| ที่มา | มติชนรายวันหน้า 18 |
|---|---|
| เผยแพร่ |
แม้ว่าจะถูกปลูกฝังมาตั้งแต่วัยเยาว์ ว่าบุหรี่เป็นยาเสพติด ที่มีแต่สร้างผลเสียต่อร่างกาย แต่นับวันกลับมีตัวเลขผู้ที่สูบบุหรี่มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกับเด็กและเยาวชน ที่นอกจากจะสร้างผลเสียต่อตนเองแล้ว ยังสร้างมลภาวะให้กับผู้อื่น เกิดเป็นโรคร้ายๆ ตามมา
จากการศึกษาที่ผ่านมาพบว่า ในบุหรี่ 1 มวน ทำให้เกิดสารเคมี 7,000 ชนิด โดยเป็นสารพิษมากกว่า 70 ชนิด ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่ออวัยวะต่างๆ เป็นสาเหตุของมะเร็งกว่า 12 ชนิด อย่างมะเร็งปอด มะเร็งลำคอและกล่องเสียง มะเร็งตับ มะเร็งเม็ดเลือดขาว รวมทั้ง โรคหัวใจ โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต และโรคถุงลมโป่งพองได้
เพราะปัญหานี้เป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องแก้ไขนี่เอง เครือข่ายยุวทัศน์ กรุงเทพมหานคร (ยทก.) จึงร่วมกับชมรมหนังสั้นและการถ่ายภาพ โรงเรียนประชาราษฎร์บำเพ็ญ โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดทำภาพยนตร์เรื่อง ดิ แอสแซสซิน : ฆาตกร ภาพยนตร์โดยเยาวชนเพื่อเยาวชน จัดฉายฟรีเมื่อช่วงวันเด็กแห่งชาติ ที่โรงภาพยนตร์เอสเอฟ ซีเนม่า สาขาเซ็นทรัลเวิลด์
ดร.นพ.บัณฑิต ศรไพศาล ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สสส. เผยว่า ปัจจุบันในเด็ก 100 คน จะมีคนสูบบุหรี่ 15 คน ดื่มเหล้า 18 คน ติดเกม 13 คน เล่นพนันบอลอีกแสนกว่าคน โดยกลุ่มที่ค้ายาเสพติดมีอายุมากที่สุด 20-25 ปี ซึ่งปัจจุบันสิ่งแวดล้อมรอบข้างมอมเมาเยาวชนไทยอย่างมาก ภายใน 7 นาที วัยรุ่นสามารถเข้าถึงร้านเหล้าได้ และใช้เวลาเพียง 15 นาที ก็เข้าถึงร้านเกม นี่เป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ การสร้างภาพยนตร์โดยเด็กและเยาวชนเพื่อเด็กและเยาวชนเอง จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญจุดหนึ่ง ที่นอกจากผู้ชมจะได้รับสารที่ผลิตมาเพื่อกลุ่มเป้าหมายแล้ว ผู้สร้างเองก็ได้ค้นคว้าด้วยตัวเอง เกิดเป็นองค์ความรู้ ซึ่งเป็นเครื่องมือป้องกันได้ดีที่สุด
ด้านพชรพรรษ์ ประจวบลาภ ประธานเครือข่ายยุวทัศน์ กรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้ควบคุมการผลิต กล่าวถึงแนวคิดการจัดสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ เผยว่า ปัจจุบันนี้สื่อหลักอย่างโทรทัศน์กลายเป็นสื่อที่วัยรุ่นไม่ค่อยสนใจ หันไปนิยมสื่อออนไลน์มากกว่า ไม่ว่าจะดูซีรีส์หรืออื่นๆ แต่สื่อภาพยนตร์ยังเป็นสื่อที่วัยรุ่นให้ความสนใจนอกจากออนไลน์เพียงอย่างเดียว แม้จะต้องเสียเงินเข้ามาชมก็ตาม
“ภาพยนตร์ไม่ได้เป็นเรื่องราวซ้ำๆ เหมือนละครทีวี ที่เด็กรู้เนื้อหาในตอนจบอยู่แล้ว แต่ภาพยนตร์มีความหลากหลายมากกว่า มีมุมใหม่ๆ ที่ไม่ซ้ำซาก ดัดแปลงหลากหลาย เมื่อเราอยากทำสื่อน้ำดีที่เสนอเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาวะขึ้นมาเรื่องหนึ่ง จึงได้เลือกสร้างภาพยนตร์ขึ้นมาเพื่อให้เด็กๆ และเยาวชนเข้ามารับชมในช่วงวันเด็กที่ผ่านมา”
