| ที่มา | คอลัมน์ World Update มติชนรายวันหน้า 18 |
|---|---|
| เผยแพร่ |
ลองตาย ก่อนตายจริง เพื่อรู้จักใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ก่อนตาย
ลองตาย – ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา ไม่ใกล้ตาย ก็ยังคิดไม่ได้เสียที ก็เพราะธรรมชาติของคนเรามักเป็นเช่นนี้แหละ ที่ศูนย์เฮียววอน ฮีลลิง เซ็นเตอร์ ในกรุงโซล เกาหลีใต้ จึงมีโครงการจัด “งานศพหมู่ให้คนเป็น” ได้ลองมาสัมผัสความตายของตัวเอง ด้วยตัวเองดูสักครั้ง ด้วยความหวังว่าประสบการณ์นี้จะช่วยเตือนสติให้ผู้เข้าร่วมงานได้ตระหนักถึงความหมาย และความสุขของการมีชีวิตอยู่
จากบทความของรอยเตอร์เล่าว่า นับแต่เริ่มเปิดศูนย์เมื่อปี 2555 ศูนย์เฮียววอน ฮีลลิง เซ็นเตอร์ ได้จัดโครงการตายดีมาตลอดจนถึงปัจจุบันนับเป็นปีที่ 7 แล้ว และมีผู้เข้าร่วมพิธีในโครงการรวมทั้งหมดแล้วกว่า 25,000 คน โดยครั้งล่าสุดซึ่งจัดไปเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา ก็มีผู้เข้าร่วมพิธีทุกเพศ ทุกวัย ตั้งแต่วัยรุ่น ถึงวัยเกษียณ
ทั้งนี้ในพิธีดังกล่าว ผู้เข้าร่วมพิธีทั้งเด็กวัยรุ่น จนถึงคนวัยเกษียณจะได้สวมผ้าห่อศพ ได้ถ่ายรูปของตัวเองสำหรับไว้ตั้งหน้าศพ ได้เขียนพินัยกรรม หรือจดหมายเพื่อบอกความรู้สึก ความต้องการในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต ได้ลงไปนอนในโลงศพเป็นเวลา 10 นาที
โช แจ ฮี วัย 75 หนึ่งในผู้เข้าร่วมพิธี บอกกับรอยเตอร์ว่า “ทันทีที่คุณตระหนักถึงความตาย และได้ลองสัมผัสประสบการณ์นี้ดู มันจะทำให้คุณได้สัมผัสชีวิตใหม่”
ชอย จิน เคียว นักศึกษามหาวิทยาลัยวัย 28 เล่าถึงความรู้สึกขณะนอนอยู่ในโลงศพว่า มันทำให้เขานึกได้ว่า บ่อยครั้งที่เขามองคนอื่นเป็นคู่แข่ง “เมื่อผมนอนอยู่ในโลงศพ ผมก็เกิดคำถามว่าการคิดเช่นนั้นจะมีประโยชน์อะไร”
ชอย จิน เคียว เล่าว่า ประสบการณ์นี้ทำให้เขาคิดได้แล้วว่า หลังเรียนจบเขาจะทำธุรกิจของตัวเอง ดีกว่าจะไปแข่งขันหางานทำ ในตลาดการจ้างงานที่เต็มไปด้วยการแข่งขันอย่างดุเดือด
จากข้อมูลที่ได้จากดัชนีชี้วัดชีวิตที่ดีกว่าขององค์กรเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา ระบุว่า เกาหลีใต้อยู่ในอันดับที่ 33 จาก 40 ประเทศที่มีการสำรวจ และคนหนุ่มสาวเกาหลีใต้จำนวนมากที่ตั้งความหวังไว้สูงเรื่องการศึกษาและการหางานทำ ซึ่งมักไม่สมหวังเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ถดถอย และตัวเลขการว่างงานที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่มีข้อมูลขององค์กรอนามัยโลกระบุว่า เมื่อปี 2559 เกาหลีใต้มีอัตราการฆ่าตัวตาย 20.2 ต่อประชากร 100,000 คน สูงเกือบ 2 เท่าของอัตราเฉลี่ยทั่วโลกที่อยู่ที่ตัวเลข 10.53 ต่อประชากร 100,000 คน
“มันเป็นเรื่องสำคัญที่เราควรได้เรียนรู้และเตรียมตัวสำหรับความตาย แม้แต่ตอนอายุยังน้อย” ศาตราจารย์ยู อุน-ซิล แพทย์แผนกพยาธิวิทยาของศูนย์การแพทย์อาซาน ซึ่งเขียนหนังสือเกี่ยวกับความตายกล่าว
ฮีลลิง เซ็นเตอร์ เล่าถึงแรงบันดาลใจที่ทำให้ศูนย์ลุกขึ้นมาจัดพิธีศพหมู่ให้คนเป็น โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ว่า “เป็นเพราะต้องการช่วยให้คนที่ยังมีลมหายใจอยู่ รู้จักคุณค่า และซาบซึ้งในชีวิตของตัวเอง รู้จักให้อภัย และหันหน้าคืนดีกับคนในครอบครัว เพื่อนฝูง ก่อนที่มันจะสายเกินไป”
จอง ยอง มุน เล่าว่า เขารู้สึกตื้นตันใจ เวลาเห็นผู้คนหันหน้าเข้าหากัน คืนดีกันในงานศพของญาติ แต่ก็รู้สึกเสียใจที่พวกเขารอนานเกินไป “เราไม่ได้มีกันตลอดไป นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมจึงคิดว่านี่เป็นประสบการณ์ที่สำคัญ เพราะเราสามารถที่จะให้อภัย และหันหน้าคืนดีกันได้เร็วขึ้น และใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างมีความสุข”
หัวหน้าศูนย์เฮียววอนฯ เล่าว่า ที่ผ่านมาเขายังเคยมีโอกาสเกลี้ยกล่อมให้คนที่คิดจะฆ่าตัวตาย เปลี่ยนใจด้วย “ผมต้องการให้ทุกคนรู้ว่า พวกคุณคือคนสำคัญ และต้องมีคนเสียใจหากคุณตายไป ความสุขมีอยู่ในปัจจุบันเสมอ”
