เบื้องหลัง บิวตี้ควีน ‘วาเลนติน่า-โกโก้’ ความสำเร็จ ‘สู้ยิบตา’

เบื้องหลัง บิวตี้ควีน ‘วาเลนติน่า-โกโก้’ ความสำเร็จ ‘สู้ยิบตา’

บิวตี้ควีน – ท่ามกลางการจับตามองจากทั่วโลกต่อสถานการณ์ภายในประเทศเวเนซุเอลาที่ทวีความโกลาหลขึ้นทุกที เวทีการประกวด “มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล” กลับเดินสวนทางเลือกเวเนซุเอลาเป็นประเทศเจ้าภาพในการจัดงาน ภายใต้แคมเปญ “ยุติสงครามและความรุนแรง” (Stop the War and Violence) ขณะที่มีตัวแทนสาวงามจากหลายประเทศถอนตัวจากการแข่งขันด้วยกังวลเรื่องความปลอดภัย

กระนั้นการประกวดก็ดำเนินไปอย่างราบรื่น กระทั่งปิดม่านลงอย่างงดงาม และน่าประทับใจ

อย่างไรก็ดี “เวเนซุเอลา” เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องอุตสาหกรรมผลิต “นางงาม” เป็นตัวเก็งในทุกเวทีการประกวด ทั้งยังได้กลายเป็นมาตรฐานของนางงามดังที่หลายคนได้ยินบ่อยๆ ว่า “จริตเวเน”

ซึ่งในการประกวดครั้งนี้ วาเลนติน่า ฟิกเกวียร่า ตัวแทนสาวงามจากเวเนซุเอลาก็ทำผลงานทั้งระหว่างการเก็บตัวทำกิจกรรม บนเวที และตอบคำถามได้อย่างมีพัฒนาการ จนกระทั่ง “มงในบ้าน” คว้าตำแหน่ง “มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2019” ไปครองได้สำเร็จ

Advertisement

เป็นมิสแกรนด์อินเตอร์ฯ คนที่ 7 ของโลก

สำหรับ วาเลนติน่า อายุ 19 ปี โด่งดังและมีฐานแฟนนางงามจากการชนะการแข่งขันรายการเรียลิตี้เฟ้นหาสาวงามของเวเนซุเอลา เธอเล่าถึงวินาทีสวมมงกุฎว่า

“ฉันรู้สึกเต็มตื้นไปด้วยหลายๆ ความรู้สึก ในวินาทีนั้นฉันรู้สึกมีความสุขมากๆ มันยาวนานมาถึงตอนนี้เลย เป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำ”

Advertisement

 

ส่วนเหตุผลที่ทำให้คณะกรรมการเลือกเธอ นั่นเป็นเพราะ “ผลงานของเธอ”

“ฉันไม่เคยยอมแพ้ ไม่เคยยกเลิกความตั้งใจ ฉันทำงานหนัก และไม่เคยพูดคำว่า “ไม่” หรือ “ทำไม่ได้” บนเส้นทางตั้งแต่เวทีมิสแกรนด์เวเนซุเอลา จนกระทั่งได้รับตำแหน่งมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2019 ฉันเทรนนิ่งอย่างหนัก ออกกำลังกาย และฉันใส่ความพยายามและการทุ่มเทลงไปทุกครั้ง” วาเลนติน่ากล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจและเล่าถึงแหล่งพลังกำลังใจของเธออย่างสดใสว่า

“ฉันรู้สึกกดดันมากในการประกวดครั้งนี้ อย่างแรกเลยเพราะเป็นการแข่งขันในบ้าน แต่แฟนๆ ชาวเวเนซุเอลาเชียร์หนักมาก คือเดอะเบสต์ ฉันรักพวกเขา และสัมผัสได้ว่าพวกเราชาวเวเนซุเอลามีความสุขมากกับการประกวดครั้งนี้ เพราะเป็นการจัดเวทีการประกวดระดับแกรนด์สแลมครั้งแรกในเวเนซุเอลา เราภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าภาพ เพราะเป็นการนำความสุขมาให้ชาวเวเนซุเอลาและเป็นข่าวดีจริงๆ”

เรียกได้ว่าเธอได้รับการสนับสนุนที่ดีมาก ไม่ว่าการประกวดจะเป็นอย่างไร แต่เสียงเชียร์ “เวเนซุเอลา” ไม่เคยหายไปเลย

