสาวและความสวย กาลเวลาทำอะไรเธอไม่ได้จริงๆ
จนหลายๆ คนเห็นคุณแม่คนสวยออกงานพร้อมกับลูกๆ ที่นอกจากหนุ่มพีชแล้วยังมีลูกสาวคนโต แพร-พิมพิศา และลูกสาวคนเล็ก พาย-เขมณัฏฐ์ จิราธิวัฒน์ ก็อดที่จะทักไม่ได้ว่า “นี่คุณแม่หรือพี่สาว”
ชนัดดาให้สัมภาษณ์ถึงเทคนิคการดูแลความงามในงานฉลองครบรอบ 7 ปี เดอะ ทัช คลินิก ก่อนจะมีข่าวการหย่าร้างกับธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ว่า ต้องเริ่มต้นจากการรับประทานเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะของทอดที่ควรเลี่ยง ดื่มน้ำเยอะๆ ส่วนในมื้อเย็นก็จะทานไวขึ้นไม่เกินเวลา 16.00 น. และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แม่ส้มก็แอบกระซิบมาว่า จริงๆ แล้วชอบของทอดมาก เพื่อความสุขแล้วบางทีก็ต้องมีชีทเดย์กันบ้าง แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ “ต้องมีวินัย” และ “ออกกำลังกายให้เหมาะสม” โดยใน 1 สัปดาห์ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 3 วัน และเลือกออกกำลังกายแบบผสมผสาน หลังออกกำลังกายต้องมีการยืดเส้นและผ่อนคลายกล้ามเนื้อด้วย ซึ่งมาลงตัวที่การเล่น “โยคะ”
นอกจากจะดูแลรูปร่างและสุขภาพตัวเองเป็นอย่างดีแล้ว แม่ส้มยังดูแลและเลี้ยงดูลูกๆ ได้เป็นเลิศไม่แพ้กัน เพราะแต่ละคนต่างเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะ “พีช พชร” ที่ได้รับกำลังใจและคำชื่นชมจากสังคมมากมายในการวางตัวและการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน
ชนัดดาเผยเคล็ดลับการเลี้ยงลูกว่า ให้ความสำคัญตามแต่ละช่วงวัย เช่น ตอนที่ยังเป็นเบบี๋ ก็จะใส่ใจเรื่องอาหารการกิน การดูแลเรื่องความสะอาดปลอดภัยมากหน่อย พอลูกๆ โตขึ้นถึงวัยที่เข้าโรงเรียนก็จะเริ่มงอแง ก็ต้องมีวิธีรับมือกับเขา ตลอดจนเสริมเรื่องการเรียน การทำกิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะ และกีฬาให้เหมาะสมตามช่วงวัย ในช่วงมัธยมศึกษา เริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ตรงนี้ต้องใช้เวลาร่วมกับเขาเยอะๆ เพราะเป็นช่วงที่เขาเข้าสู่การเปลี่ยนผ่าน
“ให้เขารู้สึกว่าเราเป็นเพื่อนเขา ไม่ใช่เป็นคุณแม่อย่างเดียว”
“ส้มจะเลี้ยงลูกอย่างเป็นธรรมชาติ ให้เขาได้เป็นตัวของตัวเอง ได้ทำในสิ่งที่ชอบ” ชนัดดากล่าวด้วยรอยยิ้ม และว่า ส่วนการเลี้ยงลูกผู้ชายกับลูกผู้หญิงนั้นต่างกันอยู่แล้ว การเลี้ยงลูกผู้ชายก็จะเน้นลุยๆ หน่อย เพื่อให้เขาจะได้แมนๆ ทรหดอดทนขึ้น จึงจะเน้นเรื่องการเล่นกีฬาเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม แฟมิลี่ไทม์ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะกิจกรรมสุดโปรดของครอบครัวคือ “ชวนกันไปกิน”
