| ที่มา | มติชนรายวันหน้า 18 |
|---|---|
| เผยแพร่ |
จิบชายามบ่ายในสวนสวย หอม หวาน ท่ามกลางธรรมชาติ ‘ออกานิก้า ริเวียร่า’
ทันทีที่ก้าวเข้าสู่อาคารสีเขียว ที่มีกลิ่นอายของยุโรปในศตวรรษที่ 19 ท่ามกลางบรรยากาศความร่มรื่นของแมกไม้ ก่อนที่กลิ่นหอมอ่อนๆ ของเครื่องหอมนานาชนิด จะเข้ามาเตะจมูก ก็ช่วยหลบหลีกจากความวุ่นวายของชีวิตคนเมือง จนเกือบลืมว่านี่คือ “คาเฟ่” ในห้างสรรพสินค้าในกลางเมือง
คาเฟ่ที่แสนสะดุดตา และน่าค้นหาแห่งนี้ คือ “ออกานิก้า ริเวียร่า” ที่นักแสดงสาว “ศรีริต้า เจนเซ่น” เจ้าของร้านรังสรรค์ขึ้น เป็นสาขาที่ 2 หลังจากประสบความสำเร็จกับ “ออกานิก้า เฮ้าส์” ที่ซอยสุขุมวิท 49
ไม่เพียงภายนอกที่ดึงดูดความสนใจ แต่ด้านในยังให้ความรู้สึกเหมือนดื่มชายามบ่ายอยู่ในสวน โดยเฉพาะกับการออกแบบแสง ที่เวลาเงยหน้ามองเพดาน เหมือนแสงตอนกลางวันที่ส่องลงมา ไม่เพียงเท่านั้น ธรรมชาติยังได้ถูกรังสรรค์ไว้ใกล้ตัว กับเก้าอี้ และโต๊ะหินอ่อน ที่ดีไซน์มาโดยมีดอกไม้แซมอยู่ด้านใน ใจกลางของร้าน เป็นที่ตั้งของ “บันไดวน” ที่หากเป็นคนชอบถ่ายรูป ก็คงถูกอกถูกใจไม่น้อย ปลายสุดของห้องโถงนี้ เป็นประตูโค้งที่พาเข้าสู่โลกแห่งเครื่องหอมและผลิตภัณฑ์สปา นานาชนิด
ดื่มด่ำกับธรรมชาติใกล้ตัวแล้ว เมนูอาหารของที่นี่ก็ยังคงคอนเซ็ปต์ความเป็นออร์แกนิค สำหรับคนรักสุขภาพ เหมือนกับการเดินทางที่มีแม่น้ำคอยนำทาง ทั้งเมนูคาว หวาน และเครื่องดื่มนานาชนิด แต่ละเมนูรับประทานง่ายแต่คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ ที่เชฟได้คิดค้นมาเป็นสูตรเฉพาะ
เริ่มจากเมนูอาหารคาว Crisp Mushroom & Egg Tart in a Pan ด้านนอกใช้แป้งตอร์ติญา ส่วนด้านในคือซุปเห็ดที่มาในเวอร์ชั่นทาร์ต มีชีสกับไข่เป็นตัวเสริมรสชั้นดี ถัดมาที่ Salmon steak mango salad กับปลาแซลมอนย่าง เสิร์ฟคู่กับ หน่อไม้ฝรั่งและซอสซีฟู้ดมะม่วง ให้ความรู้สึกสดชื่น มีรสเผ็ดนิดหน่อย ถูกปากคนไทย เหมาะกับคนที่กำลังลดน้ำหนัก และเมนู Crab Pasta หรือพาสต้าปูที่ผัดกับซอสมะเขือเทศเข้มข้น ให้รสชาติกลมกล่อมของซอสและเนื้อปูก้อนโต เป็นหนึ่งเมนูโปรดของ ศรีริต้า เจนเซ่น ส่วนอีกหนึ่งเมนูที่คนไทยถูกปาก ก็ไม่พ้น Grilled Pork Chop กับพอร์คช็อปที่สุกพอดี ที่กว่าจะนุ่มได้ที่ก็ต้องใช้เวลา เสิร์ฟกับซอสมัสตาร์ด มันฝรั่ง และสลัด เป็นเมนูขายดีอีกหนึ่งจาน
