| ที่มา | มติชนรายวันหน้า 18 |
|---|---|
| เผยแพร่ |
ครั้งแรกในเอเชีย ‘ไต้หวัน’ เปิด ‘ประชุมสิทธิผู้หญิงนานาชาติ’
เป็นเรื่องที่สังคมโลกให้ความสนใจไม่น้อย สำหรับ “สิทธิสตรี” ล่าสุด นางไช่ อิง เหวิน ประธานาธิบดีไต้หวัน เปิดงานประชุม เวิลด์ คอนเฟอเรนซ์ ออฟ วีเมน เชลเทอร์ส ครั้งที่ 4 (โฟร์ดับเบิลยูซีดับเบิลยูเอส) การประชุมของกลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิผู้หญิงซึ่งมีนักเคลื่อนไหวจากทั่วโลกถึง 1,400 คน จาก 100 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วมประชุม นับเป็นการเน้นย้ำให้เห็นว่าไต้หวันให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะสิทธิของผู้หญิงในปัจจุบัน โดยการประชุมดังกล่าวนับเป็นการจัดประชุมครั้งแรกในเอเชีย
การประชุมดังกล่าวนับเป็นการประชุมเพื่อสิทธิผู้หญิงและปกป้องผู้หญิงจากความรุนแรง ในระดับนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดขึ้น 4 ปีครั้ง โดยก่อนหน้านี้เคยจัดการประชุมขึ้นที่ประเทศแคนาดา สหรัฐอเมริกา และเนเธอร์แลนด์ โดยการประชุมโฟร์ดับเบิลยูซีดับเบิลยูเอสในครั้งนี้ จัดภายใต้แนวความคิด “อิมแพกต์ :โซลิแดริตี” หรือ “ผลสะท้อน :ความเป็นหนึ่งเดียว”
ประธานาธิบดีไช่ ประธานาธิบดีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ไต้หวัน ระบุในสุนทรพจน์เปิดการประชุมว่า ขอบคุณมูลนิธิการ์เดนออฟโฮป ที่เลือกไต้หวันเป็นที่จัดการประชุมในปีนี้ ซึ่งไม่เพียงทำให้ไต้หวันถูกจับตามองในเวทีโลก แต่ยังเน้นย้ำให้เห็นถึงความพยายามของไต้หวันตลอดหลายปีที่ผ่านมาเพื่อยกระดับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่ครอบคลุม ซึ่งหนึ่งในนั้นรวมไปถึงการขจัดข้อจำกัดและการเลือกปฏิบัติที่มีต่อผู้หญิงในที่ทำงาน
นอกจากนี้ประธานาธิบดีไช่ยังขอบคุณองค์กรไม่แสวงผลกำไรในประเทศหลายองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนสิทธิมนุษยชน พร้อมทั้งยืนยันว่า จะดำเนินนโยบายด้านสิทธิมนุษยชน ประชาธิปไตย ต่อไปอย่างต่อเนื่อง
“หากเราสามารถทำงานร่วมกันได้ เราสามารถทำให้ไต้หวันมีความเท่าเทียมและเที่ยงธรรมมากขึ้น” นางไช่กล่าว
ทั้งนี้ นางไช่ยังชื่นชมนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรีที่มาร่วมในการประชุมถึงความพยายามอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยและการมีส่วนร่วม ความพยายามที่จะช่วยให้โลกของเราเป็นที่ๆ ดียิ่งขึ้น
การประชุมโฟร์ดับเบิลยูซีดับเบิลยูเอส จะมีการประชุมเต็มคณะ 7 หัวข้อ มี 63 เวิร์กช็อป และมีอีเวนต์ที่จัดคู่ขนานไปกับการประชุมใหญ่อีก 13 งาน โดยประเด็นการหารือรวมไปถึงประเด็นที่กำลังเป็นที่สนใจ ศิลปะ การจัดการสถานสงเคราะห์ นโยบาย การออกกฎหมาย การส่งเสริมด้านเศรษฐกิจ ในบรรดาเนื้อหาเหล่านี้รวมไปถึงประเด็นทางสังคม อย่างการจัดการสถานสงเคราะห์ของกลุ่มแอลจีบีที การคุกคามทางเพศกับผู้ประท้วงชาวฮ่องกง รวมไปถึงการเคลื่อนไหว #MeToo ก็ถูกรวมอยู่ในการประชุมครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
