ธนวัฒน์ ยันสิทธิ์จัดประกวดนางสาวไทยถูกต้อง แจงปมดราม่าค้างค่าจัดงาน ไม่ตั้งใจเบี้ยว คุยกันได้
ลิขสิทธิ์นางสาวไทย – จากกรณี นางสาวณัฐกาญจน์ เสนเนียม บุตรสาวนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและกลุ่มผู้สนับสนุนจัดการประกวด ประจำจังหวัดและภูมิภาค เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.มงคล พรมโสภา รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. ให้ดำเนินคดีกับกรรมการผู้จัดการ บริษัทแห่งหนึ่ง กรณีแอบอ้างว่าเป็นผู้ได้ครองลิขสิทธิ์การประกวดเวทีนางสาวไทย ส่งผลให้ตกเป็นผู้เสียหายจากเวทีนางงามดังกล่าว รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
นายธนวัฒน์ วันสม ประธานกรรมการบริษัททีดับเบิลยู เพเจ้นส์ ซึ่งเดินทางมาร่วมชมการประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2562 กล่าวว่า อันดับแรกขอยืนยันเรื่องการถือครองสิทธิ์โดยบริษัททีดับเบิลยู แคทปิตอล ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ได้ดำเนินการทุกอย่างทุกต้องตามกฎหมายตามสิทธิ์ที่ได้รับมอบหมายต่อมาจากบริษัทนาการ่า ผู้ที่ไปร้องเรียนมีอยู่ประมาณ 2-3 กลุ่ม กลุ่มแรกนำโดยคุณณัฐกาญจน์ เสนเนียมที่เคยเป็นพาร์ทเนอร์ในการร่วมดำเนินการ มีประเด็นหลาย ๆ อย่างที่ดำเนินการด้านกฎหมายต่อไป เพราะมีการกล่าวอ้างถึงหลาย ๆ อย่างที่ไม่เป็นข้อเท็จจริง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในส่วนของกลุ่มที่อ้างว่าได้รับความเสียหาย อย่างเช่นผู้จัด ที่ได้ซื้อสิทธิ์ระดับจังหวัด ยืนยันในความถูกต้องของการมอบสิทธิ์ความถูกต้องในการดำเนินงานทุกอย่าง และได้มีการดำเนินการทุกอย่างครบถ้วนถูกต้อง ไม่ได้มีผลกระทบอะไร เห็นได้จากการที่มีหลายๆจังหวัดที่ได้รับสิทธิ์ไป และนางงามของเขาก็ได้เป็นตัวแทน นางงามมาสู่รอบชิงชนะเลิศ ไม่ได้เสียหายอะไร
นายธนวัฒน์ กล่าวต่อในส่วนประเด็นที่บอกว่า ไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง นั้น คือประเด็นที่กล่าวอ้างว่าทีดับเบิลยู แคปปิตอล ไม่มีสิทธิ์ในการดำเนินการตรงนี้ ยืนยันว่ามีสิทธิ์ที่ถูกต้อง และยืนยันว่าไม่ได้เป็นการกระทำที่ฉ้อโกงแต่อย่างใด ผู้ที่เข้าร่วมโครงการมาถึงจุดนี้ก็น่าจะเห็นแล้วว่าโครงการที่เราจัดตั้งแต่วันแรกมาถึงวันนี้ ครบถ้วนถูกต้องทุกอย่าง
นายธนวัฒน์ กล่าวอีกว่า กรณีการเซ็นสัญญาเป็นวชิราวุธเซ็นกับนาการ่าและนาการ่ามอบสิทธิ์ให้กับ ทีดับเบิลยู เป็นผู้ดำเนินการ รูปเซ็นสัญญาในวันแถลงข่าว ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ซึ่ง คุณณัฐกาญจน์ เสนเนียม ก็ทราบดีเพราะอยู่ในเหตุการณ์ ร่วมประชุมและเป็นบริษัทที่เรามอบให้เป็นออแกไนซ์ในการจัดงานในวันนั้นด้วย ซึ่งสัญญามีการมอบกันหลายช่วงหลายตอน ซึ่งในสัญญาสามารถทำได้ และผู้ใหญ่รับรู้รับทราบ ซึ่งในการดำเนินการที่ผ่านมา ก็มีการรายงานความคืบหน้าในการจัดประกวดอย่างต่อเนื่องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องรับทราบตลอด รูปที่เซ็นสัญญาในวันนั้นเป็นแค่ส่วนหนึ่ง แต่ยังมีส่วนอื่นๆอีก ทั้งเซ็นเป็นคู่สัญญาและเซ็นเป็นพยาน แต่ขอยืนยันว่าเอกสารทุกอย่างครบถ้วนตรวจสอบได้