อิ่มกับเมนูคาว ก็ต่อกันด้วยเมนูของหวาน Smoked Forest Dark Chocolate : เค้กช็อกโกแลตลาวาหวานนุ่มที่ทานคู่กับผลไม้เบอรี่ที่รสชาติเปรี้ยวเล็กๆ กิมมิคของจานนี้ คือจะเสิร์ฟพร้อมกับที่ครอบแก้ว ซึ่งได้จุดไฟรมควันกับมะตูมแห้งด้านใน เมื่อชิมรสช็อกโกแลต จึงไม่เพียงแต่หวานพอดี กรอบเต็มคำ แต่ยังได้กลิ่นหอมที่ซึมสู่เนื้อช็อกโกแลตมาด้วย Lemon Curd Crepe เครปเลมอน ด้านในเป็นผลไม้ชิ้นโตกับเครปเนื้อแน่น ด้านในเป็นวิปปิ้งครีมสด ที่พนักงานแนะนำให้เรารีบกินเมื่อถ่ายรูปได้พอใจแล้ว เพราะอาจจะละลายได้ง่าย เมื่อทานรวมๆ กัน ก็ให้ความรู้สึกสดชื่นและหวานพอดี
Fancy Flower Panna Cotta เป็นเมนูถัดไป ที่เป็นจานที่ดึงเอาซิกเนเจอร์เรื่องกลิ่นหอม มาลงกับอาหารได้ดีที่สุด กับพานนา คอตต้า กลิ่นลาเวนเดอร์ เนื้อละมุน ให้ความรู้สึกเย็นๆ เนียนๆ เมื่อกระทบกับลิ้น เสิร์ฟคู่กับผลไม้ชิ้นโตให้ความสดชื่น
ครบถ้วนเมนูคาว-หวาน แล้ว ขาดไม่ได้กับเมนูเครื่องดื่ม ที่มาเติมเต็มความสดชื่นให้กับมื้ออาหาร โดยเฉพาะกับชาของออกานิก้า ที่เป็นสูตรเฉพาะ ใช้วัตถุดิบและส่วนผสมหลักจากธรรมชาติ คิดค้นมาเพื่อให้เข้ากับกลิ่นหอมของผลิตภัณฑ์เครื่องหอมของแบรนด์ อย่างเช่น Two Is Better Than One Memoirs of and Into The woods เป็นการผสมระหว่างชา Memoirs of Sunrise ส้ม พีช กระเจี๊ยบ และแอปเปิลอยู่รวมกัน กับ Into The woods จากใบไผ่ มะลิ และกุหลาบสีชมพู เติมความสดชื่นในชีวิต ซึ่งหากใครอยากจะเข้ามาลองลิ้มชิมรสชา ก็สามารถสั่งเซตที ปาร์ตี้ ทานคู่กับขนมคาวหวานได้
ข้ามมาที่สายกาแฟ ที่นี่มีเมนูกาแฟดริปเย็น แตกต่างจากที่อื่น แต่ละครั้งใช้เวลากว่า 2 วัน จึงจะดริปได้เต็มกา หากได้ทานแบบสดใหม่จะทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า หรือจะเป็น Orange is new black กาแฟกลิ่นส้ม ที่ให้รสสัมผัสส้มติดปลายลิ้น และ Charcoal Latte กับ Latte Shake สองเมนูที่หากฟังเผินๆ อาจคิดว่าเป็นลาเต้ธรรมดา แต่ที่พิเศษออกไปคือการผสมผงชาโคลคุณภาพพรีเมียมลงในลาเต้ร้อน และเทคนิคการทำลาเต้เย็นเป็นชั้นๆ ให้เราเห็นส่วนประกอบต่างๆ ใครชอบดื่มกาแฟร้อนให้ลองแบบแรก ส่วนคนชอบกาแฟเย็นลอง Latte Shake
ส่วนใครไม่อยากทานชาและกาแฟ ก็มี Sweet Potatoes Smoothie หรือมันม่วงปั่น ดื่มเข้าไปแล้วยังได้รสและเนื้อของมันม่วงอยู่ หวานธรรมชาติกำลังดี ซึ่งช่วงนี้ ทางร้านกำลังมีโปรโมชั่น ลด 20% สำหรับเมนูเครื่องดื่ม
ใครอยากจะลองลิ้มรส ในบรรยากาศธรรมชาติ ก็พร้อมให้สัมผัสแล้ว ที่ชั้นเอ็ม สยาม ทาคาชิมายะ ไอคอน สยาม