การเป็นสาวงามที่จะได้สวมสะพาย “เวเนซุเอลา” นั้นไม่ง่ายแน่นอน

“การเป็นบิวตี้ควีนของเวเนซุเอลาต้องทำงานหนัก ทุกวินาทีคือต้องใช้ทุกสิ่งที่เรียนรู้มาทั้งหมด ทั้งเรื่องร่างกาย การพูดสุนทรพจน์ การเดิน ซึ่งจะมีโรงเรียนสำหรับเทรนนิ่งการเป็นนางงามโดยเฉพาะ เราเรียนหลายอย่างมากๆ แต่สำหรับตัวฉันเองใช้เวลาในการเทรนด์ 1 ปี โดยเฉพาะการเรียนแต่งหน้าและภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก”

ทั้งนี้ หลังจากได้ตำแหน่งมาหมาดๆ มิสแกรนด์อินเตอร์ฯ คนล่าสุดก็เดินทางมาทำภารกิจที่ประเทศไทยในทันที ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ยังเป็นการเดินทางออกนอกประเทศ “ครั้งแรก” ของเธออีกด้วย

“ฉันรู้สึกมีความสุขมากที่ได้มาเมืองไทย เพราะเหมือนที่บ้านเกิด ผู้คนใจดีและเฟรนด์ลี่มากๆ ทั้งยังมีอาหารที่อร่อย ฉันชอบส้มตำและต้มข่าไก่” วาเลนติน่ากล่าวด้วยรอยยิ้ม

แน่นอนว่าเมื่อมาเมืองไทย วาเลนติน่าก็ได้ไกด์คนสวยคอยประกบ ไม่ใช่ใครที่ไหน “โกโก้-อารยะ ศุภฤกษ์” ตัวแทนสาวไทยซึ่งคว้ารองอันดับ 2 มิสแกรนด์อินเตอร์ฯ มาครอง

โกโก้เล่าถึงบรรยากาศการประกวดว่า “สู้สุดชีวิต สู้ยิบตา”

“ตอนแรกไม่คิดว่าจะหนักขนาดนี้ เรียนไปหมดทั้งแต่งหน้า ทำผม เดินแบบ ภาษาอังกฤษ แต่พอไปอยู่ในกองประกวดจริงๆ รู้สึกว่าไม่ได้ละ ต้องดึงศักยภาพของตัวเองออกมาสู้กับเขา โก้ทำการบ้านทุกวัน เวลามีกิจกรรมก็ต้องให้ความร่วมมือ ต้องอยู่ถึงวินาทีสุดท้ายเพื่อให้เขารู้ว่าฉันคือไทยแลนด์ ฉันเต็มที่นะ” โกโก้กล่าว

เกี่ยวกับ “ท่าหมุนตัว 3 รอบ” ในการเดินประกวดชุดว่ายน้ำ และชุดราตรีรอบสื่อ ซึ่งมีคนให้ความสนใจเยอะมาก อารยะ ตอบทันทีว่า

“ตั้งใจค่ะ วางแผนมาแล้วว่าต้องให้คนจำ”

“โก้คิดว่าในการประกวดรอบชุดว่ายน้ำจะทำยังไงดี การเดินแล้วหมุน 1-2 รอบต้องมีคนทำแล้วแน่ๆ โก้เลยหมุน 3 รอบไปเลย ไม่มีใครทำแน่นอน และก็ไม่มีใครทำจริงๆ” อารยะกล่าวด้วยรอยยิ้ม

พร้อมพูดถึงวาเลนติน่าว่า วาเลนติน่าน่ารักมากเป็นน้องเล็กในกองที่สูงที่สุดในการประกวด เวลาที่ซ้อมเต้น ทั้งสองจะได้อยู่ข้างกัน เวลาที่มองหน้ากันก็จะขำตลอด (หัวเราะ) เราแฮปปี้และสนุกมาก ซึ่งในเวลาว่างก็จะผลัดกันสอนภาษาให้กัน

ส่วนเรื่องกระแสด้านลบที่ประสบตั้งแต่ตอนรับตำแหน่ง “มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2019” จนถึงตอนนี้ที่คว้ามงกุฎรองอันดับ 2 มิสแกรนด์อินเตอร์ฯ ได้สำเร็จ

“ตอนนี้หายเหนื่อยแล้ว รู้สึกมีความสุขกับสิ่งที่ได้ทำ เป็นความภาคภูมิใจ และมองว่าต้องพัฒนาตัวเองทุกๆ วันมากกว่า เช่น ในวันนี้ดีแล้ว แต่พรุ่งนี้ต้องดีกว่า ต้องกระโดดขึ้น ก้าวขึ้นตลอด มั่นใจในตัวเองและมั่นใจในกำลังใจที่ทุกคนส่งให้ จนในที่สุดก็ทำได้จริงๆ” โกโก้กล่าวทิ้งท้าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image