“ส่วนกรณีที่ มีผู้เสียหายที่มาแจ้งความส่วนหนึ่งอ้างว่าได้รับความเสียหายจากการที่มีแถลงข่าวว่าจะมีการออกอากาศรายการนางสาวไทยผ่านทางสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ขอชี้แจงว่าส่วนตัวไม่เคยเจอผู้จัดระดับจังหวัดเลย เพราะหน้าที่ในการซื้อขายลิขสิทธิ์มีตัวแทนคอยดำเนินงาน ช่วงประสานงานแทบไม่ได้ไปยุ่งอะไรเลย ในสัญญาระบุไว้อย่างชัดเจนอยู่แล้วว่าสิทธิ์ที่คุณซื้อไปคืออะไร หลัก ๆ คือเพื่อจัดงานในจังหวัด ในสัญญาไม่ได้มีการพูดถึงประเด็นเรื่องสื่อ ทั้งนี้เรื่องพยานหลักฐานเอกสารต่าง ๆ เรามีความมั่นใจ และในการดำเนินการเรื่องต่าง ๆ ถ้าไม่มีมูล หรือจงใจให้เกิดความเสียหาย ต่อตัวผมเองและชื่อเสียง ขอสงวนสิทธิ์ดำเนินการตามกฎหมายเช่นกัน”
นายธนวัฒน์ กล่าวอีกว่า กรณีค้างค่าดำเนินการจัดงานต่างๆ ตัวเองได้รับทราบแล้ว และไม่ได้ปฏิเสธอะไรแต่คิดว่าควรมาคุยกัน ผู้ร้องเรียนน่าจะพอทราบว่ามีประเด็นเรื่องสปอนเซอร์ ที่มีการนำพาซึ่งปัญหาต่างๆ ไม่ได้ตั้งใจจะเบี้ยว เพราะไม่อย่างนั้นตนคงไม่กล้ามางานนี้ตามปกติ ทางวชิราวุธก็รับทราบถึงปัญหาดีอยู่แล้วเพราะมีการรายงานถึงปัญหาตลอด มาจนถึงวันนี้การที่มีการคืนสิทธิ์และการดำเนินการต่าง ๆ เป็นการยอมรับจากทุกฝ่าย ที่พอการประกวดเดินทางมาถึงรอบสุดท้าย แล้วตัดสินใจคืนสิทธิ์การประกวด เนื่องจากผมคิดว่า ภารกิจหลักได้ผ่านไปแล้ว ส่วนประเด็นปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น เป็นปัญหาภายใน แต่เมื่อมีการนำพามาสู่สาธารณชน และมีประเด็นที่กระทบถึงตัวผมเองเพื่อจงใจให้เสียหายในการใดก็แล้วแต่ คงต้องลงมาปกป้องสิทธิของตัวเอง คิดว่าตัวเองทำทุกอย่างดีที่สุดอย่างให้ดูที่ผลงานที่เกิดขึ้น ตอนนี้งานดำเนินการมาถึงรอบสื่อ พรุ่งนี้ก็เป็นรอบตัดสินแล้ว เป้าหมายคือการดำเนินการประกวดให้สำเร็จ การที่ตัวเองจะอยู่เบื้องหน้าหรือเบื้องหลังก็ไม่ใช่ประเด็นแต่ไม่เคยคิดจะใช้เวทีในการโปรโมทใดๆ แต่อยากทำเพื่อประเทศชาติ
“ทั้งนี้ปัญหาการจัดประกวดที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเวทีมิสยูนิเวิร์ส 2018 มิสเวิลด์ 2019 และนางสาวไทยปีนี้ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตัวผม ซึ่งการจัดประกวดมิสเวิลด์ 2020 ก็ต้องดูความเหมาะสม ยังดำเนินการอยู่ สำหรับผมตอนนี้ดำเนินการไปเกินครึ่งแล้ว ต้องการให้ดำเนินการอย่างชัดเจนและแข็งแรง “นายธนวัฒน์กล่าว