ชนัดดาเล่าด้วยน้ำเสียงสดใสว่า พอลูกโตแล้วเขาก็ทำงาน หาเวลาว่างตรงกันยาก แต่หากมีเวลาก็จะชวนกันไปหาของอร่อยทาน เดินเล่น ดูหนัง ช้อปปิ้ง และท่องเที่ยวด้วย
“หากว่างตรงกันสองสามคนก็จะจัดทริปสั้นๆ ไปก่อน ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ หรือหากส้มอยากทำบุญ ลูกๆ ก็จะไปเป็นเพื่อน ส้มใช้เวลากับลูกๆ เยอะมาก เราจะมีไลน์กลุ่มครอบครัว ใครไปไหนเจออะไรก็จะมาแชร์กัน อย่างเขาจะรู้ว่าแม่ชอบเรื่องบิวตี้ เจออะไรที่ดีๆ ก็จะส่งมาให้” คุณแม่คนสวยกล่าว และพูดถึงลูกๆ แต่ละคนด้วยความรักว่า
“น้องแพรเป็นพี่สาวคนโต เขาดูแลน้องๆ ได้ดี แถมยังดูแลเผื่อแผ่มาถึงคุณแม่ด้วย มีความรับผิดชอบสูง และอยู่ในระเบียบ ส่วนน้องพีชคนกลาง ก็จะซนๆ ซ่าๆ ตามประสาลูกผู้ชาย ส่วนน้องพายคนเล็ก จะติดพี่สาวและพี่ชายมาก ตอนนี้ชอบเล่นดนตรีและชอบไปดูคอนเสิร์ต”
“ในการเลี้ยงลูก ส้มจะไม่ได้สอนลูกตลอดเวลาแบบที่เจอแล้วต้องสอน เพราะไม่อยากให้ดูจงใจ หรือซีเรียสไป ด้วยการเลี้ยงลูกในสมัยนี้จะเลี้ยงเหมือนยุคสมัยเราไม่ได้ เราก็ต้องปรับให้เข้ากับยุคด้วย เพราะเขาจะมีอิสระทางความคิด และเป็นตัวเองมาก ฉะนั้นบางครั้งส้มจะหยิบยกเอาสิ่งที่เจอในแต่ละวันที่มีกิมมิคมาเล่าให้ลูกฟัง เพื่อที่จะเป็นการสอดแทรกการสอนเข้าไปในตัว”
แล้วในช่วงเวลาที่ลูกๆ มีปัญหา คุณแม่มีวิธีสังเกตและช่วยเหลือยังไง?
ชนัดดากล่าวว่า ส้มเลี้ยงลูกๆ มาตั้งแต่เด็ก จะรู้ว่าช่วงไหนลูกเหนื่อย เพราะตามประสาคนเป็นแม่ก็จะคอยสังเกตอยู่แล้ว มีอะไรผิดปกตินิดนึงก็จะรู้แล้ว
“เวลาที่ห่วงสุขภาพเราก็จะช่วยหาอาหารเสริมให้เขา คอยดูแลเรื่องอาหาร เวลาที่เขาดูเครียดๆ ส้มก็ไม่ได้เข้าไปถามตรงๆ ว่ามีอะไรเครียดหรือเปล่า แต่เราก็คอยดูตลอด ดูห่างๆ อย่างห่วงๆ บางครั้งก็ต้องมีเทคนิคในการเข้าไปชวนคุยหน่อยให้เขาไม่รู้สึกอึดอัด เพราะเลี้ยงเด็กสมัยนี้จะตึงเกินไปไม่ได้ ให้เขารู้สึกสบายใจ ไม่มีกำแพงกับเรา” แม่ส้มกล่าว และทิ้งท้ายว่า
“ส้มมองว่าการเลี้ยงลูกสมัยนี้ก็อาจจะยากขึ้น ด้วยมีสื่อที่หลากหลายมาอย่างจัดเต็ม และคนเสพสื่อมากขึ้น พ่อแม่ต้องให้เวลากับลูกเยอะๆ คอยดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะจะช่วยให้เห็นและเข้าใจลูกได้ดีขึ้นว่าเขาเป็นยังไง มีปัญหาอะไร และมีพัฒนาการอะไรที่ต้องเสริม”
รักลูกอย่างเข้าใจ