สำหรับภาพยนต์เรื่องนี้ พชรพรรษ์เล่าว่า อยากเสนอภาพว่า “ฆาตกร” ตัวจริงที่คร่าชีวิตคนยังลอยนวลอยู่ในสังคม
“บอกเล่าเรื่องราวผ่านพี่น้อง 2 คนที่ชีวิตได้รับผลกระทบจากบุหรี่ ว่าเมื่อเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดแล้วจะเกิดอะไรขึ้น แล้วจุดจบของเรื่องราวเป็นเช่นไร ใช้เวลาทำเพียงไม่ถึง 1 เดือน โดยเด็ก ม.ต้นทั้งหมดจากโรงเรียนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ที่เขียนเรื่อง ถ่ายทอด ตัดต่อด้วยตัวเองทั้งหมด ซึ่งหลังจากฉายแล้วแม้จะต้องขออภัยเนื่องจากผู้ชมในรอบที่ 1 และ 2 มีการเปิดไฟล์ภาพยนตร์ผิดไป แต่ผู้ที่ได้รับชมก็ต่างชื่นชอบ ผลตอบรับดีมาก ผู้ปกครองพาลูกวัยรุ่นมาชม ซึ่งเขาจะไปวิเคราะห์ได้เองต่อจากนี้ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จมาก” พชรพรรษ์กล่าว
รวิศุทธ์ คณิตกุลเศรษฐ์ จากเครือข่ายยุวทัศน์ เผยว่า ก่อนหน้านี้เครือข่ายได้เข้าไปให้ความรู้สร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กและเยาวชนในโรงเรียนต่างๆ เรื่องยาเสพติดมาโดยตลอดในลักษณะทอล์กโชว์ ซึ่งเราได้เลือกภาพยนตร์ที่ไม่ยาวมาก เพราะเด็กและเยาวชนจะอยู่กับสิ่งต่างๆ ได้ไม่นาน 15 นาที จึงได้วางพล็อตในแต่ละเวลาว่าจะมีไคลแม็กซ์ใดต่อไป
“เพื่อให้เข้าใจถูกต้องว่าบุหรี่ไม่ใช่ไม่ดีแค่คนสูบ แต่ปลายนิ้วของผู้สูบบุหรี่ยังสร้างผลกระทบต่อผู้อื่นได้ด้วย ให้เด็กและเยาวชนได้คิด วิเคราะห์เองว่าทำไมบุหรี่ไม่ดี และให้เขาลด ละ หลีกเลี่ยงด้วยตัวเอง เพราะจากผลสำรวจพบว่า เด็กในสถานพินิจที่ติดยาเสพติด 7 ใน 10 คน ล้วนเริ่มต้นจากบุหรี่ทั้งสิ้น และไม่อยากให้ผู้ใหญ่หากินกับเด็กในเรื่องนี้ด้วย” รวิศุทธ์อธิบาย
ส่วนตัวแทนคณะผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ นัยนา จันทร์เหลือง วัย 14 ปี ชั้น ม.3 โรงเรียนประชาราษฎร์บำเพ็ญ เผยว่า การสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่ายากและมีเวลาค่อนข้างน้อย แต่ทีมงานก็ตั้งใจทำอย่างที่สุด สืบค้นข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ถือเป็นความภูมิใจที่ได้ฉายในภาพยนตร์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่าเป็นครั้งหนึ่งในชีวิต ที่สำคัญคือได้แสดงออกผ่านสื่อที่เราถนัด นำเสนอเรื่องของบุหรี่ซึ่งเป็นสิ่งไม่ดี
“หลายคนอาจมองว่าสูบบุหรี่ กินเหล้านั้นเท่ แต่ความจริงมีผลเสียหลายอย่าง ส่งผลกระทบต่อคนรอบข้างเต็มๆ ในฐานะเยาวชนก็อยากเป็นส่วนหนึ่งที่ได้สร้างความตระหนักในเรื่องนี้” นัยนาย้ำ
ปิดท้ายด้วยหรัณย์ชัย แพเจริญชัย วัย 15 ปี ชั้่น ม.4 โรงเรียนหอวัง เผยว่า ทราบจากเพื่อนว่าจะมีฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ จึงมาดู อยากรู้ว่าจะเสนอเรื่องราวแบบนี้ออกมาทางไหน ส่วนตัวมองว่าถ่ายทอดได้ดี ไม่เหมือนหนังสารคดี ส่วนใหญ่เรื่องบุหรี่นี้ก็ได้เห็นจากคนรอบตัวบ้าง เมื่อดูแลก็ได้ตระหนักมากขึ้น นำไปบอกต่อให้กับทุกคนได้เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าบุหรี่มีผลเสียต่อร่างกาย ทำร้ายคนรอบข้าง จะได้ยับยั้งตัวเองได้
สื่อทางเลือกที่เด็กทำเพื่อเด็ก อีกหนึ่งพื้นที่สร้างสรรค์ให้เด็กได้แสดงออก
